กระดานสุขภาพ
อาการเลือดออกในสมองเนื่องจากหัวฟาดพื้น | |
---|---|
3 พฤษภาคม 2558 10:05:46 #1 สวัสดีคะ..เรื่องเกิดขึ้นเนื่องจาก.มีมอเตอร์ไซค์คันนึงคะ.วิ่งตัดหน้าออกมาคะ..ดิฉันมองไม่เห็นเลยชนไปเต็มๆคะ..ดิฉันจำไม่ได้ว่าชนเเบบไหน.เเล้วไปกระเเทกตรงไหนคะ.มาจำได้อีกทีนึง..ตอนที่มีคนมาช่วยพยุงนั่งคะ...รุ้ตัวว่าชนเเล้ว..เเล้วก็ไม่รู้สึกตัวคะ...คนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า..ดิฉันมีอาการชักเกร็งไปประมาณ 20 วินาทีคะ..เเล้วก็ฟื้นคะ..หลังจากนั้นก้อรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลคะ...เมื่อไปถึงเเพทย์ก้อซักประวัติ...ว่าเจ็บ มีอาการ.อะไรบ้างคะ..ดิฉันลุกนั่งไมไหวเลยคะ..บ้านหมุนไปหมดเลยคะเวียนศรีษะปวดศีรษะมากเลยคะ..เเละนำตัวไปสเเกนสมอง..คะ...ผลออกมาคือสมองบวมเเละช้ำคะ เเละมีเเผลถลอกๆที่ศีรษะคะ..ศีรษะบวมไปครึ่งนึงเลยคะ..จากที่โดนกระเเทก...อย่างเเรงคะ เเต่ไม่มีอาการตาพร่ามัว ไม่อาเจียนนะคะ มีเเต่เวียนหัว มึน ปวดหัว คลื่นไส้คะ หลังจากนั้นดิฉันก้อเข้าไปในห้อง icu คะ รอดูอาการ 2 วันคะ หลังจากนั้นก็ออกมาพักฟื้นที่ห้องปกติคะ...ส่วนอาการก็จะ ลุกยืน นั่งยังไม่ได้คะ ปวดหัวคะ เมื่อเวลาผ่านไป 3 วันคะ..หมอจะให้กลับบ้านเเล้วเชียว ยุ่ดีๆก้อปวดหัวขึ้นมาดื้อๆเลยคะจนต้องไปสเเกนสมองใหม่คะ...ผงออกมาคือ สมองยังช้ำยุ่คะ ไม่เพิ่ม มากไปกว่าเดิม เเต่ยังมีเลือดออกยุ่นิดหน่อยคะ ไม่มาก นิดเดียวคะ..หมอบอกว่าไม่เปนไรคะ..ให้พักผ่อนเยอะๆ..อย่าทำอะไรหนัก..ซึ่งดิฉันก้อเชื่อ..จนหมออนุญาตให้กลับบ้านคะ...กลับมาบ้านก็ยังมีอาการปวดหัวยุ่คะ..บางครั้งก้อปวดมาก..บางครั้งก้อน้อย..หรือไม่ปวดเลยคะ...ดิฉันสังเกตตัวเองเหมือนกันนะคะ..ว่าเวลานอนจะชอบฝันร้าย..เเล้วจะมีอาการปวดมากๆ.เเล้งเหมือนจะได้ยินเสียงในหัวดงตึ๊บๆๆเเรงๆเวลาฝันคะ..ดิฉันจึงต้องรีบตื่น..เพราะกลัวเลือดจะออกหรอเส้นเลือดจะเเตก . ดิฉันเล่ามาซะยาวเลยคะ...อยากจะถามว่า... มี-@: จากหนังสือ time magazine พบว่าคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก คือพระในพุทธศาสนา :@- หนังสือ time magazine บอกว่าที่อเมริกา มีงานวิจัยพบว่าคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก คือพระในพุทธศาสนา โดยทดสอบด้วยการสแกนสมองพระที่ทำสมาธิและได้ผลลัพธ์ออกมาว่าเป็นจริง หลักความเชื่อของศาสนาพุทธคือ เหตุที่ทำให้เกิดความสุขนั้นก็คืออยู่กับปัจจุบัน ขณะปล่อยวางได้ในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ควบคุมความอยากที่ไม่มีสิ้นสุด ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ทะเลาะ และใช้หลักเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ให้อภัยตัวเองและผู้อื่น มีจิตใจเมตตา กรุณา และเสียสละเพื่อผู้อื่น อริยะสัจ 4 สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและบอกไว้ด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แท้จริงแล้วก็คือทางเดินไปหาคำว่า "ความสุข" เพราะถ้าเมื่อไรเรากำจัด "ความทุกข์" ได้แล้วความสุขก็จะเกิดขึ้น อุปสรรคของความสุขก็คือแรงปรารถนาและตัณหา คนเราจะมีความสุขไม่ขึ้นอยู่กับว่า "มีเท่าไร" แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าเรา "พอเมื่อไร" ความสุขไม่ได้ขึ้นกับจำนวนสิ่งของที่เรามีหรือเราได้... ดังนั้นวิธีจะมีความสุขอันดับแรกต้อง "หยุดให้เป็นและพอใจให้ได้" ถ้าเราไม่หยุดความอยากของเราแล้วละก็ เราก็จะต้องวิ่งไล่ตามหลายสิ่งที่เราอยากได้แล้ว นั่นมันเหนื่อยและความทุกข์ก็จะตามมา... ข้อต่อมาที่ทำให้เราเป็นสุขคือการมองทุกอย่างในแง่บวก ชีวิตแต่ละวันแน่นอนเราต้องเจอทั้งเรื่องดีและไม่ดี ถ้าเราอยากจะมีความสุขเราต้องเริ่มด้วยการมองแต่สิ่งดีๆ มองให้เป็นบวกเพื่อใจเราจะได้เป็นบวก คิดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จแล้วในวันนี้สิ่งดีๆที่เราได้ทำ ข้อต่อมาคือการให้หมายรวมถึงการให้ในรูปแบบสิ่งของหรือเงิน เรียกว่าบริจาคและการให้ความเมตตากรุณาต่อกัน ให้อภัยทั้งตัวเองและคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยทำให้เรามีความสุข.... การปล่อยวางให้ได้ในทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว และที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าเรื่องจะร้ายแรงและเศร้าโศกเพียงใด จำไว้ว่ามันจะโดนเวลาพัดพามันไปจากเราไม่ช้าก็เร็ว เราจะผ่านพ้นไปได้....และยอมรับในความเป็นจริงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราไม่ชอบเพียงใด ไม่ว่าผิดหวัง สูญเสีย เจ็บป่วย ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา ทุกคนต้องได้ผ่านบททดสอบนี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเป็นใคร... ทำตนเองให้สดใส ด้วยการยิ้มให้ตนเอง ทำคนอื่นให้สดใสได้ ด้วยการยิ้มให้เขา การยิ้มไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่สร้างความสดใสได้มาก ทำให้เราเป็นสุขอยู่เสมอ เพราะความสุขมันอยู่ใกล้แค่นี้เอง แค่ที่ใจของเรานี่เอง ยิ้มแย้มอย่างแจ่มใส เห็นใครทักก่อน นี่คือ.. วิธีแสดงเสน่ห์แบบง่ายๆ แต่ให้ผลมาก การให้อภัยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แต่การแก้แค้นลงทุนมาก เขาด่าว่าเราไม่ถึงนาที เขาอาจลืมไปแล้วด้วย แต่เรายังจดจำยังเจ็บใจอยู่... นี่เราฉลาดหรือโง่กันแน่ บ่นแล้วหมดปัญหาก็น่าบ่น บ่นแล้วมีปัญหาไม่รู้จะบ่นหาอะไร เรายังเคยเข้าใจผิดผู้อื่น ถ้าคนอื่นเข้าใจเราผิดบ้าง ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร ทำไมต้องเศร้าหมอง ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอย่างที่ใครเข้าใจ อย่าโกรธฟุ่มเฟือย อย่าโกรธจุกจิก อย่าโกรธไม่เป็นเวลา อย่าโกรธมาก จะเสียสุขภาพกายและสุขภาพจิต แม้จะฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธไม่ได้ แต่ฝึกให้เป็นผู้ไม่โกรธบ่อยได้ ฝึกให้เป็นผู้รู้จักให้อภัยได้ การนินทาว่าร้ายเป็นเรื่องของเขา การให้อภัยเป็นเรื่องของเรา การชอบพูดถึงความดีของเขาคือความดีของเรา การชอบพูดถึงความไม่ดีของเขาคือความไม่ดีของเรา โทษคนอื่นแก้ไขอะไรไม่ได้ โทษตนเองแก้ไขได้ แก้ตัวไม่ได้ช่วยอะไร แต่แก้ไขช่วยให้ดีขึ้น การนอนหลับเป็นการพักกาย การทำสมาธิเป็นการพักใจ คนส่วนใหญ่พักแต่กายไม่ค่อยพักใจ รู้จักทำใจให้รักผู้บังคับบัญชา รู้จักทำใจให้รักลูกน้อง รู้จักทำใจให้รักเพื่อนร่วมงาน สวรรค์ก็อยู่ที่ทำงาน เกลียดผู้บังคับบัญชา เกลียดลูกน้อง เกลียดผู้ร่วมงาน นรกก็อยู่ที่ทำงาน การที่เรายังต้องแสวงหาความสุข แสดงว่าเรายังขาดความสุข แต่ถ้าเรารู้จักทำใจให้เป็นสุขได้เอง ก็ไม่ต้องไปดิ้นรนแสวงหาที่ไหน อ่อนน้อม อ่อนโยน อ่อนหวานนั้นดี.... อ่อนข้อให้เขาบ้างก็ยังดี แต่...อ่อนแอนั้นไม่ดี ในการคบคนศิลปะใดๆ ก็สู้ความจริงใจไม่ได้ จงประหยัดคำติ แต่อย่าตระหนี่คำชม อภัยให้แก่กันในวันนี้ ดีกว่าอโหสิให้กันตอนตาย ถ้าคิดทำความดี ให้ทำได้ทันที ถ้าคิดทำความชั่ว ให้เลิกคิดทันที ถ้าเลิกคิดไม่ได้ ก็อย่าทำวันนี้ ให้พลัดวันไปเรื่อยๆ ถึงจะรู้ร้อยเรื่องพันเรื่อง ก็ไม่สู้รู้เรื่องดับทุกข์ โลกสว่างด้วยแสงไฟ ใจสว่างด้วยแสงธรรม แสงธรรมส่องใจ แสงไฟส่องทาง ผู้สนใจธรรม สู้ผู้รู้ธรรมไม่ได้ ผู้รู้ธรรม สู้ผู้ปฎิบัติธรรมไม่ได้ ผู้ปฎิบัติธรรม สู้ผู้ที่เข้าถึงธรรมไม้ได้ มีทรัพย์มาก ย่อมมีความสะดวกมาก มีธรรมะมาก ย่อมมีความสุขมาก เมื่อก่อนยังไม่มีเรา เราเพิ่งมีมาเมื่อไม่นานมานี้เอง และอีกไม่นานก็จะไม่มีเราอีก จึงควรรีบทำดี ในขณะที่ยังมี...เรา 1.ยังมีเลือดออกอีกรึเปล่าคะ 2.ต้องปฎิบัติตัวยังไงคะ..ในเรื่องของการพักผ่อน..เเละการใช้ชีวิตประจำวันในการทำงานคะ 3.ต้องเข้าไปปรึกษาเเพทย์เจ้าของไข้รึเปล่าคะ 4.ทำไมถึงมีอาการปวดศีรษะเเละเวียนหัวอยู่คะ 5.ต้องรับประทานอาหารชนิดไหนคะ จะได้ช่วยบำรุงสมองให้กลับมาเป็นปกติ 6.จะมีผลระยะยาวไหมคะ ถ้ามี จะรุนเเรงหรือร้ายเเรงมากรึเปล่าคะ รบกวนช่วยกรุณาตอบหน่อยนะคะ...กังวลมากเลยคะ...ขอบคุณคะ....ตอนนี้ตรงที่กระเเทกก้อเริ่มยุบเเล้วคะผ่านมา 1 สัปดาห์เเล้วคะ...เเต่หัวก้อยังบวมๆโนอีกนิดหน่อยบ้าง..เเต่ดีขึ้นมาเยอะเเล้วคะ |
