กระดานสุขภาพ

เรียนปรึกษาจิตแพทย์
Anonymous

21 มกราคม 2557 20:19:30 #1

เรียนปรึกษาแพทย์ครับ


ผมอายุ 32 ปี แต่มีแฟนเด็ก แฟนอายุ 20 ปี ปัญหาคือก่อนคบกันแฟนผมไม่ทราบว่าผมเคยมีครอบครัวมาก่อนและมีบุตร 1 คน แต่ปัจจุบันก็ได้เลิกกับคนเก่าไปแล้ว ส่วนบุตรนั้นอยู่กับทางญาติของผมที่ต่างอำเภอ แฟนใหม่ผมเขาเพิ่งทราบเรื่องราวในอดีตของผมเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านี้เขาก็สงสัยและมีปัญหากันมาก่อนเรื่องที่ผมมีครอบครัวแล้ว ผมเองก็ยอมรับผิดทั้งหมด

ปัญหาหลักๆตอนนี้คือ แฟนใหม่ผมเขาจะคิดแต่เรื่องเก่าๆของผมในอดีต ว่าผมเคยมีลูกมาแล้ว เขาบอกว่ารู้ว่าแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เขาไม่สามารถที่จะหยุดคิดได้

เคยพาไปปรึกษาจิตแพทย์ จิตแพทย์พยายามพูดให้เขายอมรับความจริง แต่แฟนผมปฎิเสธที่จะให้ผมดูแลบุตร จิตแพทย์ท่านนั้นบอกว่า แฟนผมเขาไม่โต และถ้าไม่รับก็ไม่หาย ประมาณว่าถ้าไม่ยอมรับความจริงเขาก็จะไม่มีวันหายคิดเรื่องอดีต แฟนผมกลับพูดตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร เขาจะไม่หาย เขายอมเป็นแบบนี้

แฟนผมยื่นคำขาดว่า ถ้ามีบุตรผมเข้ามาเกี่ยวข้องก็ต้องไม่มีตัวเขา เขาบอกว่าจะเลิก และผมก็ยอมเลิกตามที่เขาต้องการ แต่พอเอาเข้าจริงๆเขาก็ร้องไห้ขอร้องให้ผมกลับมาอยู่ด้วย พร้อมกับบอกว่าเขาจะยอมทุกอย่างยกเว้นไม่อยากให้ผมยุ่งกับเด็ก ผมเลยอยู่กับแฟนต่อผ่านไป 1 อาทิตย์ ดูเหมือนทุกๆอย่างดีขึ้น แต่พอมาวันนี้เขายังคงคิดเรื่องเก่าๆ นอนไม่ได้กินไม่ได้ และตอนนี้ก็ทุกข์ใจมากๆ ไม่รู้จะหาทางออกยังไง แฟนผมเองก็ไม่ยอมไปหาจิตแพทย์แล้วด้วยครับ


ผมใคร่ขอความช่วยเหลือแนะนำให้ผมด้วยครับ ทุกข์ใจเหลือเกินไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร

 

           ขอบพระคุณครับ

อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 82 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

23 มกราคม 2557 14:50:19 #2

ความรู้สึกของแฟนคุณตอนนี้ก็คือเธอกำลังรู้สึกว่า "ถูกหลอก" จากคนที่เธอรัก แถมญาติคนที่เธอรักก็ช่วยกันปกปิดเรื่องให้ด้วยการช่วยเลี้ยงดูลูกที่เกิดจากภรรยาคนงเก่าของคุณอีกต่างหาก

ความรู้สึกว่า "ถูกหลอก" นี่เรื่องใหญ่ครับ โดยเฉพาะการถูกหลอกจากคนที่ตัวเองรักและไว้ใจที่สุดจนอยากฝากชีวิตไว้ด้วยนี่มันแรงหลายเท่า เป็นใครก็เจ็บทั้งนั้นแหละครับ

ดังนั้น คำถาม "แล้วฉันเป็นตัวอะไรกันนี่" มันจึงก้องอยู่ในใจของเธอตลอดเวลา และด้วยคำถามนี้นี่เองมันจึงทำให้เธอรู้สึกแย่ อยากจะหนีไปให้พ้น แต่การหนีไปจากคำถามนี้มันก็ต้องแลกด้วยการไม่มีคุณ ซึ่งเธอก็รับไม่ได้อีกเช่นกัน

น่าเห็นใจเธอนะครับ

ผมก็ไม่อยากให้คุณมองว่าเธอเป็นเด็กที่ยังไม่โตนะครับ เพราะความรักเป็นเรื่องของอารมณ์ บางทีเหตุผล(ที่ผู้ใหญ่ชอบอ้าง)ก็ไม่สามารถใช้การได้ในกรณีเช่นนี้

ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับเธอในตอนนี้ มันเข้าได้กับสิ่งที่ทางจิตวิทยาเขาเรียกว่า "ปฏิกิริยาตอบสนองต่อข่าวร้าย" คือจะเริ่มต้นจากความรู้สึกช็อคต่อข่าวนั้น ไม่เชื่อว่ามันเป็นจริง แต่พอทุกอย่างถูกยืนยันว่าจริง ก็จะเริ่มโกรธ น้อยใจ เศร้าเสียใจว่าทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ด้วยนะ อาจจะมีการอาละวาดเอาเรื่องกับคนที่เกี่ยวข้อง(ซึ่งคุณก็โดนไปแล้ว) อาจมีการต่อรองเพื่อขอรับความจริงเพียงบางส่วน(ฉันจะอยู่กับคุณ แต่ต้องไม่มีลูกของคุณนะ ประโยคนี้ความหมายของมันคือ ฉันขอรับความจริงว่าคุณแต่งงานแล้ว แต่ผลผลิตแห่งการแต่งงานคือลูกของคุณฉันไม่รับนะ คือการไม่รับความจริงทั้งหมดนั่นเอง) และในที่สุดการยอมรับความจริงทั้งหมดก็จะเกิดขึ้น

แต่ทั้งหมดต้องใช้เวลาครับ และผมเชื่อว่าเธอจะรับความจริงทั้งหมดของคุณได้ในที่สุด เพราะความรักที่เธอมีให้กับคุณนั้นแรงมาก มันจะเป็นสายใยยึดโยงเธอกับคุณเอาไว้(ตรงนี้ต้องบอกว่าคุณเป็นคนที่น่าอิจฉามาก) และมันจะเป็นแรงผลักให้เธอสามารถก้าวผ่านความเสียใจนี้ไปได้ในที่สุด

สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ทำความเข้าใจกับอารมณ์และความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นกับเธอ ให้กำลังใจเธอ แสดงความรักกับเธอเหมือนปรกติ พยายามควบคุมตัวเองอย่าหงุดหงิดกับปฏิกิริยาต่างๆ ของเธอ เพราะเธอกำลังฟันฝ่าอุปสรรคอันนี้อยู่ ให้เวลาเธอหน่อย ข้อสำคัญอย่าทำอะไรที่จะทำให้เธอเกิดความรู้สึกว่าคุณเป็นคนหลอกลวง ไม่ซื่อ อีกเด็ดขาด (เพราะตอนนี้เธอกำลังรู้สึกเช่นนั้นอยู่ ขืนมีคดีที่สองอีกใครก็ช่วยคุณไม่ได้)

ส่วนเรื่องลูก เอาไว้ให้เธอก้าวผ่านความรู้สึกเสียใจนี้ไปก่อนแล้วค่อยคุยกับเธอ ต้องไม่ลืมครับว่าแม้คุณจะแต่งงานใหม่ แต่คุณก็ยังมีลูกอยู่อีกคนที่ไม่ได้เกิดจากภรรยาคนนี้ ในอนาคตเธออาจจะยอมรับลูกที่เธอไม่ได้อุ้มท้องคนนี้ก็ได้

ขอเอาใจช่วยครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร