กระดานสุขภาพ

โรคจิตเภทครับ
Note*****y

2 ตุลาคม 2556 17:26:03 #1

สวัสดีครับ

      คุณแม่กระผมมีอาการป่วยเป็นโรคจิตเภทครับโดยที่ทราบสาเหตุชัดเจนคือแม่มีอาการวิตกกังวล หวาดกลัวว่าจะมีคนมาทำร้าย นอนไม่หลับเดินทั้งคืนและมีอาการเชื่อเรื่องสิ่งสักสิทธิ์โดยเอา น้ำมนต์ ของขลังมาไว้กับตัวเป็นจำนวนมาก จนทำให้คนในบ้านไม่ได้นอนเลยครับ บ้านผมมีกันสามคน พ่อ แม่ และผมครับ พ่อต้องตื่นเช้าไปทำงาน ส่วนผมทำงานต่างจังหวัดกลับ ส อ ครับ โดยสงสารคุณพ่อมากบางวัน บางคืนไม่ได้นอนเลยครับ จนล่าสุดผมเลยพาแม่ไปหาหมอ แต่เหมือนไม่ยอมจึงให้รถโรงบาลมารับไปครับ โดยอยู่ในโรงบาลสี่วันครับคุณหมอให้ยารักษาในช่วงที่อยู่โรงพยาบาลตามอาการครับ

  หมายเหตุ แม่ผมเป็นโรคหัวใจด้วยครับ และเบาหวาน 

ตอนรักษาที่โรงบาลยาค่อนข้างเยอะครับ วันที่ออกจากโรงบาลอาการหวาดกลัวหายไปครับ แต่ยังมีอาการพูดเรื่องแปลกๆอยู่ คุณหมอให้มาพบอีกในสองอาทิตย์ โดยให้ยามาดั้งนี้ครับ

   1.seroquel xr 50 mg. ทานสองเม็ดก่อนนอนทุกวันครับ

    2. Trihexpheni dy  2 mg.1 เม็ดก่อนนอนครับ

เริ่มยาวันเเรกที่กลับบ้านหลังจากแม่ทานยา แม่บอกว่าใจสั่นมาก ผมลองจับชีพจรดู แม่ใจเต็นเร็วมากครับ ผมเป็นห่วงเเม่มากๆครับ เพราะเเม่เป็นโรคหัวใจครับ แล้วแม่ก็นอนหลับไปครับ ตอนเช้าแม่บอกว่าไม่อยากทานแล้วหัวใจเต็นเเรง

รบกวนสอบถามคุณหมอครับ

ยาดังกล่าวมีผลต่อหัวใจไหมครับ ผมเป็นห่วงแม่มากครับ และ จะมีวิธีดูแลยังไงดีครับ จะต้องสังเกตอะไรบ้างครับ

ขอบคุณคุณหมอมากๆครับ

อายุ: 48 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

4 ตุลาคม 2556 09:24:41 #2

ยาทั้งสองตัวมีผลต่อหัวใจทำให้หัวใจเต้นเร็วได้ครับ แต่ตัว Trihexyphenidyl จะมีมากกว่า ไม่ทราบโรคหัวใจที่คุณแม่เป็นคือโรคอะไร ถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับการเต้นผิดปรกติของหัวใจผมอยากให้หยุดยา Trihexyphenidyl ไว้ก่อน แล้วกลับไปปรึกษาคุณหมอที่ดูแล เล่าอาการใจเต้นเร็วมากให้หมอฟังรวมทั้งประวัติโรคหัวใจและเบาหวานด้วยครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

Note*****y

5 ตุลาคม 2556 18:24:40 #3

เรียนคุณหมอครับ

                  อาการเบาหวาน และ หัวใจ ผมแจ้งคุณหมอต้องแต่วันเเรก 28 Sep 2013 ที่พาแม่ไปรักษาที่โรงบาลครับ

             คุณแม่เป็นเส้นเลือดหัวใจตีบครับเคยใส่ขดลวดครับ วันนี้ 05 ต.ค.56 พาแม่ไปพบคุณหมอเพื่อเปลี่ยนยาใหม่แล้วครับ มีดังนี้ครับ

          1.Trihexpheni dy 2 mg.1 เม็ดก่อนนอนครับ ยังทานเหมือนเดิมครับ

          2.Risperidone (NEURIS) 2 mg (1 เม็ด) ก่อนนอนครับ

         ส่วนseroquel xr 50 mg. ทานสองเม็ดก่อนนอนทุกวันครับ ไม่ได้ทานแล้วครับให้หยุดยาตัวนี้ครับ

       คุณแม่บอกกับคุณหมอว่าหลังจากทานยาไปแล้ว ตื่นมาแล้วรู้สึก งง หัวบางวันนอนทั้งวันเลยครับ แต่อาการหูแว่ว และ หวาดกลัว คุณแม่บอกกับหมอว่าไม่มีแล้วครับ แต่จากที่ผมดูโดยร่วม แม่ยังมีการอาบน้ำแต่ปิดไฟห้องน้ำมืดมากเลยครับทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยเป็น และยังมีอาการไม่กล้าออกไปพบหน้าใครครับ ส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน ไม่ออกไปไหนแต่งานบ้านสามารถกลับมาทำได้เช่นซักผ้า รีดผ้ากวาดบ้านครับ

    ยาสองตัวที่แม่ทานจะมีผลข้างเคียงมากไหมครับ แล้วต้องสังเกตอะไรบ้างครับ

และต้องใช้เวลาอีกนานไหมครับ ถึงจะหยุดยาได้ครับ

 
     ขอบคุณ

คุณหมอมากๆครับ

 

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

7 ตุลาคม 2556 03:40:19 #4

ดีแล้วครับ เพราะ Risperidone จะมีผลต่อการเต้นของหัวใจและเบาหวานน้อยกว่ายา Seroquel แต่ผู้ป่วยอาจมีอาการตัวแข็งและน้ำลายไหลยืดในตอนแรกๆ ที่ใช้ยานี้ได้ ยา Trihexyphenidyl คือยาแก้อาการตัวแข็งครับ

อาการหูแว่วอาการกลัวดีขึ้น แสดงว่ายาถูกกับโรค ดังนั้นที่จะต้องดูก็คือชีพจรยังเร็วอยู่มั้ย ใจยังสั่นมากอยู่หรือเปล่า ตัวแข็งมากจนผู้ป่วยรู้สึกทนไม่ไหว ถ้ายังมีแบบนี้อยู่ก็บอกคุณหมออีกทีนะครับ ส่วนอาการง่วงมันเป็นธรรมชาติของยารักษาอาการทางจิตแทบทุกตัวครับพอใช้ยาไปสักพักผู้ป่วยมักจะปรับตัวได้ ที่ต้องระวังก็คือการขับรถเพราะความง่วงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

โรคจิตเภทเป็นโรคที่เรื้อรัง คุณแม่คงต้องกินยานานทีเดียว แต่มันก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ปรกติเหมือนคนทั่วๆ ไปได้ ส่วนจะต้องกินยานานแค่ไหนจิตแพทย์จะพิจารณาผู้ป่วยเป็นรายๆ ไปครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

Note*****y

7 ตุลาคม 2556 15:12:21 #5

ขอบคุณ คุณหมอมากๆครับ

          คุณแม่ผมเมื่อทานข้าวเสร็จก็นอนเลยครับ หลับทั้งวัน

      ตอนนี้คุณแม่ทาน Trihexpheni dy 2 mg. แค่ครึ่งเม็ดเองครับ ท่านบอกว่ายามันเเรงเลยขอทานครึ่งเม็ด การที่ท่านทานครึ่งเม็ดจะมีผลอะไรไหมครับ ผมเองก็ไม่กล้าบังคับเค้า รอพบคุณหมอตามนัดอีกครั้งคืออีกสองอาทิตย์ครับ ปัจจุบันพยายามไม่ให้ท่านออกไปไหนครับ ผมให้พ่อเก็บกุญเเจรถไว้กลัวอันตราย 

ขอบคุณมากๆครับ

ด้วยความเคารพ

 

 

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

9 ตุลาคม 2556 03:24:17 #6

Trihexyphenidyl เป็นยาแก้อาการตัวแข็ง น้ำลายไหลยืด ที่เกิดจากฤทธิ์ข้างเคียงของยารักษาอาการทางจิต ยาในกลุ่มนี้แทบทุกตัวโดยเฉพาะ Risperidole จะมีฤทธิ์ข้างเคียงแบบที่ว่านี้สูง ดังนั้นเราจึงมักจะให้ยา Trihexyphenidyl ควบคู่กับยารักษาอาการทางจิตไปด้วยเพื่อป้องกันอาการดังกล่าว แต่ถ้าผู้ป่วยไม่มีอาการตัวแข็งหรือน้ำลายไหลยืดก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาตัวนี้ครับ การงดหรือลดยาตัวนี้ไม่มีผลต่อการรักษาอาการจิตแต่อย่างใด ในกรณีของคุณแม่คุณถ้าท่านไม่มีอาการตัวแข็งจากฤทธิ์ข้างเคียงของยารักษาอาการทางจิต การลดยา Trihexyphenidyl ลงอาจจะดีด้วยซ้ำ เพราะยาตัวนี้มีผลต่อการเต้นของหัวใจครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

Note*****y

14 พฤศจิกายน 2556 17:59:35 #7

สวัสดีคุณหมอครับ

      ตอนนี้คุณแม่มีนัดพบคุณหมอทกสองอาทิตย์ครับ และฉีดยาแก้อาการหูแว่วทุกเดือนครับ อาการทุกอย่างดีขึ้นมากเลยครับ ทำกับข้าว ซื้อของ ไปตลาดได้ปกติครับ เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ย.56 ไปพบคุณหมอตามนัด แม่อาการดีขึ้นมากครับคุณหมอเลยลดขนาดยาเหลืออย่างละครึ่งเม็ดครับ 

1.Trihexyphenidyl   ครึ่งเม็ด

2.NEURIS 2 mg.      ครึ่งเม็ด

และเมื่อวันที่ 14 พ.ย.56 แม่เริ่มมีอาการแปลกๆ พูดกลับไปกลับมา และ กลางคืนไม่ยอมนอน โดยผมสอบถามแม่ แม่บอกกำลังหาของอยู่ แต่แม่บอกผมว่าตั้งแต่ทานยาเค้าง่วงมาก เลยทานกาแฟทุกวันครับ ทำให้ไม่ง่วงนอน แต่เวลาพูดคุยด้วยปกติดีครับ จะมีอาการเป็นบางครั้งครับ

ปรึกษาครับ

1.กาแฟมีผลต่อยาที่ทานไหมครับ

2.แล้วอาการที่เป็นอยู่ตอนนี้เกิดจากอะไรครับ

ขอบคุณครับ

ด้วยความเคารพ

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

18 พฤศจิกายน 2556 05:27:19 #8

อาการที่เกิดขึ้นคล้ายๆ กับว่าปริมาณของยาในกระแสเลือดมีระดับไม่เพียงพอต่อการควบคุมอาการครับ ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากสองเรื่องด้วยกัน

1. การได้รับคาเฟอีนจากกาแฟในปริมาณที่มาก เพราะตัวคาเฟอีนเองสามารถขัดขวางการออกฤทธิ์ของยารักษาอาการทางจิตได้ครับ

2. การเปลี่ยนยาจากชนิดกินมาเป็นชนิดฉีดแบบเดือนละครั้ง ยาฉีดในรูปแบบนี้จะค่อยๆ ปล่อยตัวยาเข้าสู่กระแสเลือดทีละน้อยๆ ดังนั้นในการใช้ครั้งแรกๆ จึงเป็นไปได้ว่าปริมาณยาอาจจะยังไม่ถึงระดับที่ต้องการ แต่การใช้ยาฉีดก็เป็นวิธีที่สะดวกนะครับ เพราะมันสามารถตัดปัญหาเรื่องการลืมกินยาหรือการไม่ยอมกินยาของผู้ป่วยไปได้เลย แต่ในช่วงแรกๆ ก็จะต้องรอให้ระดับยามันถึงระดับที่ต้องการเสียก่อน

ปรึกษาคุณหมอที่ดูแลนะครับว่าจะปรับยาอะไรเพิ่มหรือไม่ในช่วงแรกๆ นี้ และหาทางลดกาแฟลงให้มากที่สุดครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

Note*****y

18 พฤศจิกายน 2556 15:55:38 #9

ขอบคุณมากๆครับคุณหมอ

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา 16 พ.ย.2556 ผมพาเเม่ไปพบคุณหมอมาครับ เนื่องจากคุณเเม่มีอาการเดินตัวเกร็งๆเหมือนไม่ค่อยจะมีแรงครับ โดยปกติแม่ผมเป็นคนชอบทำงานบ้านครับ เค้าบ่นให้ผมฟังว่าไม่มีแรงเลย เหมือนตาจะหลับตลอดเวลา

คุณหมอบอกว่าน่าจะมาจากผลข้างเคียงของยาครับ จึงให้ทาน

Trihexyphenidyl จากครึ่งเม็ด เป็น หนุึ่งเม็ดครับ ถ้ายังไม่มีแรงอีกให้เป็นหลังอาหารเช้า หนึ่งเม็ด และ ก่อนนอนหนึ่งเม็ดครับ ตอนนี้ผมให้แม่หยุดกาแฟเเล้วครับ เเต่ไม่รู้ท่านจะเชื่อผมหรือเปล่า ผมเองก็ห่วงท่านมาก 

ต้องค่อยดูอาการตลอดครับ วันที่ 22 พ.ย. 2556 ก็จะฉีดยาอีกเข็มนึงครับ

ขอบพระคุณ คุณหมอมากๆครับ ที่ให้คำปรึกษามาโดยตลอดครับ

ด้วยความเคารพ