ตอบข้อ 6

- การตรวจสุขภาพประจำปี ควรตรวจทุกปีเป็นประจำ เริ่มได้ตั้งแต่ อายุ 18 ปี

- ตรวจสุขภาพฟัน เป็นเรื่องที่ควรต้องทำเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือบ่อยตามที่ทันตแพทย์แนะนำ

- ส่วนเรื่องวัคซีน คุณควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาโรคลมชักและโรคภูมิแพ้

- เมื่อต้องการให้ของขวัญกับตนเอง ก็ควรตัดสินใจเลือกเองคะ

พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์

เรียน คุณ nonoon54897

ทางทีมงานขอชี้แจงเรื่องคำถามค่ะ

เนื่องจาก คุณ nonoon54897 ได้ตั้งคำถามหลายข้อที่มีประเด็นแตกต่างกัน ซึ่งคำถามแต่ละข้อจะมีคุณหมอทั้งหมด 4 ท่านมาให้คำตอบ ดังนั้นคุณสามารถติดตามคำตอบได้จากกระทู้นี้เท่านั้นนะค่ะ

ทั้งนี้การตอบคำถามของคุณหมอแต่ละท่านขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งคุณหมอบางท่านอาจติดภารกิจในบางครั้งไม่สามารถตอบในทันทีได้ และบางคำถามอาจต้องรอหลายวันหน่อย แต่ถ้ารอได้ทุกคำถามมีคำตอบให้แน่นอนค่ะ

คำตอบข้อ 1.วัคซีนเผื่อเลือกที่แนะนำให้ฉีดคือ

-วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ครับเพราะถึงแม้ว่าจะเคยเป็นแล้วก็สามารถเป็นซ้ำอีกได้ครับ เนื่องจากวัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค 70-80% และแต่ละปีสายพันธ์ที่บรรจุอยู่ในวัคซีนซึ่งมี 3สายพันธ์จะแตกต่างกันไปแต่ละปี จำเป็นจะต้องฉีดทุกปีปีละ1เข็มครับ

-วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกครับมีประโยชน์มากกรณีที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ถึงแม้เคยมีเพศสัมพันธ์ก้สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ครับแต่ประสิทธิภาพจะน้อยกว่า

คำตอบข้อ 2.ไม่จำเป็นต้องเจาะดูภูมิครับ สามารถฉีดได้เลยครับ

นพ.ทรงเกียรติ อุดมพรวัฒนะ

ตอบข้อ 4

โรคลมชักเป็นโรคทีมีโอกาสหายสูงครับ ประมาณร้อยละ 70 ครับ ปัจจัยที่มีโอกาสหายสูง ได้แก่ การที่มีอาการชักเป็นมาไม่นานก่อนเริ่มการรักษา จำนวนครั้งที่ชักไม่บ่อยก่อนการเริ่มการรักษา สาเหตุของการชัก ถ้าสามารถแก้ไขได้ สาเหตุไม่รุนแรงก็มีโอกาสสูงที่จะหาย แต่ถ้าเป็นโรคที่เป็นมาแต่เกิด เช่น สมองส่วนผิวผิดปกติ มีการพัฒนาการของสมองผิดปกติ มีการฝ่อของสมองส่วนกลีบขมับ และเมื่อทำการรักษาแล้วเราจะสังเกตได้ว่าการรักษานั้นตอบสนองดีหรือไม่ คือถ้าเริ่มรักษาด้วยยากันชักเพียงชนิดเดียวก็ตอบสนองดี คือ ไม่ชักอีกเลย สิ่งนี้จะเป็นตัวบอกว่ามีโอกาสหายสูงครับ การห้ามดื่ม ชา กาแฟหรือไม่นั้น ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ชี้ชัดครับ แต่ถ้าเราสังเกตได้ว่าถ้าดื่มแล้วมีอาการชักเพิ่มขึ้นก็ไม่ควรดื่มครับ ส่วนช็อกโกแลตไม่มีข้อห้ามครับ แต่จะห้ามในผู้ป่วยปวดศีรษะไมเกรนครับ

