กระดานสุขภาพ
จะท้องมั้ยครับ | |
---|---|
28 กรกฎาคม 2560 09:56:07 #1 สวัสดีครับพอดีอยากปรึกษาครับ วันที่6/6/60ผมมีอะไรกับแฟนแต่ไม่ได้สอดใส่และไม่ค่อนได้ยุ่งตรงช่องคลอดด้วยครับ พอมือเลอะก้ล้างน้ำล้างสบู่เลย พอสักพักประจำเดือนก้มาวันที่20/6/60หมดวันที่24/6/60 และมาอีกทีวันที่3/7/60 มาวันละไม่เยอะมากแต่นานมากครับหมดวันที่10/7/60ระหว่างนั้นก้ได้ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจครั้งถึงสองครั้งทุกสัปดาห์ ก้1ขีดทุกครั้ง จากนั้นเมื่อประจำเดือนรอบที่มายาวๆหมด พอถึงวันที่13/7/60ก้มีอาการเจ็บๆนมประมาณ3-4วันครับและประมาณวันที่20/7/60ก็มีอะไรกันนิดหน่อยแต่ไม่ได้ยุ่งช่องคลอดหรือไม่ได้แหย่เข้าไปเลยครับ. ประจำเดือนควรจะมาประมาณวันที่23อะครับแต่แฟนผมเป็นคนประจำเดือนมาไม่ค่อยตรงบางทีก้มาเลยเป็นอาทิตย์ ส่วนวันอังคารที่ผ่านมา25/7/60แฟนผมก้ปวดท้องน้อยแบบเป็นๆหายๆและมีอาการมึนหัว ง่วงเพลียมา3-4วันได้แล้วอะครับ อยากทราบว่าจะท้องมั้ยอะครับ เครียดกันมากเลยครับช่วยด้วยครับ |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
31 กรกฎาคม 2560 09:09:49 #2
ช่วยยตอบด้วยครับ เครียดมากเลยครับ
|
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
31 กรกฎาคม 2560 09:43:50 #3 หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ซึ่งอาการของการตั้งครรภ์นั้น จะเริ่มจากประจำเดือนขาดเป็นอย่างแรกเลยนะครับ ซึ่งทางการแพทย์จะนับจากรอบประจำเดือนรอบสุดท้าย ดังนั้น วันที่ประจำเดือนไม่มานั้น ก็จะเป็น 4 สัปดาห์แล้ว ส่วนอาการต่อมานั้น ก็จะมีอาการคลื่นไส้ วิงเวียน ซึ่งจะเร่ิมตอนอายุครรภ์ประมาณ 6-8 สัปดาห์ และ ช่วงนี้อาจมีอาการปัสสาวะบ่อยขึ้นได้เป็นต้นครับ ดังนั้น จากที่กล่ามาหมอคิดว่า ไม่ได้เป็นอาการของการตั้งครรภ์นะครับ ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ |
Anonymous |
31 กรกฎาคม 2560 10:53:03 #4
ช่วยยตอบด้วยครับ เครียดมากเลยครับ
|
Anonymous |
31 กรกฎาคม 2560 10:58:31 #5
ขอบคุณมากครับ พอดีประจำเดือนมาแล้วแต่พอดีมาแค่ ประมาน3-4วันอะครับ อาการนี้ไม่ได้มีอะไเกี่ยวการตั้งครรภ์ใช่มั้ยครับ ขอบคุณมากครับ
|
Anonymous