กระดานสุขภาพ

อาการโรคไบโพล่า
Anonymous

21 ธันวาคม 2560 00:09:32 #1

เรียนถามค่ะ สามีดิฉันป่วยเป็นโรคไบโพล่า รับยามาเกิน10ปี เมื่อปลายปีที่แล้ว เกิดมีอาการได้ยินเสียงดนตรีตลอดเวลาในประสาทหู และเกิดจินตนาการภาพหลอน จนเกิดอาการทางจิตขั้นรุนแรง แพทย์ได้เพิ่มปริมาณยาดังนี้ Seroquale 100mg 400mg เป็น400mgก่อนนอน, Lithium carbonate 300mg*2 หลังมื้อเช้าและก่อนนอน Depakin 500mg*2,Rivotril 1mg ก่อนนอน สิ่งที่ดิฉันต้องการเรียนถามคือ อาการผิดปกติของสามีดิฉัน คืออาการของโรคไบโพล่ารึเปล่าค่ะ และการให้ยาปริมาณสูงขึ้นตามอาการ มีโอกาสปรับลดยาได้มั้ยค่ะ (ตามคำวินิจฉัยแพทย์) มีคุณหมอบางท่าน ปรับยาลิเที่ยมออกและให้ใช้แต่เดพากินส์ อยากทราบว่ามีผลค้างเคียงหรือแตกต่างอย่างไรค่ะ อาการข้างเคียงหลังจากปรับยาใหม่ได้ 4,5เดือน อาการต่างๆกลับมาปกติ แต่มีอาการมือสั่นบ้างเป็นครั้งคราวและท้องผูก เริ่มปวดเอวจนเดินไม่สะดวกและปวดมากขึ้น คุณหมอให้ยาแก้พากินสันมาเพิ่มอีกตัวในช่วงเดือนนี้ ดิฉันค่อนข้างกังวลในเรื่องของยาเซโรเควลในปริมาณสูงขึ้น แต่อาการเสียงในหูยังไม่หมดไปค่ะ รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
อายุ: 68 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 94 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 32.15 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

24 ธันวาคม 2560 05:18:24 #2

ขอตอบเป็นประเด็นตามที่คุณถามมานะครับ

1. อาการผู้ป่วยเป็น Bipolar Disorder จริงหรือไม่
คุณเล่าประวัติและอาการผู้ป่วยมาเพียงสั้น ๆ ไม่สามารถตอบได้ครับว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่จากยาที่คุณหมอใช้เป็นการรักษาโรคไบโพลาร์ครับ

2. Lithium Carbonate และ Depakine เป็นยารักษาโรคไบโพลาร์ทั้งสองตัว ตัวหลักคือ Lithium Carbonate แต่อาการข้างเคียงจะเยอะถ้าใช้ในขนาดที่สูง จิตแพทย์จึงมักใช้ Depakine เสริมเข้ามาเพื่อลดปริมาณการใช้ Lithium Carbonate ลง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดอาการข้างเคียงจากยา หรือบางทีก็หันมาใช้ Depakine ตัวเดียว แต่ประสิทธิภาพก็จะสู้การใช้ Lithium Carbonate ไม่ได้ครับ

3. Seroquel (หรือชื่อสามัญ Quetiapine) เป็นยารักษาอาการทางจิต โดยเฉพาะอาการหูแว่วประสาทหลอน การที่คุณหมอเพิ่มยาน่าจะมาจากต้องการควบคุมอาการดังกล่าว และเมื่อดีขึ้นแล้วก็คงจะลดยาลง จริงครับการใช้ยาในขนาดสูงมันมีอันตราย แต่ถ้าจำเป็นและดูแลอย่างใกล้ชิดก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ

นพ.อุดม เพชรสังหาร

Wanu*****n

28 ธันวาคม 2560 13:04:23 #3

ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ อาการป่วยของสามีเป็นมานานเกือบ30ปีแล้วค่ะ ตอนนี้อายุ67ปี ทุกๆ10-20ปี อาการผิดปกติจะกลับมาค่ะ อารมณ์แปรปรวนเป็นบางช่วงของแต่ละสัปดาห์ คือทุกๆ7วัน จะต้องมีปากเสียงกัน การใช้จ่ายฟุ้มเฟือยจะมีเฉพาะตอนที่เป็นหนักๆค่ะ ดิฉันพาไปพบแพทย์จิตเวชอยู่2ที่ค่ะ คือเวชศาสตร์การบิน รพ.**** กับรพ.**** ตอนต้องแอดมิทผู้ป่วยเมื่อปีที่แล้วค่ะ โดยปกติจะดูอาการจากอจ.หมอ ที่เวชศาสตร์การบินมาเกือบ20ปีแล้วค่ะ สิ่งที่ดิฉันกังวลคือการให้ปริมาณยาสูงๆจะมีอันตรายต่อสมองมากขึ้นหรือถ้าอาการกลับมาอีก จะควงคุมต่ออย่างไรดีค่ะ ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

29 ธันวาคม 2560 18:26:09 #4

โรคไบโพลาร์มันกลับมาเป็นซ้ำได้อีกครับ ดังนั้นเมื่ออาการดีขึ้นแล้วหมอจึงมักที่จะให้ผู้ป่วยกินยาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำอีก ซึ่งเขามักจะใช้ Lithium Carbonate เป็นหลัก การใช้ยาตัวนี้หมอเขาจะเจาะเลือดเพื่อดูระดับยาเป็นช่วง ๆ เพื่อควบคุมปริมาณยาให้เหมาะสมและไม่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วย ส่วนยารักษาอาการทางจิตนั้นเมื่ออาการผู้ป่วยดีขึ้นแล้วหมอเขาก็จะลดยาลงและหยุดยาเมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นกังวล

อีกอย่าง สถานพยาบาลทั้งสองแห่งที่ผู้ป่วยติดตามการรักษาอยู่เป็นสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานสูง และเป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางด้านจิตเวชศาสตร์ด้วย สบายใจได้ครับ

นพ.อุดม เพชรสังหาร

Wanu*****n

3 มกราคม 2561 22:38:49 #5

ขอบคุณมากค่ะ ที่คุณหมอกรุณาอธิบายและให้ความกระจ่างในทุกคำถามค่ะ ขออวยพรเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ปี2561 นี้ ให้คุณหมอและครอบครัว รวมทั้งผู้ร่วมงานทุกท่าน จงมีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไปค่ะ