ตอบข้อ 5

กรณีที่ท่านเพิ่งเริ่มมีอาการได้ 2 สัปดาห์ โดยก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นมาก่อนนั้น และไม่มีไข้ ไม่มีอาการตามัว ไม่มีแขน ขาอ่อนแรง และอาการไม่รุนแรงมาก เช่น ให้คะแนนไม่เกิน 5 เต็ม 10 คะแนนนั้น ผมว่าไม่น่าจะมีสาเหตุที่ร้ายแรงครับ จากอาการที่เล่าให้ฟังน่าจะเป็นจากการที่กล้ามเนื้อหดรัดตัว อาจเนื่องมาจากความอ่อนล้า ความเครียดของร่างกายหรือความกังวล ที่พบบ่อยคือกังวลว่าเราจะเป็นอะไร เป็นเนื้องอกสมองหรือไม่ ความกังวลนี้ยิ่งทำให้ปวดศีรษะมากขึ้น การนอนไม่หลับก็เป็นสิ่งสำคัญครับ การตรวจ CT scan สมองนั้น มีข้อบ่งชี้ คือการที่แพทย์คิดถึงสาเหตุในสมองที่รุนแรง เช่น เนื้องอกในสมอง มะเร็งสมอง เลือดออกในสมอง เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวที่รุนแรงและเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ มีประวัติอุบัติเหตุที่ศีรษะอย่างรุนแรง คือ หมดสติ ลืมเหตุการณ์ จำไม่ได้จึงจะถือว่าอุบัติเหตุนั้นรุนแรง มีอาการอาเจียน ตาพร่ามัวร่วมกับการปวดที่รุนแรง มีแขนขาอ่อนแรง ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ไม่ตอบสนองต่อการรักษา ถ้ามีอาการเหล่านี้ แพทย์ก็จะส่งตรวจ CT scan สมองครับ การเปลี่ยนโรงพยาบาลหรือไม่นั้นตอบยากครับ ขึ้นอยู่กับแพทย์ที่ท่านตรวจรักษามากกว่าโรงพยาบาลครับ พยายามพักผ่อนให้พอ ไม่กังวล ทานยาให้ครบ นอนหลับให้สนิท อาการก็น่าจะค่อยๆดีขึ้นครับ

ตอบข้อ 3

การที่คนเรากลัวอะไรมักมีสาเหตุมาจากประสบการณ์หรือความฝังใจแบบร้ายๆ หรือไม่ดีเกี่ยวกับสิ่งนั้น รวมทั้งความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับสิ่งนั้น ในกรณีของคุณ คุณกลัวหมอผู้ชาย เป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณมีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับหมอผู้ชาย อาจตั้งแต่คุณยังเด็กๆ ลองทบทวนดูนะครับ

ขอแนะนำให้ลองปฏิบัติดังนี้ครับ

1. หาทางตอบตัวเองให้ได้ว่าถ้าเจอหมอผู้ชาย จะเกิดอันตรายอะไรขึ้นกับคุณ

2. ลองทบทวนดูว่าตั้งแต่จำความได้จนกระทั่งปัจจุบัน "หมอผู้ชาย" ทำอะไรให้คุณรู้สึกฝังใจมาโดยตลอด นึกถึงเหตุการณ์นั้นและลองพิจารณาใคร่ครวญให้ดีๆ ดูว่า ณ เวลานี้เหตุการณ์ที่ว่า "จะยังเป็นอันตรายกับคุณอยู่อีกหรือไม่"

3. ถ้าคุณสามารถตอบตัวเองได้ทั้ง 1 และ 2 คุณจะหายจากความกลัวในที่สุด

4. ในขณะเดียวกันก็อย่าหลีกเลี่ยงการพบหมอผู้ชาย เพราะการเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากลัว(โดยที่สิ่งนั้นไม่น่ากลัว) จะทำให้เราได้เกิดการเรียนรู้ใหม่ว่า "มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราเคยคิด"

การรักษาความกลัวที่ได้ผลต้องปรับที่ความคิด และต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เรากลัวไปพร้อมๆกัน

นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร