กระดานสุขภาพ

คิดมาก
Anonymous

20 พฤษภาคม 2557 11:29:12 #1

หนูมีความรู้สึกอยากตายแต่ก็ทำไม่ได้ มีชีวิตอยู่แบบเคว้งคว้าง แม่เสียไปได้ 5 ปีมาแล้ว เสียใจมาก และ หนูก็เคยผ่านประสบการณ์์ร้ายๆหนุคาดหวังกัยนสา่ราม

อายุ: 27 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.75 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

21 พฤษภาคม 2557 09:00:47 #2


b892f
วันที่ 20 พฤษภาคม 2014 เวลา 18:29 น. #1
หนูมีความรู้สึกอยากตายแต่ก็ทำไม่ได้ มีชีวิตอยู่แบบเคว้งคว้าง แม่เสียไปได้ 5 ปีมาแล้ว เสียใจมาก และ หนูก็เคยผ่านประสบการณ์์ร้ายๆมามาก เช่น ปัญหาครอบครัว ทำแท้ง 1ครั้ง และฆ่าตัวตาย 1 ครั้ง แต่ไม่สำเร็จ หลังจากต้องหยุดเรียนเพ่ือทำงานเก็บเงินมาเรียน ก็ไม่สำเร็จแต่ได้สามีกับลูกมา1คน สามีติดยาอย่างหนัก กว่าจะรู้ว่าเขาติด เพราะเขาโกหกมาตลอด อยากเลิก แต่ห่วงลูกมาก ตัดสินใจไม่ขาด หนูมีพี่ๆ 7 คน แต่เหมือนไม่มี เพราะต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้อยู่นอกที่บ้านแม่สามีกับลูกอายุ 18 เดือน ก็รู้สึกกดดัน ไม่ได้ภาษา แต่ต้องหางานทำ เพราะสามีได้เงินจากรัฐ นั่งเล่นเกมส์ทั้งวันจนดึกด่ืน ไม่ทำอะไร ทะเลาะกันบ่อย ตบตีรุนแรง ที่ผ่านมา แต่ก็เห็นบอกว่าจะไม่ทำอีก. บอกว่ารักหนูมาก ที่ผ่านมาขอโทษ เขาบอกว่าเป็นเพราะยาที่เขาเสพเลยทำอะไรไม่ดีกับหนูหลายอย่าง เพราะหนูเห็นเขาคุยกับผู้หญังอ่ืนทางข้อความ ชีวิตที่ฝันใว้ตอนเด็กคือความก้าวหน้าทางอาชีพการงาน. ไม่ใช่การมีครอบครัวแบบนี้ค่ะ เพราะเห็นตัวอย่างจากคนอ่ืนที่มีครอบครัวแล้วทุกข์ใจ หนูเรียนถึงปีสามเท่านั้นค่ะ ตอนนี้นอกจากหางานก็จะหาเวลาเรียนภาษา จะได้มีโอกาสเรียนต่อที่นี่ค่ะ ยังต้องทำหน้าที่แม่และภรรยาอีกด้วย อายุก็ 27 ปีแล้ว ไม่น้อยแล้วค่ะ หนูไม่มีความสุข แสดงออกทางสีหน้า ซูบผอม หนูอยากมีความสุขจะได้มีกำลังใจเม่ือเจอปัญหา จำเป็นต้องทานยาต้านซึมเศ้าหรืออย่างไรคะ...

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

21 พฤษภาคม 2557 01:34:40 #3

ตอนท้ายของคำถามคุณพิมพ์ตกหล่นไปทำให้อ่านไม่ได้ใจความ ผมเลยขออนุญาตตอบเฉพาะส่วนต้นของคำถามที่ยังอ่านได้ใจความอยู่นะครับ

ฟังดูคล้ายๆ ว่าคุณยังเสียใจเรื่องที่คุณแม่เสียชีวิตอยู่เลย ทั้งๆ ที่เวลาผ่านไป 5 ปีแล้ว และตอนนี้คุณกำลังเบื่อชีวิต คุณไม่อยากสู้ชีวิตอีกต่อไปแล้ว มันดูเลื่อนลอยไม่มีจุดหมาย คุณอยากทำให้ตัวเองพ้นๆ ไปจากโลกนี้ แต่ก็ไม่กล้า

ผมเข้าใจความรู้สึกที่คุณกำลังเผชิญอยู่ครับ และรู้ว่ามันทำให้คุณทุกข์เพียงใด แต่ก็ยังดีใจครับที่คุณบอกว่าถึงคุณจะเบื่อชีวิตแต่คุณก็ยังไม่คิดที่จะทำลายชีวิตของตัวเอง อุปสรรคทุกอย่างถ้าเราสู้มันก็ย่อมมีทางชนะเข้าสักวัน ตรงกันข้ามถ้าเรายอมแพ้ทุกอย่างก็จบ เราจะไม่มีวันชนะเลย
ไม่มีใครอยากให้ความทุกข์เกิดขึ้นกับชีวิตของตนเองหรอกครับ แต่บางครั้งเราก็หลีกเลี่ยงมันไม่ได้ และเมื่อมันเกิดแล้วสิ่งที่เราทำได้ก็คือ "จะอยู่กับมันอย่างไร" โดยที่เราไม่ทุกข์หรือทุกข์น้อยที่สุด และตอนนี้ผมว่าคุณต้องมี "เพื่อนคู่คิด" แล้วล่ะ

