กระดานสุขภาพ

ดิฉันจะเป็นโรคทางจิตไหมคะ
Anonymous

8 กุมภาพันธ์ 2558 13:19:48 #1

เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว (ปี56) หนูได้ไปวิ่งออกกำลังกายตอนเย็น วันนั้นคงอากาสร้อนหรืออกกำลังกายมากไปหน่อย เลยรู้สึกใจเต้นวิ่ง ใจสั่นแน่นหน้าอกเลยไปรพ. หมอบอกแค่ว่าใจเต้นเร็วกว่าปกติแต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร หลังจากนั้นอีกประมาณเดือนกว่าๆหนูได้ไปทานอาหารทะเลแล้วแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกต้องไปห้องฉุกเฉินฉีดยาแก้แพ้
ชีวติหนูหลังจากผ่าน 2 เหตุการณ์มันทำให้หนูเปลี่ยนไปเลย หนูกลัวกับการใช้ชีวิต กลัวที่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นคนกังวลกับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง แค่จะเดินหรือจะทำอะไรสักอย่างหนูจะกำหนดระยะของหนูไว้ ถ้าเกิดเกินระยะทางที่กำหนด หนูจะเริ่มกลัวว่าตัวเองจะเป็ยนลม ปวดหัวขึ้นมา หนูเป็นหนักมากในช่วงปีแรก กลัวแม้กระทั่งเดินห้างก้ไม่กล้าเดินไกลๆๆ กลัวว่าเป็นลม กลัวไม่ไหว กลัวแม้กระทั่งขึ้นไปยืนบน bts จะรู้สึกปลอดภัยถ้ามีคนอยู่ด้วยหรือรู้สึกปลอดภัยถ้าอยู่ใกล้ๆกับโรงพยาบาล อยู่ในห้องของตนเอง ตอนนี้อาการมันก็ดีขึ้นเริ่มกลัวน้อยลง ไปไหนมาไหนได้ แต่ก็จะมีความกังวลอยู่ตลอดเวล จะคิดถึงอนาคตไว้ตลอดว่าต้องประสบพบเจอกับอะไร สิ่งแรกที่ตื่นนอนก็จะนึกถึงว่าวันนี้ร่างกายมีอาการปวดหรือผิกปกติอะำรบ้าง กลัว เครียด วิตก เจ็บหรือปวดส่วนไหนของร่างกายนิดหน่อยก็จะรีบไปหาหมอที่รพเพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรร้ายแรง และมันทำให้ปวดศีรษะบ่อย ปวดตึงบีบรัดศีรษะ พอเป็นแบบนี้ก้เครียดอีกว่าจะเป็นอะไรร้ายแรง

หนูจะรู้สึกกลัว กังวลเวลาบางทีกลัวที่ต้องยืนนานๆ กลัวที่ต้องพบเจอผู้ป่วย มันทำให้หนูรู้สึกว่าถ้าหนู้เป็นคนไข้หนูต้องทรมานแบบนั้น หนุกลัว กังวลเครียดกับทุกอย่างในชีวิตมันทำให้ปวดหัวเครียดมากๆๆๆๆ

เวลาคิดมาก คิดอยู่กับตัวเองก็จะหาว่าตอนนี้ร่างกายมีอะไนผิดปกติมั้ย จะปวดหัวป่าว จะเจ็บนู้นนี้มั้ย เวลาคิดหรือกังวลมากๆก็จะแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม รู้สึกตึงรอบศีรษะ บางครั้งเป็นมากจนตึง ชาที่หน้า โหนกแก้มข้างซ้าย พอมีอาการแบบนี้ก็กลัวอีกว่าจะเป็นโรคหัวใจ

หนูมีอาการแบบนี้ ร้ายแรงมากมั้ยคะ หนุกลัวมากเลย กังวลอยากปรึกษาจิตแพทย์ อยากพุดให้ใครซักคนฟัง

หนูขอรบกวนปรึกษาคุณหมอว่า หนูจะทำยังไงให้หลุดพ้นภาวะแบบนี้ หนูอยากเป็นเหมือนเดิมก่อนเจอ 2 เหตุการณ์นี้ หนูจะทำยังไงได้บ้าง T__T

อายุ: 27 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 154ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.46 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

10 กุมภาพันธ์ 2558 13:51:49 #2

มีคำพูดหนึ่งที่เขาบอกว่า "คนที่เคยถูกงูกัด จะกลัวเชือกไปอีกนาน"

สิ่งที่เกิดกับคุณ สามารถอธิบายด้วยประโยคนี้ได้ครับ

เหตุการณ์ที่เกิดกับคุณเมื่อสองปีที่แล้วมันจะเป็นอะไรก็ตาม แต่สำหรับคุณมันคือ "การเดินเฉียดความตาย"
ตอนนี้คุณกำลังคิดว่าเหตุการณ์แแบบนั้นมันจะกลับมาอีก และคราวนี้มันอาจจะไม่ใช่แค่การเดินเฉียด แต่เป็นการ "เดินไปสู่ความตาย" เลยทีเดียว

