ทางพระเขาเรียก "สติไม่อยู่กับตัว" ครับ

แต่ทางจิตวิทยาเราเรียกว่า "ความจดจ่อ" ของเราเสียไป เลยทำให้ได้หน้าลืมหลัง

สาเหตุมักเกิดจากสมาธิในการจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราไม่ดีพอ อาจเป็นเพราะเราไม่ใส่ใจ เรามีเรื่องอื่นที่กำลังคิดอยู่ เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าจึงไม่ได้รับความสนใจจากเรา มันก็เลยไม่เกิดการบันทึกไว้ในความทรงจำอย่างมีคุณภาพพอ แต่มันก็พอมีข้อมูลเก็บอยู่ในความทรงจำอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ชัดว่ามาจากไหน รายละเอียดเป็นอย่างไร มาจากโลกความจริงหรือโลกความฝัน เลยเกิดอาการงงกับข้อมูลที่มีอยู่ในสมองของตัวเอง

เสนอให้ทำดังนี้ครับ ฝึกสมาธิ จะแบบไหนก็ได้ เช่น ฝึกสังเกตลมหายใจเข้าออกของตัวเองครั้งละประมาณ 5 นาที วันละ 4-5 ครั้ง ทำตอนไหนก็ได้ การเล่นดนตรีก็ช่วยเรื่องนี้ หรือจะเข้าวัดฝึกสมาธิกับหลวงพ่อก็ไม่ผิดกติกา

ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้สมองทำงานดีขึ้นครับ หลายคนคิดว่าการออกกำลังกายเพียงช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมันดีต่อสมองด้วย

นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง แต่ไม่ควรเกินวันละ 8 ชั่วโมง สมองจะจัดระบบความจำของตัวเองเวลาเราหลับครับ การจัดระบบความจำนี้เป็นกระบวนการที่ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รับประทานอาหารเช้าทุกวัน อาหารเช้าจำเป็นต่อสมองมาก เพราะสมองต้องการพลังงานทั้งวัน และไม่ควรรับประทานหวาน น้ำตาลทุกชนิดถ้ารับประทานมากไปมีอันตรายต่อสมองครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร