21 มกราคม 2556 11:53:24 #1

 มีอาการมาตั้งแต่ประมาณอายุ 14-15 ปี  ซึ่งตอนนี้ก็ผ่านมา 3-4 ปีแล้ว อาการคือ

- มักมีอาการชา เริ่มที่ใบหน้า  ไปแขน และขา บางครั้งก็เป็นทั้งตัว บางครั้งอาการเป็นหนักถึงขั้นทรงตัวไม่อยู่  ตาลายมองเห็นไม่ชัด  ง่วงนอนเหมือนจะหลับ  หนักศีรษะ  ถือหรือจับสิ่งของไม่ได้ ร่วมกับตัวร้อนสูง(แต่ไม่เป็นหวัด)  เป็นครั้งหนึ่งใช้เวลาเป็นวันๆกว่าจะหาย ทรมานค่ะ เรียนอยู่ด้วย ทำให้เขียนหนังสือไม่ได้เลย  

- ปวดหลังมาก  ปวดบริเวณกระดูกสันหลังกลางๆหลัง  ปวดจนชา เจ็บจี๊ด   มักเป็นตอนที่นั่ง นอน ยืน ได้ไม่ถึง 5-10 นาทีก็ปวดแล้ว   บางครั้งปวดจนร้องไห้  ส่วนมากแก้ด้วยการ กินยาแก้ปวด  เอี้ยวหลัง/บิดตัว(กระดูกก็หลันมีเสียง)  แต่ถ้าปวดจนชาและเจ็บจี๊ดจะไม่สามารถบิดตัวได้เลยเพราะจะยิ่งเจ็บมากขึ้น และตัวร้อน

* อาการทั้งสองนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกัน  หรือเป็นสลับกัน  ช่วงปีแรกๆ ก็เป็นไม่มาก เป็นห่างกันแค่ 2-3 วัน ไปหาหมอ หมอบอกว่าอาการชาเกิดจากหนูอาจจะขาดวิตามินB หรืออาจจะเกิดจากโรคที่หมอคิดไว้(ในใจ..แต่ไม่ได้บอกหนู) ยังไงก็ลองดูก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยว่ากัน ซึ่งหมอก็ให้ยามา พร้อมกับแนะนำอาหารที่ให้วิตามินB  หนูก็เปลี่ยนจากทานข้าวธรรมดามาทานข้าวกล้อง ข้าวไม่ขัดสีและวิตามินที่หมอให้มา  อาการก็ไม่ดีขึ้น  หนูเลยทำไปเรื่อยๆ คิดว่าอาจจะดีขึ้น จนเวลาผ่านไปเป็นปี อาการก็ยิ่งรุนแรงขึ้น หนูกลับไปหาหมออีกครั้ง(ทั้งอาการชาและปวดหลัง)  และได้คำตอบเดิม"ขาดวิตามิน" และให้ยามา(แต่ครั้งนี้ได้น้อยกว่าครั้งที่แล้ว 2 อย่าง)  หนูก็กินจนหมดทั้งยาวิตามิน ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย   จนถึงตอนนี้ ช่วงต้นปีที่ผ่านมา อาการหนูทรุดหนัก จู่ๆหนูก็ชาทั้งตัว หน้ามืด ง่วงนอนมาก(เลิกเรียนพอดี พยายามพาตัวเองกลับบ้าน)  พอมาถึงบ้านหนูก็นอนลงและหลับไปทันที หนูตื่นอีกทีที่โรงบาล แม่บอกว่าหนูหลับไปตั้งแต่เย็นวันนั้นเรียกเท่าไหร้ก็ไม่ตื่น จนถึงเช้าของอีกสองวันถัดมา  หมอบอกว่า"หนูไม่ได้เป็นอะไร แค่กล้ามเนื่ออ่อนแรงเฉยๆ อาการไม่น่าเป็นห่วง"   หนูก็กลับบ้าน  จนถึงวันนี้ หนูกลับไปหาหมออีก  เพราะว่าหนูเป็นทั้งสองอาการรวมกันมาเป็นอาทิตย์แล้ว ตอนแรกๆจะปล่อยให้มันหายไปเอง มันไม่หายและเป็นมากขึ้น   (ดูบทสนทนานะคะ)

