คุณหมอค่ะ เดือนนี้พาพ่อไปหาหมอตามนัดค่ะ

หมอสั่งงด Quetiapine (Neutapin) ค่ะ , เพราะเป็นยานอกบัญชี และไม่น่าจะจำเป็นกับพ่อแล้ว หมอบอก...

พยายามขอแบบเดิม หมอก็ไม่ให้ค่ะ ( เหลือแแค่ Depakine chrono , Lorazepam)

อาการพ่อก็เหมือนเดิมค่ะ ยังไม่ดีขึ้น

สงสารพ่อค่ะหมอ เมื่อไหร่จะหายก็ไม่รู้

Quetiapine เป็นยาที่ใช้ควบคุมอาการทางจิต เช่นเอะอะ อาละวาด ก้าวร้าวหรือมีความคิดแบบหลงผิด

ผู้ป่วย Bipolar Disorder ในช่วงแรกๆ อาจมีอาการแบบนี้ได้ บางครั้งจิตแพทย์จึงพิจารณาใช้ยานี้เพื่อช่วยควบคุมอาการด้วย และเมื่ออาการที่ว่านี้ทุเลาลงก็จะหยุดยาดังกล่าว

Sodium Valproate(Depakine) เดิมเป็นยารักษาโรคลมชัก แต่ตอนหลังมีการค้นพบว่ายาตัวนี้สามารถรักษาและควบคุมอาการของ Bipolar Disorder ได้ และมีความปลอดภัยกว่ายา Lithium Carbonate ที่ใช้กันอยู่ก่อน

ในกรณีคุณพ่อคุณเป็นไปได้ว่าจิตแพทย์มองว่า ไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีกแล้วจึงได้หยุดไปและยานี้ก็ไม่ใช่ยาที่รักษา Bipolar Disorder โดยตรงครับ

น่าชื่นใจแทนคุณพ่อคุณครับ ที่มีลูกสาวคอยเป็นห่วงเป็นใยอยู่ตลอดเวลา

นายแพทย์อุดม. เพชรสังหาร

กราบขอบพระคุณ อุดม เพชรสังหาร ค่ะ

ข้อความที่เขียนไว้ 29 ตุลาคม .. คือการไปหาหมอตามนัดวันที่ 22 ตุลาคม (ลดยา Quetiapine (Neutapin))

หลังจากนั้นก็ดูอาการคุณพ่อมาโดยตลอดค่ะ 22 ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายน ( 2 สัปดาห์ผ่านไป )

พ่อมีอาการ

1. นอนตื่นเช้า จากปกติ ตื่นตี5ครึ่ง เป็นตื่นตี3

2. ตัดสินใจเร็ว ขาดการยับหยั้ง ชั่งใจ (อย่างเช่นลูกชายคนเล็กไปตัดผม ก็ไปตัดด้วย ทันทีทันใด) ซื้อของง่ายมากไม่คำนึงถึงราคา

3. ออกนอกบ้านเวลาดึก เพราะต้องการเปิดหูเปิดตา, มีความคึกคักสนุกสนาน

4. ชอบปลูกต้นไม้ …ซื้อกล้วยไม้มาเยอะมากค่ะ

หนูเลยต้องตัดสินใจไปหาหมอทันที (5 พฤศจิกายน) เพื่อแจ้ง-และปรึกษาความผิดปกติที่เกิดขึ้น

(เพราะสิ่งที่เรากลัว คือ การตัดสินใจเร็ว เกรงว่าถ้าไม่รีบแจ้งหมอ พ่อจะไปทำอะไรที่ผิดๆ ตามคำชวนของคนอื่น เช่น ไปดื่มสุรา ไปหาสารเสพติดอื่นๆ)

หลังจากปรึกษาก็ได้รับยาดังนี้

หลังอาหารเช้า : 1. Depakine chrono 500 mg (1 เม็ด) จากเมื่อก่อน ครึ่งเม็ด

ก่อนนอน : 1. Depakine chrono 500 mg (1 เม็ด) เท่าเดิม

2. Lorazepam 2 mg (2 เม็ด) เท่าเดิม

3. Risperidone (NEURIS) 2 mg (1 เม็ด) เพิ่ม ??? น่าจะควบคุมเรื่องการตัดสินใจเร็ว แต่เขียนไว้ว่าระงับอาการทางจิต

4. ClonazePAM 2 mg (1 เม็ด) เพิ่ม (ให้นอนหลับนานขึ้น)

** Benzhexol(Trihexyphenidy) 2 mg (1 เม็ด) เฉพาะเวลาลิ้นแข็ง,ตัวแข็ง,เกร็ง,มือสั่น,ตัวสั่น ( ผลจากการกิน Risperidone)

พ่อกินรอบใหม่ไป 3-4 วันแล้วค่ะ ,,,, ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง รอดูอาการไปก่อนเพราะยา คงยังไม่ออกฤทธิ์……