|
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา |
5 พฤษภาคม 2558 16:39:41 #2 สวัสดีครับ ผมอ่านสิ่งที่เล่าและบอกกล่าวผมมานั้น ผมว่าน่าสนใจมากๆ และเป็นประโยชน์ครับ ผมขอตอบคำถามสุขภาพที่ถามมาเป็นข้อๆ นะครับ 1.ยังมีเลือดออกอีกรึเปล่าคะ คำตอบ คือ ภาวะเลือดออกจากการเกิดอุบัติเหตุและได้มีการเอกซเรย์ซำ้แล้ว ไม่พบว่ามีเลือดออกมากขึ้น ถึงตอนนี้สบายใจได้ครับ ว่าไม่มีเลือดออกเพิ่มแล้วครับ 2.ต้องปฎิบัติตัวยังไงคะ..ในเรื่องของการพักผ่อน..เเละการใช้ชีวิตประจำวันในการทำงานคะ คำตอบคือการใช้ชีวิตตามปกติครับ ไม่ต้องกังวลใจ แต่ต้องพักผ่อนให้พอครับ ไม่เครียด ไม่หักโหมกับงาน ที่สำคัญอย่าอดนอนครับ อย่าดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครับ 3.ต้องเข้าไปปรึกษาเเพทย์เจ้าของไข้รึเปล่าคะ คำตอบ ถ้ามีอาการปวดหัวรุนแรงมากขึ้นหรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เพิ่มเติม ผมแนะนำว่าคงต้องพบแพทย์ก่อนนัดครับ แต่ถ้าอาการไม่ได้เป็นรุนแรง ก็รอพบตามนัดได้ครับ 4.ทำไมถึงมีอาการปวดศีรษะเเละเวียนหัวอยู่คะ คำตอบ อาการดังกล่าวเป็นผลจากการที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง จะทำให้มีอาการแบบนี้ได้ครับ อาจเป็นได้นานหลายวัน ต้องพยายามเคลื่อนไหวครับ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นครับ 5.ต้องรับประทานอาหารชนิดไหนคะ จะได้ช่วยบำรุงสมองให้กลับมาเป็นปกติ คำตอบ การทานอาหารทานได้ตามปกติครับ แต่ต้องไม่ให้มีการท้องผูก เพราะการออกแรงเบ่มากๆ ก็ทำให้มีอาการปวดหัวได้ครับ 6.จะมีผลระยะยาวไหมคะ ถ้ามี จะรุนเเรงหรือร้ายเเรงมากรึเปล่าคะ รบกวนช่วยกรุณาตอบหน่อยนะคะ...กังวลมากเลยคะ...ขอบคุณคะ....ตอนนี้ตรงที่กระเเทกก้อเริ่มยุบเเล้วคะผ่านมา 1 สัปดาห์เเล้วคะ...เเต่หัวก้อยังบวมๆโนอีกนิดหน่อยบ้าง..เเต่ดีขึ้นมาเยอะเเล้ คำตอบ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นครับ แต่บางครั้งก็มีผลระยะยาวได้เหมือนกัน คืออาจมีอาการปวดหัวเรื้อรังได้ครับ แต่ก็พบได้ไม่บ่อย โชคดีนะครับ |
Anonymous |
6 พฤษภาคม 2558 08:48:10 #3
ขอบคุณนะคะ...สำหรับคำตอบ....ขอบคุณคุณหมอจริงๆคะ.....อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นทุกวันนะคะ....เเต่ก็ยังมึนๆเวียนๆอยู่คะ...มองภาพรวมก็ดีขึ้นคะ...เเต่เเอบจิตตกกลัวว่าถ้าไปทำงานเยอะๆภายในเร็วๆนี้...ซึ่งโรงเรียนก็ใกล้เปิดเเล้ว...กลัวว่ามันจะปวดหัวขึ้นมาดื้อๆๆคะ...กลัวจริงๆๆ..มันทรมานคะ....ตอนนี้เลยยังไม่อยากทำงานเลยคะ...ขอบคุณคุณหมอสำหรับคำปรึกษาที่ดีนะคะ
|
Anonymous