เรียน คุณ 7ad02,

จากแหล่งข้อมูลของรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์

(http://www.abhaiherb.com/knowledge/thaiherb/1994)

มีแพทย์ได้ทดลองทำการศึกษาวิจัยใช้เพชรสังฆาต เพื่อรักษาอาการริดสีดวงทวารหนักในผู้ป่วย 121 ราย ที่มีอาการระยะเริ่มต้น ถึง ปานกลาง พบว่าไม่แตกต่างจาก Flavonoid (Daflon, Flavon) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
พบว่าเพชรสังฆาตมีส่วนประกอบของวิตามินซี และมิวโคโพลีแซคคาไรด์ ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรงคล้ายกับ สารสกัด Flavonoids ใน Daflon, Flavon จึงมีการนำมาใช้ในการรักษาริดสีดวงทวารหนักตั้งแต่สมัยโบราณ

ดังนั้นหากอาการของคุณไม่รุนแรงมาก (ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้นะครับ) สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวในการรักษาริดสีดวงทวารหนักได้ โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาทั้ง 2 รายการให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย จากผลการศึกษาวิจัย พบว่า หากใช้ในการรักษาอาการเช่นเดียวกัน แคปซูลเพชรสังฆาตมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า Daflon อย่างมาก

นอกจากนี้ยังพบว่าเพชรสังฆาตมีคุณสมบัติช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้อีกด้วย ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ของสมุนไพรไทยได้มากกว่า Flavonoids สกัด อีกด้วย อย่าลืมว่าควรปรับพฤติกรรมสุขภาพที่ช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำของริดสีดวงทวารหนักด้วย เช่น การรับประทานผักผลไม้กากใยสูงมาก ๆ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องการย่อยนม แนะนำให้รับประทานโยเกิร์ติ เสริม วันละ 2 ถ้วย จะช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติมากขึ้น

สามารถอ่านบทความดีๆเพิ่มเติมได้ที่

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids or piles)

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์

http://haamor.com/th/ริดสีดวงทวาร/

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ขอบคุณมากคะ