หมอนัดดูอาการอีก 2 สัปดาห์ค่ะ (วันที่ 19 พฤศจิกายน )

หนูสบายใจขึ้นมากกกกก ที่หมอสละเวลามาให้คำอธิบายเพิ่มเติม … (บางทีหนูคิดเยอะมากค่ะหมอ..บางเวลาคิดเรื่องพ่อมากจนต้องกินคลายเครียดตาม)

สงสารพ่อจริงๆๆค่ะหมอ สงสารจับใจถ้าเปลี่ยนได้จากเป็นโรคนี้แทนพ่อด้วยซ้ำค่ะ หมอ

… หมอค่ะ ถ้าอยากไปปรึกษาหมอแบบควบคู่ ต้องไปที่โรงพยาบาลใช่มั้ยค่ะ ,, หมอเปิดคลินิคหรือเปล่าค่ะ?

ขอบพระคุณ อุดม เพชรสังหาร อีกครั้งค่ะ ..

กราบขออภัยคุณหมอค่ะ (พิมพ์ตกหล่น)

จริงๆๆ จะพิมพ์

:กราบขอบพระคุณ คุณหมออุดม เพชรสังหาร ค่ะ

และลงท้ายคือ

: ขอบพระคุณ คุณหมออุดม เพชรสังหาร อีกครั้งค่ะ

Risperidone หรือ Risperdol เป็นยารักษาอาการทางจิต แบบเดียวกับ Quetiapine แต่ราคาถูกกว่าและอยู่ในบัญชียาหลัก สรรพคุณเหมือนกันครับ เพียงแต่จะมีอาการข้างเคียงคือตัวแข็ง น้ำลายไหล ผู้ป่วยบางคนอาจไม่ชอบ

รอดูอาการคุณพ่อไปสักพักครับ ผมว่าคงค่อยๆ ดีขึ้น

ผมไม่ได้ทำคลินิกครับ ถ้าจะปรึกษาอะไรผ่านเว็บนี้ได้เลยครับ
ยินดีที่ได้ทำให้คุณสบายใจ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

กราบขอบพระคุณ คุณหมออุดม เพชรสังหาร ค่ะ

ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

หนูจะดูแลพ่อให้ดี ,,, แล้วจะมาแจ้งอาการหมอเป็นระยะ ระยะ ค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ก็ไปหาหมอตามนัดค่ะ

แต่รอบนี้ก็ไม่ดีขึ้นค่ะ(ต้องใช้เวลา) มีอาการที่มากขึ้นคือ อยากเปิดหูเปิดตา ชอบเดินทาง ไปหาเพื่อน ไม่ติดบ้าน ยังตื่นตี 3 ตี 4 อยู่ และขยัน คิดเร็ว รีบร้อน อยากทำทุกอย่างให้เสร็จแบบข้ามขั้นตอน เช่นคิดแค่ 1 แต่ใจไปถึง 4 แล้ว ....

รอบนี้ได้ยาเพิ่มมา 1 ตัว  คือ depakine (sodium valproate) 200 mg 1 เม็ด ก่อนนอน

ตัวอืนเหมือนเดิมค่ะ

หลังอาหารเช้า :

1. Depakine chrono 500 mg (1 เม็ด)

ก่อนนอน :

1. Depakine chrono 500 mg (1 เม็ด)

2. Lorazepam 2 mg (2 เม็ด)

3. Risperidone (NEURIS) 2 mg (1 เม็ด)

4. ClonazePAM 2 mg (1 เม็ด)

** Benzhexol(Trihexyphenidy) 2 mg (1 เม็ด) เฉพาะเวลาลิ้นแข็ง,ตัวแข็ง,เกร็ง,มือสั่น,ตัวสั่น ( ผลจากการกิน Risperidone)

ยาที่เพิ่มมาก็มาควบคุมอาราณ์อีกแล้วค่ะหมอ ? สงสารพ่อ ...

