กระดานสุขภาพ
| เป็นอีสุกอีใสค่ะ | |
|---|---|
|
15 มกราคม 2557 03:28:57 #1 คือหนูเป็นอีสุกอีใสค่ะแล้วที่บ้านให้ทานยาเขียวเพื่อขับให้อีสุกอีใสออกมาให้หมดแล้วหนูกินยาเขียวหมดไป1ห่อ แม่ก็พาหนูไปซื้อยาที่ร้านขายยาแม่บอกคนขายว่าหนูเป็นอีสุกอีใสแล้วคนขายก็แนะนำยาviclovir-400มาคนขายบอกว่ามันเป็นยาต้านไวรัสอ่ะค่ะแล้วหนูก็กินไป1เม็ดเมื่อคืน ทีนี้คนอื่นๆในบ้านบอกว่าต้องกินยาเขียวให้มันขับออกมาให้หมดก่อนไม่งั้นมันจะหลบในพอมาเช้านี้หนูก็กลับมากินยาเขียวอีกคือหนูอยากจะถามว่ายามันจะไปตีกันมั้ยคะแล้วจะส่งผลอะไรกํบร่างกายมั้ยคะ ป.ล.ตอนนี้หนูมีประจำเดือนด้วยคะเพิ่งจะมาได้2วัน |
|
| อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 69 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.72 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
18 มกราคม 2557 09:12:28 #2 เรียน คุณ 5c4bd, คงตอบยากแล้วนะครับ เนื่องจากผ่านเวลามาหลายวันแล้ว ขณะนี้อาจมีผื่นสุกใสเต็มตัวแล้วนะครับ โดยทั่วไป ยาสองตัวนี้มันออกฤทธิ์ต้านกันนะครับ คือ ยาเขียวช่วยกระตุ้นให้ผื่นออกเร็วขึ้น ข้อดีคือ ไข้และอาการแทรกซ้อนจะลดลงเร็วขึ้น ข้อเสียคือ ถ้าเป็นแผลแล้วหายยาก มักเป็นแผลเป็น โอกาสเกิดแผลเป็นทั่วตัว โดยเฉพาะแขน ขา ก็จะเพิ่มขึ้น แต่ถ้าเป็นยาต้านไวรัส acyclovir ที่คุณแจ้งมานั้น ต้องรับประทานยาให้เร็ว คือภายในไม่เกิน 48 ชั่วโมงของการเริ่มมีอาการ เพื่อยับยั้งไม่ให้ไวรัสมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้น จะลดความรุนแรงและอาการแทรกซ้อนอื่น ๆเช่นภาวะติดเชื้อที่ผิวหนัง หรือทางเดินหายใจได้ โดยต้องรับประทานยาให้ครบตามขนาดและครบ 7 วัน เพื่อลดปริมาณเชื้อให้เหลือน้อยที่สุด จนอาการดีขึ้นเอง ยานี้ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ แต่ลดปริมาณจนร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมากำจัดเอง แต่มักไม่หายขาด จะมีเชื้อหลงเหลืออยู่บ้างหลบอยู่บริเวณปมประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ เช่น นอนน้อย อดอาหาร เครียด จะทำให้ภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอลง มักจะมีผื่นลักษณะคล้ายกัน ที่เราเรียกกันว่า งูสวัด ขึ้นตามบริเวณปลายประสาทที่เชื้อไปหลบอยู่ ดังนั้น ข้อแนะนำ ณ ตอนนี้ คือ
ส่วนยา 2 ตัวนี้ไม่มีผลต่อการมีประจำเดือนครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราครับ
|
Anonymous |
18 มกราคม 2557 13:33:14 #3 ขอบคุณมากๆเลยนะคะสำหรับคำตอบ |
Anonymous