กระดานสุขภาพ
รบกวนตอบให้ด้วยนะคะ | |
---|---|
6 พฤศจิกายน 2556 16:21:45 #1 คือหนูอยากทราบว่ายาคุม 28 เม็ด เริ่มทานยังไงหรอคะ แล้วมีวิธีการทานกับผลข้างเคียงอย่างไรคะ? ถ้าทานอย่างถูกต้องถูกวิธีจะมีผลทำให้ท้องหรือป่าวคะ? และหนูอยากทราบว่าถ้าทานยาคุมแบบ 28 เม็ด ควรทานยี่ห้อไหนที่จะคุมกำเนิดได้ปลอดภัยสุดคะ? และมียาสำหนับคุมกำเนิดโดยเฉพาะหรือป่าวคะ? |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.98 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
8 พฤศจิกายน 2556 03:13:05 #2 เรียน คุณ Lovelyone, คำถามง่าย แต่แยกเป็นได้หลายคำตอบนะครับ 1. การรับประทานยาคุมกำเนิด ก่อนจะเริ่มรับประทานควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายเบื้องต้น ว่ามีข้อห้ามใช้ หรือข้อควรระวังอื่นใดหรือไม่ เช่น 2. การคัดเลือกยาคุมกำเนิดที่เหมาะสม แพทย์จะเลือกให้เหมาะกับลักษณะฮอร์โมนเพศที่มีในร่างกายคุณ
3. อาการไม่พึงประสงค์ที่พบบ่อย คือ คลื่นไส้ อาเจียน เลือดประจำเดือนมากะปริบกะปรอย ส่วนมากจะหายได้เอง ประมาณ 1-2 เดือนแรก บวมน้ำ (จากฮอร์โมนเอสโตรเจน) 4. ยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ดที่คุณสอบถามมา ประกอบด้วยยาคุมกำเนิด 21 เม็ด บวกกับเม็ดแป้งหรือวิตามินอีก 7 เม็ด โดย 7 เม็ดที่เหลือทำมาเพื่อความสะดวกในการนับและป้องกันการลืมรับประทานยา เมื่อรับประทานครบ 28 เม็ดแล้ว ก็ให้เริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ได้เลย รอบเดือนคุณก็จะมา 28 วันเท่ากันทุกเดือน ช่วง 7 วันเม็ดแป้งนั้น ไม่ต้องสนใจว่าประจำเดือนจะหมดแล้วหรือไม่ รับประทานต่อไปได้เลยทันที การเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดแผงแรก คือต้องรับประทานยาเม็ดแรก วันแรกที่มีประจำเดือน (หรือไม่เกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน) หลังจากรับประทานยาเม็ดแรกไปแล้ว 1 วัน ข้อมูลจากบริษัทยาแจ้งว่าสามารถออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ แต่เพื่อความแน่ใจอาจใช้ร่วมกับถุงยางอนามัย ให้เกินวันที่ 7 ของการรับประทานยาคุมกำเนิดแผงแรกไปก่อน การรับประทานที่ถูกต้อง คือรับประทานยาคุมกำเนิดส่วนที่เป็นตัวยา ก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียน รับประทานสม่ำเสมอ ในช่วงเวลาเดียวกันทุกคืน คลาดเคลื่อนไม่ควรเกิน 5. การเลือกยี่ห้อก็ต้องแล้วแต่ว่าบริษัทไหนผลิตแบบ 28 เม็ด และเมื่อคุณรับประทานแล้วมีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น คลื่นไส้ อาเจียนมาก เวียนศีรษะมาก จนไม่สามารถไปเรียน หรือไปทำงานได้ หรือว่าเลือดประจำเดือนมากะปริบกะปรอยทั้งเดือน หากเป็นแบบนั้น คงต้องปรับเปลี่ยนยี่ห้อไปจนกว่าจะถูกกับร่างกายของคุณ 6. หากยังไม่แต่งงาน แนะนำให้ใช้ร่วมกับการใช้ถุงยางอนามัย เพือเพิ่มความมั่นใจว่าโอกาสตั้งครรภ์จะน้อยมาก ๆ นอกจากนี้แล้วยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย เช่น เริม ซิฟิลิส หนองใน หรือเอดส์ รวมถึงช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่กระตุ้นการเป็นมะเร็งปากมดลูกอีกด้วย โดยใช้เฉพาะช่วงที่จะมีเพศสัมพันธ์ คุณจะได้ไม่ต้องรับฮอร์โมนปริมาณมาก ๆตั้งแต่อายุน้อยอีกด้วย
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล คุณสามารถศึกษาบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราได้ที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา |
Love*****e