หนู: >>> เล่าอาการตามเคย  ในขณะที่หมอก็เลื่อนดูประวัติหนูในคอม ซึ่งหนูมีประวัติที่โรงบาลนี้ ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนเกี่ยวกับอาการนี้ แต่เป็นหมอคนละคนกัน

หมอ: เท่าที่ฟังอาการและดูจากประวัติแล้ว ทั้งสองอาการของหนูมันไม่เกี่ยวพันกัน ไม่มีไรมาก มันเป็นอาการปวดหลังธรรมดา และชาตามร่างกายธรรมดา

หนู:แล้วหนูต้องรักษาตัวอีกนานแค่ไหนคะ แล้วหนูต้องรักษาอย่างไร

หมอ:ไม่ต้องทำไรเลย แค่กินยาแก้ปวด เดี๋ยวก็หาย (กินจะหมดโรงงานแล้วค่ะ จนจะเป็นโรคตับพัง โรคไตพังแทนแล้ว บอกให้หนูอยู่เฉยๆยังดีกว่าอีก)   แต่หมอก็บอกไม่ได้หรอกนะว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ก็พยายามกินยาไป  อันนี้มันขึ้นอยู่กับบุคคลว่าจะหายช้าหรือเร็ว

หนู: ค่ะๆ  เอ่อ..หนูอยากรู้ว่า มันเกิดจากอะไรหรอค่ะ ทำไมหนูทำยังไงก็ไม่หายสักที

หมอ: หมอก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร!!!  ที่แน่ๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  เกิดจากอะไรไม่สำคัญ รักษาให้หาย กินยาตามที่บอกก็พอ

หนู : ค่ะๆ ขอบคุณมากค่ะ-/\-  >> และเดินไปรับยา(รอบนี้ได้ยาแก้ปวดแผงเดียว)กลับบ้าน

เป็นอีกครั้งกับคำตอบ ที่สวนกระแส กับอาการที่เกิดขึ้น  ตั้งใจจะเปลี่ยนโรงบาลแต่มันยุ่งยากและไม่มีเวลาเลยค่ะ  เคยมีหลายคนบอกให้เอกซเรย์ พอแม่ไปบอกหมอขอเอกซเรย์ หมอกลับไม่ให้เอกซเรย์พร้อมกับบอกอีกว่า"หมอบอกว่าไม่มีไรน่าเป็นห่วง  เชื่อหมอซิ"   แล้วหนูต้องทำยังไงกับอาการที่เกิดขึ้น ซึ่งอาการก็แย่ลงๆทุกที หนูไม่ได้ไปโรงเรียนมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว  แม่ไม่ให้ไป กลัวจะกลับไม่ได้(เหมือนครั้งก่อน)  หมอช่วยแนะนำหน่อยนะคะ  ถึงจะเป็นคำตอบเดิมหนูก็จะรับฟังและที่สำคัญหนูอยากรู้ว่ามันเกิดจากอะไร  มีวิธีไหนที่ช่วยให้หนูหายปวดหรือปวดน้อยลงนอกเหนือจากการกินยามั้ยค่ะ   

จะว่าหนูไม่ออกกำลังกายก็ไม่ใช่  เพราะหนูว่ายน้ำ ทุกอาทิตย์(2-3 ชั่วโมง)  ที่โรงเรียนก็มีเรียนพละ ได้เล่นกีฬาและบริหารร่างกายเป็นประจำทุกสัปดาห์

ขอบคุณ คุณหมอล่วงหน้านะคะ  ^/\^  

22 มกราคม 2556 15:34:20 #2

23 มกราคม 2556 15:45:45 #3

24 มกราคม 2556 04:40:18 #4

24 มกราคม 2556 15:39:36 #5