ขอบพระคุณค่ะ

การรักษาโรคทางจิตเวชความยุ่งยากจะอยู่ที่การปรับยาให้เหมาะกับอาการของคนไข้นี่แหละครับ เพราะคนไข้แต่ละคนตอบสนองต่อยาไม่เหมือนกัน และไม่มีสูตรตายตัว ไม่เหมือนโรคทางฝ่ายกายครับ การเร่งเพิ่มยาโดยทันทีอาจเป็นผลเสียต่อคนไข้ จึงต้องค่อยๆ ปรับและดูอาการของคนไข้ประกอบไปด้วย

ตอนนี้ผมคิดว่าหมอก็คงมองเห็นแล้วว่ายายังไม่พอ จึงเพิ่ม Depakine ขึ้นไปอีก

อดทนนิดหนึ่งนะครับ ตอนนี้คุณพ่ออยู่ในมือหมอแล้ว ถือว่าเราได้ช่วยกันทำดีที่สุดแล้วครับ

ยังดีครับที่เรามี Depakine ใช้ ถ้ายังต้องใช้ Lithium Carbonate เหมือนสมัยก่อนอยู่ ต้องเจาะเลือดดูระดับยาเป็นช่วงๆ ลำบากกว่านี้เยอะครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

ขอบพระคุณ คุณหมออุดม เพชรสังหาร ค่ะ

ขอบคุณค่ะหมอ ตอนนี้หนูก็พยายามทำใจ และใจเย็นๆ เพราะไม่อยากให้พ่อเครียดตาม (พยายามคิดว่าคนอื่นยังหนักกว่านี้ ) หนูจะพยายามทำหน้าที่ของหนูให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ.... 

นัดครั้งต่อไป 3 ธันวาคมค่ะ ..... หนูจะมาขอคำปรึกษาคุณหมออีกนะค่ะ

ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ

ยินดีครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

สวัสดีค่ะ คุณหมอ (เมื่อวันที่ 3 ธันวา  ก็ไปหาหมอตามนัดปกติ )

อาการจากการทานยารอบที่แล้ว ความอารมณ์ดีที่ดีเกินไปลดลง สตินิ่งขึ้น บางจังหวะเหมือนจะเหงา  แต่ยังขยัน มีโครงการ ใช้เงินเก่ง อยากท่องเที่ยว อยากเดินทาง ไม่ติดบ้าน ไปนวดแผนโบราณบ่อยๆ

ความที่อารมณ์ดีลดลง สตินิ่งขึ้น อาจเป็นผลมาจาก depakine (sodium valproate) 200 mg 1 เม็ด ก่อนนอน

ใช่มั้ยค่ะหมอ?

พอรอบนี้ไปหาหมอ : หนูต้องบอกหมอว่ากลางวันพ่อบ่นว่าเหนื่อย พอก่อนนอนก่อนจะหลับมีสดุ้งและละเมอ

หมอเลยงดยาตอนเช้า แล้วไปให้ก่อนนอนแทน และเพิ่ม depakine (sodium valproate) 200 mg อีก1 เม็ด ก่อนนอน และงด  Risperidone (NEURIS) 2 mg (1 เม็ด) ก่อนนอน

รอบนี้เป็น

ก่อนนอน :

1. Depakine chrono 500 mg (2 เม็ด)

2. Lorazepam 2 mg (2 เม็ด)

3. ClonazePAM 2 mg (1 เม็ด)

4. Depakine (sodium valproate) 200 mg (2 เม็ด)

การลด Risperidone (NEURIS) 2 mg (1 เม็ด) ก่อนนอน จะทำให้พ่อหงุดหงิด และเหงามั้ยค่ะหมอ?

