กระดานสุขภาพ
สอบถามค่ะ | |
---|---|
19 มิถุนายน 2560 18:13:30 #1 คือไม่แน่ใจว่าแฟนไปมีผู้หญิงไหมอะคะ จู่ๆก็มีแผลที่อวัยวะเพศเหมือแผลร้อนในค่ะ คือก่อนหน้านี้เป็นตกขาวสีเขียวไม่คันมีกลิ่นนิดหน่อย ไปคลิกนิกหาหมอตรวจภายในแค่ถามอาการและให้ยาทานกับยาสอดอีก6เม็ดมาแต่ก็ไม่หายค่ะ มีโอกาสจะเป็นโรคร้ายไหมคะ |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Winn*****r |
19 มิถุนายน 2560 18:15:12 #2 http://haamor.com/media/images/webboardpics/c7eb6-36748_1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/c7eb6-36748_2.jpg สีตกขาวปัจจุบัน และ แผลที่เป็นได้2วันค่ะ |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
21 มิถุนายน 2560 15:19:43 #3 จากรูป หมอไม่เห็นแผลที่ชัดเจน ถ้าแผลมีลักษณะเหมือนแผลร้อนใน มีอาการเจ็บแสบเมื่อไปสัมผัสถูก น่าจะเกิดจากการติดเชื้อเริม ซึ่งคนไข้มักจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว เหมือนการติดเชื้อไวรัสทั่วไป แต่จากรูปถ้ามีตกขาวสีเขียวมีอาการคัน และได้รับการรักษาโดยการสอดยา 6 คืน เข้าใจว่าแพทย์น่าจะสงสัยว่ามีการติดเชื้อรา ถ้าอาการดีขึ้นก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องรักษาต่อ แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นมีตกขาวผิดปกติ และแผลมีขนาดใหญ่ขึ้นมีอาการเจ็บแสบร้อน ก็ควรมาพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องต่อไป เพราะอาจจะเกิดจากการติดเชื้อไวรัส กลุ่ม herpes simplex ที่ทำให้เกิดเริม จำเป็นต้องรักษาโดยการใช้ยากลุ่ม Acyclovir ดังนั้นควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยจะดีที่สุดค่ะ จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ |
Anonymous |
21 มิถุนายน 2560 16:09:00 #4
เคยเป็นเริมที่ปากสองครั้งในปีที่แล้วค่ะ ช่วงนี้พักผ่อนน้อยมากค่ะ เครียดด้วย สามารถทายาไว***นที่ทาเริมที่ปากได้ไหมคะ เพราะเขียนข้างหลอดว่าทาที่อวัยวะเพศได้ หรือควรไปพบแพทย์ให้ไวที่สุดเพื่อทายาต้านไวรัสคะ ตอนนี้ที่แผลไม่มีอาการคันนะคะ
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
22 มิถุนายน 2560 03:41:48 #5 สามารถรักษาโดยการทายาข้างต้น ที่คุณบอกมาได้ เพราะเป็นยาต้านเชื้อไวรัสเช่นกันค่ะ ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แต่ถ้ารับประทานยาต้านเชื้อไวรัสด้วย จะได้ผลดีมากขึ้น เพราะเป็นการติดเชื้อไวัส จะป้องกันการกลับเป็นซ้ำได้ดีมากกว่าการทายาภายนอกเพียงอย่างเดียวค่ะ |
Anonymous