ผมอยากให้คุณไปพบจิตแพทย์ครับ คุณทรมานกับเรื่องนี้มานานมากแล้ว มันควรจะได้รับการแก้ไขเสียที ปัญหาและความไม่สบายใจทั้งหมดที่เกิดกับคุณ จิตแพทย์จะเป็น "เพื่อนคู่คิด" ที่จะพาคุณฝ่าอุปสรรคออกไปครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

22 พฤษภาคม 2557 02:08:53 #4

ชีวิตของคุณเจออะไรที่ "หนักมาก" เลยทีเดียว เห็นใจคุณครับ ด้วยความจริงใจ

แต่แม้จะเจออะไรที่หนักๆ คุณก็ยังฟันฝ่ามาได้จนถึงวันนี้ ต้องยอมรับครับว่าคุณก็ "แกร่ง" ไม่เบาทีเดียว

สิ่งที่คุณเล่าเพิ่มเติมมาทำให้เห็นว่าจริงๆ แล้วคุณก็มีเป้าหมายของชีวิตอยู่ นั่นคือ "การเรียนต่อ" และ "ลูก"

นี่คือคุณค่าของชีวิตของคนเรา อย่าเพิ่งท้อแท้หมดหวัง "ชีวิตของคุณยังมีค่า" ทั้งต่อตัวเองและต่อลูก

แต่ตอนนี้มาดูแลตัวเองก่อนนะครับ อย่าเพิ่งไปพะวงกับปัญหาอื่น แก้ไปทีละเปลาะ เอาให้ตัวเองแข็งแรงขึ้นมาก่อนปัญหาอื่นค่อยว่าอีกที และบางทีเมื่อคุณเข้มแข็งขึ้นคุณอาจมองเห็นวิธีแก้ปัญหาได้ดีกว่าขณะนี้ก็ได้

อาการของคุณดูแล้วน่าจะเข้าได้กับโรคซึมเศร้า แต่การใช้ยาต้านโรคซึมเศร้าควรจะให้จิตแพทย์เป็นคนจัดการให้ เพราะมันมีรายละเอียดของการใช้เยอะอยู่เหมือนกัน อยากให้คุณไปพบจิตแพทย์ครับ ไม่ต้องกลัวว่าจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง ทักษะทางภาษาที่คุณมีอยู่ตอนนี้ผมคิดว่าเพียงพอที่จะคุยกับจิตแพทย์ในเรื่องความเจ็บป่วยของคุณได้

ขอ เป็นกำลังใจให้คุณครับ ถ้ามีอะไรที่อยากจะระบาย หรือมีอะไรที่อยากจะปรึกษา เขียนมาที่นี่ได้ครับ ผมยินดีเป็น "เพื่อนคู่คิด" ให้กับคุณอีกคนหนึ่งครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

Anonymous

26 พฤษภาคม 2557 04:32:42 #5

หนูได้อ่านข้อความที่คุณหมอตอบมา ยังอ่านไม่จบ เพียงบรรทัดแรก อ่านต่อไม่ไหว แต่ก็อ่านจนจบค่ะ คำพูดที่คุณหมอพูดหรือแนะนำมามีค่ามากค่ะ หากหนูได้ไปพบจิตแพทย์ที่นี่ จะเขียนมาหาคุณหมอว่าผลเป็นอย่างไร ล่าสุดเม่ือวานหนูตีตัวเองอีกแล้วค่ะ บอกกับตัวเองหลายครั้งว่าให้หยุด แต่พอเจอเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกแบบนั้น คือการทะเลาะเบาะแว้ง ก็ทำอีก สามีมีโรคประจำตัวที่ไม่เคยบอกหนู คือ โรคเอดีเอชดีค่ะ ขอบคุณค่ะที่คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษา เพราะพูดคุยกับเพ่ือนหรือคนรู้จัก ย่ิงรู้สึกไม่มีใครเข้าใจแถม ยังทำให้รู้สึกไม่ดีมากขึ้นไปอีก

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

28 พฤษภาคม 2557 01:49:33 #6

ยินดีครับที่คำแนะนำของผมช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น

ฝากอีกนิดครับ เพราะพอดีคุณบอกว่าสามีคุณป่วยเป็น ADHD ด้วย คนที่ป่วยด้วยโรคนี้เขาจะอารมณ์ร้อนหุนหันพลันแล่นนะครับ และถ้าคุณก็เป็นแบบนั้นด้วย โอกาสที่ผัวเมียจะทะเลาะกันบ้านแตกมีแน่นอน จริงๆ แล้วเขาก็เป็นคนที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือเหมือนกันนะครับ

ปัญหาครอบครัวของคุณ ส่วนหนึ่งมันก็มาจากเหตุที่เห็นค่อนข้างชัดเหมือนกัน แถมเป็นสิ่งที่แก้ไขได้ด้วย ทุกอย่างอาจไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้นะครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร