กระดานสุขภาพ

แก้อารมณ์ฉุนเฉียว
Bkk_*****n

18 มิถุนายน 2556 08:41:36 #1

ผมมีปัญหาคือตอนเด็ก (ช่วงเรียนประถม) ผมถูกพ่อตีประจำ ทุกอาทิตย์จนเรียนมัธยมไม่ถูกตีแล้ว ตอนนี้มีลูกชาย อายุ 7 ปี บางครั้งก็ทำให้อารมณ์เสียต้องตี บางครั้งก็ตีแบบระบายอารมณ์ให้หายแค้น ช่วงที่ระงับอารมณ์ไม่ค่อยได้ ช่วงลูกชายอายุประมาณ 4-6 ขวบ และมีลูกสาวอีกคน บางครั้งก็โมโหตีแบบระบาย พอตีเสร็จก็เศร้าที่ทำรุนแรง ลูกเป็นรอยเห็นแล้วก็สงสาร ผมควรทำยังไงดีกับอารมณ์เก็บกดแบบนี้ บางครั้งก็ระงับอารมณ์ไม่ตีแต่ก็ดุด่าแทน แต่ถ้าได้ตีก็จะตีแบบให้สะใจ แต่ก็ยั้งๆไว้ ผมจะลบล้างอดีตยังไงดี ผมก็ไม่อยากมีอารมณ์โมโหกับลูกที่ยังเล็ก กลัวเขาจะเอาอารมณ์โมโหติดตัวไปทำกับลูกหลานของเขา ขอบคุณครับ

อายุ: 40 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.18 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

19 มิถุนายน 2556 03:33:26 #2

ก่อนอื่นขอพูดด้วยความจริงใจว่า ผมเข้าใจในความรู้สึกที่กำลังเกิดกับคุณ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตในอดีตของคุณทำให้คุณ "ต้องเลือก" วิธีจัดการกับ "ความโกรธ" แบบนี้ และมันก็ทำให้คุณรู้สึกไม่ดีเลย แต่คุณก็ยังไม่มีทางเลือกอื่น อย่างไรก็ตามก็มีสัญญาณดีๆ ให้เห็น นั่นคือคุณกำลังรู้สึกว่ามันจะสร้างอะไรๆ ที่ไม่ดีให้กับลูก และคุณอยากจะแก้ไขมัน

เราแก้ไขอดีตไม่ได้แน่นอน แต่เราสร้างอนาคตใหม่ได้ครับ

การที่คุณพ่อของคุณทำกับคุณแบบนั้นท่านก็คงทำไปด้วยความรักและความหวังดีกับคุณนั่นแหละ แต่บังเอิญท่านอาจมองไม่เห็นอีกด้านของวิธีการที่ท่านใช้ว่ามันจะทำให้คุณทุกข์แค่ไหน ถ้าคุณจะรู้สึกว่าท่านทำไม่ถูก ผมก็คิดว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะคิด แต่อยากชวนคุณมองอีกแง่มุมหนึ่งว่า ถ้าทุกอย่างที่ท่านทำไป ท่านทำเพราะ "ความรักและปรารถนาดีต่อคุณ" มันก็อาจทำให้ "ความรู้สึกบางอย่าง" ของคุณดีขึ้น

ทุกอย่างผ่านไปแล้วครับ มาเริ่มต้นใหม่ดีกว่า

อยากเสนอแนะให้คุณทำแบบนี้ครับ

๑. ลองพิจารณาว่าเพราะอะไรคุณถึงโกรธเวลาสอนลูก
โดยผิวเผินคนมักจะโกรธเมื่อ "สิ่งต่างๆ มันไม่ได้ดั่งใจ" แต่ถ้าพิจารณาไปลึกๆ แล้ว มันเกิดขึ้นจากเพราะเรารู้สึกว่า "ฉันไร้ค่า" ครับ

เวลาสอนลูก พอลูกไม่ทำตามที่สอน มันไปกระตุ้นความรู้สึกลึกๆ ตรงนี้ "ฉันไม่มีค่าพอที่แกจะฟังฉันหรือไร" "สิ่งที่ฉันสอนมันโหลยโท่ยหรืออย่างไร" พอรู้สึกอย่างนี้ความโกรธมันก็เลยเกิดขึ้น และเพื่อที่จะจัดการกับความรู้สึกว่าตัวเองแย่หลายคนจึงเลือกใช้ "วิธีการที่ดุดัน" เพื่อบังคับให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ เพื่อยืนยันว่า "ฉันไม่ได้แย่นะ"

คุณเป็นแบบนี้หรือเปล่า

๒. ลองทบทวนผลทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการใช้ "วิธีที่ดุดัน" สอนลูกดูหน่อยว่ามันได้ผลจริงหรือไม่ หรือมันยิ่ง "ทำให้ลูกไม่กล้าเข้าใกล้มากยิ่งขึ้น"

พ่อแม่ทุกคนรักลูกครับ และสิ่งที่คุณเล่ามาทั้งหมดมันก็ตอกย้ำว่า "คุณรักลูกมาก" แต่ถ้าวิธีการที่คุณใช้มันทำให้ลูกไม่กล้าเข้าใกล้ แสดงว่า "ขาดทุน" แล้วล่ะครับ หาวิธีใหม่ที่ "ได้กำไร" มาใช้ดีกว่า

พ่อแม่ทุกคนอยากจะ "ปั้น" ให้ลูกเป็นไปตามที่ต้องการครับ และบรรยากาศที่ทำให้การ "ปั้น" ได้ผลที่สุดก็คือบรรยากาศที่ลูกนัวเนียอยู่กับพ่อแม่ เพราะฉะนั้นถ้าลูกไม่กล้าเข้ามานัวเนียกับเรา การ "ปั้น" มันก็สำเร็จยาก

๓. จะทำอย่างไรดี

ผมมีข้อเสนอแนะดังนี้ครับ

(๑) เตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าความโกรธ และความดุดันที่เราใช้กับลูกจะยิ่ง "แยกลูกออกไปจากเรา" เราต้องไม่ใช้วิธีนี้กับลูก

(๒) หาวิธีขำๆ ตลกๆ แบบเด็กๆ มาเล่นกับลูก เพื่อลบภาพความดุดันของเราออกไปจากความทรงจำของลูก และวิธีการนี้มันยัง ช่วยให้เรามองเห็นแง่มุมดีๆ น่ารักๆ ของลูกมากขึ้น แง่มุมเหล่านี้จะช่วยให้เรามองเห็น "ลู่ทางที่แตกต่าง" หรือ "ลู่ทางที่เหมาะสม" ในการสอนลูก แทนที่จะใช้วิธีที่ดุดันอย่างที่เคย

(๓) เมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะโกรธ ถอยออกไปตั้งหลักก่อนทุกครั้ง แล้วทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นเงียบๆ การได้ฉุกคิดมันจะช่วยให้เราสงบลง และเลิกที่จะใช้วิธีที่ดุดันกับลูก

(๔) ความโกรธมันมีพลังงานของมัน หาทางระบายสิ่งเหล่านี้ออกจากตัวเองด้วยการเล่นกีฬา ดนตรี หรืองานอดิเรกอื่นๆ ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายบ้าง โดยเฉพาะดนตรี หรือกีฬา มันช่วยสร้างสารเคมีบางอย่างในร่างกายของเรา ช่วยให้การเผชิญหน้ากับความเครียด ความทุกข์ใจของเราดีขึ้น และยิ่งถ้าได้เล่นกับลูกด้วยก็เยี่ยมไปเลย

(๕) จดบันทึก "วิธีดุดัน" ที่เคยใช้กับลูกและไม่อยากจะใช้มันอีกต่อไปเอาไว้ และหาวิธีที่มันดูนุ่มนวลและสร้างสรรค์มาใช้ อาจเปิดหาตามอินเตอร์เน็ตก็ได้ครับ อ่านทบทวนบันทึกนี้เพื่อเตือนตัวเองอยู่เสมอๆ และใช้วิธีการเหล่านี้เมื่อถึงเวลา

(๕) คนเราแตกต่างกันครับ การที่จะทำให้ทุกคนเป็นเหมือนเราไปหมดนั้นยากมาก ลูกเราก็เช่นกัน ถ้าเราสามารถรักลูกได้เพราะเขาเป็นเขา ไม่ใช่เพราะเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น ความคาดหวังที่มีต่อเขาในใจของเราจะลดลง ความรู้สึก "ไม่ได้ดั่งใจ" ของเราก็จะเบาบางลง โอกาสที่เราจะโกรธลูกก็จะน้อยลงตามไปด้วยครับ

ขอเอาใจช่วยในการ "ทำการบ้าน" ของคุณครับ

 

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

Bkk_*****n

21 มิถุนายน 2556 05:51:37 #3

ตอนนี้ผมก็พยายามระงับอารมณ์โกรธให้ได้อยู่ ยิ่งเวลาโกรธก็จะอดทนอดกลั้นเอาไว้ แต่ก็มีขู่ๆ แต่ไม่ตี แต่อาจมีดุด่าบ้าง ถ้าผมไม่ปฏิบัติธรรม (บ้าง) ผมคงจะอารมณ์ร้ายกว่านี้แน่ 

ขอบคุณครับคุณหมอที่ช่วยแนะนำ