กระดานสุขภาพ
สงสัยว่าเป็นcondyloma??? | |
---|---|
9 ตุลาคม 2560 15:39:12 #1 สอบถามหน่อยครับ จากรูป แฟนผม เป็นcondylomaหรือเปล่าครับ ผมเคยผมติ่งเนื้อบริเวณปลายpennis แต่ไม่ได้รักษาครับเมื่อปีที่แล้วครับ หังจากนั้นมันได้หายไปเอง มีต้นเดือน มิ ย แฟนผมมีติ่งเนื้อ แบบนี้ขึ้นมา ผมสงสัยว่าเป็นcondylomaหรือไม่ครับ เพราะผมมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย โดยส่วนใหญ่ครับhttp://haamor.com/media/images/webboardpics/54116-38930.jpeg |
|
อายุ: 27 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.84 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
10 ตุลาคม 2560 09:49:05 #2 จากรูปแฟนคุณมีการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ โดยเป็นโรคหูดหงอนไก่ค่ะ ซึ่งจะเห็นรอยโรคมีลักษณะคล้ายหงอนไก่อยู่เต็มไปหมด โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส hpv ชนิดที่ 6 และ 11 จะทำให้เกิดรอยลักษณะเหมือนหงอนไก่ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จะต้องรักษาโดยการจี้ยากรดอะซิติก และถ้ารอยโรคมีปริมาณมากอาจจะต้องใช้เลเซอร์ หรือใช้ไฟฟ้าจี้ทำลาย ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการถ่ายทอดเชื้อนี้เพิ่มหรือรับเชื้อนี้เพิ่มเติมค่ะ |
Anonymous |
10 ตุลาคม 2560 11:49:14 #3
ผมขอสอบถามเพิ่มเติมครับ มียารักษาเองไหมครับ
จากรูป เปนเพียงภายนอกหรือ ในช่องคลอดด้วยครับ
และ มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ใช่ไหมครับ
และผมเองมีโอกาสเป็นได้ใช่ไหมครับ เพราะ ช่วงที่เป็นผมไม่ได้สวมถุงยางครับ
|
Anonymous |
10 ตุลาคม 2560 11:57:05 #4
ข้อมูลเพิ่มเติม ผมคบกับแฟนมาได้2ปี ครับ
แต่ก่อนหน้าที่ผมจะมาคบแฟนคนนี้ คือ ผมเลิกกับแฟนเก่าได้ประมาณ1 เดือน และมาคบต่อ เปนไปได้ไหมครับที่ผมได้รับเชื้อHBVมาตั้งแต่แฟนคนแรก พอมาคบแฟนคนนี้ ผมมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน จึงทำให้แพร่มากับแฟนคนปัจจุบัน
คบกัน ต.ค.58 แฟนคนปัจจุบัน มีติ่งขึ้น มิ.ย.60
โดยเธอบอกไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครนอกจากผม
ซึ่งตัวผมเองรู้แก่ใจว่าผมเคยเป็น แต่ไม่รู้จะบอกแฟนอย่างไรคับ
และที่ผมสงสัย หลังจากที่เราได้รับเชื้อมามันสามารถอยู่ในร่างกายเราได้ระยะเวลากี่ปีครับ เพราะผมก้อคบกับแฟนปัจจุบันมา2ปี เพิ่งมามีเจ้าติ่งเนื้อนี้เมื่อมิ ย60 เองครับ
|
Anonymous |
10 ตุลาคม 2560 12:00:24 #5
เท่าทีีผมหาความรู้มา ผู้หญิงมีโอกาสเกิดโลกนี้สูงกว่าผู้ชาย ผมทีโอกาสแพร่เชื้อได้อีกใช่ไหมครับ โดยที่ไม่มีรอยโรค ก็ควรสวมถุงยางทุกครั้งใช่ไหมครับ
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
11 ตุลาคม 2560 08:51:48 #6 โรคหูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เกิดจากการติดเชื้อไวรัส hpv ชนิดที่ 6 และ 11 ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว โดยส่วนใหญ่เชื้อไวรัสจะไม่มียารักษา เมื่อมีอาการเชื้อมักจะอยู่ในร่างกายและจะเกิดอาการซ้ำได้ใหม่ถ้ามีภูมิต้านทานของร่างกายลดต่ำลง ดังนั้น การสวมถุงยางอนามัยจะช่วยป้องกันการรับเชื้อเพิ่มได้ ตอนนี้คงไม่สามารถตอบได้ว่าคุณได้รับเชื้อมาจากใคร เวลาใด อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเชื้อแล้วก็จะถ่ายทอดไปให้คนอื่นๆได้อีก และมีโอกาสที่จะกลับเป็นซ้ำได้อีกตลอดเวลา ในกรณีถ้าต้องการมีบุตรและมีการติดเชื้อนี้ขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ลูกก็จะมีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อในขณะคลอดได้เช่นกัน ดังนั้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในด้วย ถ้ามีรอยโรคที่บริเวณช่องคลอดแพทย์ก็จะทำการจี้อย่าทิ้งเช่นกันเพื่อที่การรักษาจะได้หายทั้งหมดค่ะ |
Anonymous