สงสารพ่อมากค่ะหมอ ... แกคิดเรื่องยามาก ว่าทำมัยต้องกินเยอะ กินนาน เมื่อไหร่จะหาย แกบอกว่า แกกินยาเยอะกลัวจะเป็นตับ ไต กล้ามเนื้อแกก็เหนื่อยล้า ปวดหลัง ปวดขา (พูดไปเองหรือเปล่า) ล่าสุดแกบ่นว่าจะหนีไปไกลๆ จะไม่กลับมา ถ้ายังต้องกินยาเยอะขนาดนี้... หนูก็ได้แค่ปลอบและให่กำลังใจ

รอบหน้าหมอนัด 17 ธันวา ค่ะ .... สงสารพ่อจริงๆ

ขอบคุณค่ะ หมอ

ตอนนี้คุณพ่อได้ Depakine 1,400 mg/day อาการต่างๆ ดูดีขึ้น น่าจะเป็นระดับยาที่เหมาะสม ซึ่งผมคิดว่าคุณหมอคงจะประเมินอีกทีในการนัดครั้งต่อไป Depakine คือยาหลักในการรักษาโรคนี้ครับ

Risperdol เป็นยาควบคุมอาการวุ่นวาย ไม่ใช่ยารักษา Bipolar Disorder แต่ที่คุณหมอต้องใช้ในช่วงแรกเพราะ Depakine ยังไม่ได้ขนาดพอเหมาะและยังออกฤทธิ์ไม่ได้เต็มที่(ที่ผมเคยตอบไปครั้งก่อนว่าการรักษาโรคทางจิตเวชนั้น ผู้ป่วยแต่ละรายตอบสนองต่อยาไม่เหมือนกัน จิตแพทย์จึงต้องใช้วิธีค่อยๆ ปรับยา เพื่อให้เหมาะกับอาการของผู้ป่วยแต่ละราย) เมื่อ Depakine ออกฤทธิ์ได้พอเหมาะแล้ว ความจำเป็นในการใช้ Risperidol ก็ไม่มี หมอจึงหยุดยาครับ ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะมีผลเสียต่อผู้ป่วย เพราะยาหลักคือ Depakine

การที่ผู้ป่วยบ่นเมื่อยตามตัว อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากอาการข้างเคียงของ Risperidol เพราะยาตัวนี้ทำให้เกิดอาการแข็งเกรงของกล้ามเนื้อได้ เมื่อหยุดยาแล้วอาการที่ว่าน่าจะหายไป

ทุกอย่างดูคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นนะครับ ในฐานะแพทย์และพ่อคนหนึ่ง ผมชื่นชมคุณมากครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

ขอขอบพระคุณคุณหมออย่างสูงค่ะ (เข้าใจทุกอย่างหลังจากที่หมออธิบายค่ะ)

แต่ล่าสุดเมื่อคืนคุณพ่อไม่ยอมกิน Depakine chrono 500 mg ที่ย้ายมาจากตอนเช้า เพราะพ่อบอกว่าเหนื่อยมาก

พ่อขอร้องให้เอาออก 1 เม็ด ( 2 เม็ดก่อนนอน เหนื่อยมาก )

หนูดูอาการ (4วัน)พ่อคงเหนื่อยจริงค่ะหมอ ตาปลือๆ เหมือนจะหลับ ซึมๆ และหนูดูอาการคงหนักไป

เมื่อคืนเลยตัดสินใจให้เอาออก 1 เม็ด ( เพราะรอบก่อน ก็กิน 1 เม็ด)

แต่หนูบอกให้เอาไปทานเช้าเหมือนเดิม แต่เมื่อเช้าก็ไม่ทาน 

แต่  depakine (sodium valproate) 200 mg 2 เม็ด ก่อนนอน ก็กินเหมือนเดิม 

ตอนนี้เอาออก 500 mg 1 เม็ดอย่างเดียว

ผลของการลดตัวนี้ เมื่อเช้าตื่นมา หน้าตาสดใสกว่าเดิมค่ะหมอ (หนูรู้สึกดีมาก สังเกตุได้ชัด) 

ถามว่าเหนื่อยมั้ย พ่อก็ส่ายหน้าแล้วค่ะ หมอ

ตอนนี้ก็คงกินตามนี้ไปก่อน (ไม่ได้กลับไปปรึกษาหมอก่อนนัด เพราะตอนนี้พาพ่อมาพักผ่อนที่ กทม ค่ะหมอ)

จะพากลับก็วันที่ 14 ธค

หนูภาวนาให้ทุกอย่างดีขึ้น ไม่ช้าก็เร็ว สงสารพ่อจริงๆ แต่หนูก็ต้องเข็มแข็ง

ขอบคุณคุณหมอมากๆนะ อย่างน้อยหนูก็มีที่ปรึกษา ที่พึ่งพิง

สาธุขอบให้ผลกุศลที่หมอเสียสละเวลามาให้คำปรึกษา ตอบแทนกลับหาหมอให้ได้ในสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ

ขอให้หมอและครอบครัวมีความสุขมากๆค่ะ

ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะหมอ

สวัสดีค่ะคุณหมอ ... ตอนนี้พ่ออาการดีขึ้นมากค่ะ ไม่อยากออกไปไหน ไม่ขยัน

เมื่อ 17 ธค ไปหาหมอตามนัด ได้ยามาตามด้านล่าง

ก่อนนอน :

1. Depakine chrono 500 mg (2 เม็ด)

2. Lorazepam 2 mg (1 เม็ด)

3. Depakine (sodium valproate) 200 mg (2 เม็ด)

Depakine หมอให้กินเหมือนเดิมค่ะ พ่อขอลดยานอนหลับเพราะพ่อบอกว่าเพลียและง่วง เลยเหลือ 3 ตัวด้านบน

และ Lora ก็เหลือ 1 เม็ด

พ่อก็หลับได้ดีอยู่ค่ะ

ด้านนี้ภาพรวมดีขึ้นเลยๆ

ขอบคุณหมอมากๆค่ะ

ดีใจด้วยครับ

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร

ขอบคุณคุณหมอค่ะ

ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่นี้ หนูขอให้คุณหมอพร้อมครอบครัวมีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรง สมปรารถนาทุกประการค่ะ ตลอดปีและตลอดไปค่ะ ....

ช่วงปีใหม่ก็ดูแลพ่อตลอดค่ะหมอ ชวนทำกิจกรรม ทำกับข้าว จ่ายตลาด ไปทำบุญ อาการดีขึ้นตามลำดับค่ะ

ส่วนใหญ่จะนอน ดูทีวี (หนูถามว่าทำมัยนอนเยอะ พ่อบอกว่าเหนื่อยเหมือนกับว่ารู้ว่าเราจะใจอ่อนสงสารและจะให้ลดยา อะไรประมาณนั้นนะคะ หมอ) แต่ก็ให้กินตามปกติค่ะ มีแค่ตัว Depakine chrono 500 mg ที่ได้มา 2 เม็ดแต่พ่อแกกินเองเม็ดเดียวตลอดเลย จัดไว้เป็นชุดๆ ก็หยิบออก ... สงสัยจะเหนื่อย...หมอประตัวนัด 14 มค 56 หนูจะบอกอาการและการกินยาจริงกับหมอประจำตัวอีกที

ดีใจมากๆเลยค่ะคุณหมอ หนูถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่วิเศษที่สุดเลยค่ะหมอ

ขอบคุณคุณหมอค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหมอ

เมื่อวันที่ 14 มค 56 ไปหาหมอตามนัด (หมอประจำตัวย้ายไปนครสวรรค์) ต้องพบหมอคนใหม่

ก็เล่าเรื่องราวให้ฟัง รอบนี้ หมอให้

1. Depakine chrono 500 mg (1 เม็ดครึ่ง)  * พ่อกินจริง 1 เม็ด (เดือนที่ผ่านมาก็จ่าย 2 เม็ด พ่อกินจริง 1 เม็ด) อธิบายว่าพ่อเหนื่อย แต่หมอบอกว่าไม่ให้ลด ให้กินแบบนี้ไปก่อน แต่ตอนนี้พ่อก็กิน พ่อกินจริง 1 เม็ดค่ะ

2. Lorazepam 2 mg (1 เม็ด)

3. Depakine (sodium valproate) 200 mg (2 เม็ด)

อาการดีขึ้นตั้งแต่ปีใหม่ แต่พ่อมีอาการเหนื่อยค่ะ หมอ ขี้เกียจ ไม่อยากไปทำงาน และบ่นว่าเหนื่อยมากทุกวัน หนูก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากให้ดื่มแบรนด์ ทุกๆวัน ตอนที่เหนื่อย ดื่มน้้ำหวาน

คงต้องรอพบหมออีกทีวันที่ 11 กพ 56 ค่ะ ...ตอนนีี้เป็นห่วงเรื่องที่พ่อเหนื่อยมากเลยค่ะหมอ