ความคิดที่เกิดขึ้นนี้ทำให้คุณเกิด "ความกลัว" จึงพยายามที่จะ "เฝ้าจับตาดูสัญญาณทุกอย่าง" ที่จะเป็นสิ่งบอกเหตุว่าเหตุการณ์แบบคราวที่แล้วกำลังจะเกิดขึ้นอีก พอมีอะไรนิดหน่อยคุณก็เลยเกิดไม่สบายใจ ไม่สบายตัว เพราะกลัวว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ

เข้าใจความรู้สึกของคุณครับ และเห็นใจมากๆ เลย ใครไม่เคยเจอแบบคุณไม่รู้หรอกว่ามันทรมานแค่ไหน

เวลาคนเราออกกำลังกาย ในช่วงอากาศที่ร้อนๆ ร่างกายจะขับเหงื่ออกมามากกว่าธรรมดา ใครๆ ก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการแบบที่คุณเป็นเมื่อสองปีก่อนได้ และในภาวะแบบนี้ การที่หัวใจเต้นเร็วผิดปรกติมันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่เรื่องผิดปรกติอะไร และการที่คุณไปพบหมอก็บ่อยแต่ไม่มีใครบอกเลยว่าคุณเป็นโรคหัวใจ นั่นน่าจะยืนยันได้ว่าคุณไม่ได้เป็นโรคหัวใจ เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะเกิดปัญหาหัวใจผิดปรกติ หยุดเต้น หรือมีปัญหาอื่นๆ กับคุณ จนทำให้คุณเสียชีวิตน่าจะตัดไปได้

แต่ "ความกลัว" ที่กำลังเกิดกับคุณ มันจะทำให้คุณใจสั่น หัวใจเต้นเร็วแบบที่เคยเกิดเมื่อสองปีก่อนได้ครับ แต่ก็ไม่ใช่โรคหัวใจและไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่มันจะทำให้คุณมีความยากลำบากในการใช้ชีวิตมากขึ้น

ความกลัวจะมีฤทธิ์มากถ้าเรายอมแพ้มัน เพราะฉะนั้น การสู้กับความกลัวที่ดีที่สุดก็คือการเผชิญหน้ากับมัน ลองฝึกตัวเองตามนี้นะครับ

1. บอกกับตัวเองทุกครั้งที่เกิดอาการกลัวขึ้นมาว่า "อาการนี้ไม่ทำให้ฉันตาย"
2. ทุกวันก่อนเข้านอน หาที่นั่งสบายๆ ฝึกหายใจเข้าออกช้าๆ ลึกๆ เพ่งความสนใจให้จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจของตัวเอง ทำแบบนี้ให้ได้ทุกวัน วันละ 30 นาที ฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ
3. เวลาเกิดอาการกลัวขึ้นมา ให้ใช้วิธีหายใจเข้าออกช้าๆ ที่ฝึกมานี้สู้กับมัน ทำจนกว่าความรู้สึกกลัวจะลดลง ไม่ต้องไปพยายามข่มความกลัวเอาไว้ ปล่อยมันให้แสดงฤทธิ์ของมันให้เต็มที่ ตามมันไป ดูซิว่ามันจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง แล้วคุณจะค่อยๆ เห็นเองว่ามันทำอะไรคุณไม่ได้

ลองฝึกดูนะครับ และถ้ายังมีอะไรที่กังวลอยู่ก็ถามมาอีกได้ ผมยินดีครับ และขอเอาใจช่วยให้คุณผ่านพ้นมันไปได้ด้วยดีครับ

นพ.อุดม เพชรสังหาร

Anonymous

11 กุมภาพันธ์ 2558 01:50:46 #3

ขอบคุณ คุณหมอมากๆนะคะ แค่มีคนรับฟังแค่นี้ หนูก็รู้สึกดีขึ้่นเยอะเลย แปลกมั้ยที่หนูอ่านแล้วร้องไห้ออกมา

หนูรู้สบายใจขึ้นมากเลยคะ อุ่นใจขึ้นมาก แค่ได้รู้ว่าามีใครคอยให้คำปรึกษา หนูจะพยายามทำตามคำแนะนำนะคะ 

ถ้าหนูปัญหาาหนูขอรบกสนปรึกษาคุณหมออีกนะคะ 

 ขอบพระคุณ คุณหมอจริงๆ

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

19 กุมภาพันธ์ 2558 15:35:44 #4

ยินดีครับ

นพ.อุดมเพชรสังหาร

J.W.*****t

28 กุมภาพันธ์ 2558 08:44:55 #5

ดีจังค่ะที่มีคนคอยตอบปัญหาสุขภาพแบบนี้ รู้สึกว่าประชาชนมีที่พึ่งและทางออกที่ดี ลองสุ่มเข้ามาอ่านแล้วยินดีด้วยนะคะที่สังคมเรามีคนดีๆช่วยเหลือกันแม้ไม่รู้จักกัน ไม่ได้เงินทองเป็นอามิสสินจ้าง