น่าจะเป็นเพราะอาการดีขึ้น ความขยันหายไป แต่ยาเท่าเดิมใช้มั้ยค่ะหมอ

เป็นอาการปกติมั้ยค่ะ หรือว่าต้องรีบกลับไปหาหมอทันที หนูกลัวว่าท่านจะไม่ไหว

ขอรบกวนถามผู้รู้หน่อยครับ คือแฟนผมเป็นโรคจิตเวชมา2-3ปี กินยาแล้วก็หาย จนปีที่แล้วตั้งท้อง คลอดเดือนมกราคม 2556 ที่พามา หลังจากคลอดก็ไม่มีอะไร ไปหาหมอๆก็บอกว่าปกติ นัดเจออีก 2เดื่อน จนกับเข้าไปทำงานได้ไม่ถึงอาทิอาการรีบออกจนตกอยู่งานเลย อาการคือ คิดแต่เรื่องในอดีต คิดไปคิดมาคุยไม่รู้เรื่อง คิดว่าแฟนเป็นเกย์ คือว่าลูกที่พึ่งเกิดไม่ใช่ลูกขอแฟน ซึ่มคิดว่าตัวเองไม่มีค่าผิดตลอด และก็ไม่มีอาการก้าวร้าวแล้วพาไปหาหมอๆให้ยา Neutapin รึ Quetiapine 200 mg 2 เม็ดก่อนนอน และStarin 59 mg 1เม็ดก่อนนอน และ Diazepam 5 mg 1 เม็ดเวลาเครียด แต่กินมาได้ 1อาทิอากาศไม่ดีขึ้นเลย จึงไปหาหมอแต่ไม่เจอหมอคนที่รักษาประจำ แต่เจอหมอคนใหม่ แฟนก็เข้าไปคุยเสร็จแล้วเรียกผมเข้าไปคุยด้วย และหมอก็หาแฟนผมไปรอข้างนอก หมอคุยกับผมว่า คุยไม่รู้เรื่องพูดกับไปกับมา และอาจคิดสั้นได้ และบอกว่าจะให้แฟนผมนอนที่โรงพยาบาล แต่ผมสงสารแฟนจึงบอกว่าขอยาเพิ่มหรืออะไรก็ได้ หมอคนใหม่ก็เลยจะฉีดยาให้มีผล 3 วัน ผมก็ ok แต่แล้วก็มีเรื่องจะได้ ตอนขับรถออกมาจากคนโรงพยาบาลได้ซักพัก แฟนก็โทรหาแม่แต่แม่ไม่อยู่บ้านทั้งๆที่นัดกับแม่ไว้แล้วว่าถ้าหาหมดเสร็จจะไปนอนบ้านแม่แทนบ้านแฟน แต่ไม่อยู่ก็เลยตะคอดใส่แม่ว่าเห็นตัวแฟนเป็นสัมภเวสีหรือ แล้วก็จะเปิดประตูรถ จะกลับเอง. ผมจึงโทรบอกแม่แฟนว่าอยากให้นอนโรงพยาบาล จึงนำกลับไปที่โรงพยาบาลอีกรอบ. ตอนเข้าไปก็ไม่มีอะไร นอนได้ 2 วัน แฟนผมก็คุยรู้เรื่องบ้าง. และขอกลับบ้าน ผมสงสารแฟนเลยขอพยาบาลๆไม่ยอมบอกต้องถามหมอที่ให้อยู่ ผมเลยไปพบหมอตอนแรกหมอไม่ยอม ผมขอร้องว่า จะหยุดงาน 1-2 อาทิดูแลแฟนแล้วก็มีแม่แฟนดูด้วย ว่าอยู่บ้านแล้วอาการจะดีขึ้นไหม โดยให้คุยกับลูกคุยกับแฟนดูแลแบบเต็ม 100 บำบัดจิตใจด้วย. หมอจึงยอม โดย ให้ยาเหมือนตอนที่นอนโรงพยาบาล คือ. Neutapin รึ Quetiapine 200 mg 1 เม็ดก่อนนอน และ Olapin 10mg 1 เม็ดก่อนนอน และ Sertraline 50 mg 1 เม็ดก่อนนอน แล้วนัดรักษาด้วยไฟฟ้า คือ 20-22-25 มีค แล้ว 26 คุยกับหมอ (อยากถามว่าหมอคนเก่าที่ดูแลมาเป็นปีๆยัง ไม่เคยบอกให้นอนหรือรักษาด้วยไฟฟ้าเลย แต่ทำไหมหมอคนใหม่เจอไม่ถึง 10 นาที แล้ว สรุปว่าต้องนอนหรือรักษาด้วยไฟฟ้า) รบกวนช่วยตอบที่คับ