กระดานสุขภาพ
สอบถามเรื่องยา | |
---|---|
28 พฤษภาคม 2562 09:21:22 #1 ไม่ทราบว่ายาที่ชื่อ *** ของบริษัทยา M*** มีตัวยาอยู่ในเม็ดยาบ้างหรือเปล่าครับ ถ้ามี..คือตัวยาตัวไหน ชื่ออะไรหรอครับ หรือในเม็ดยามีแต่วิตามินล้วนๆ ถ้ากินยานี้ต่อเนื่องทุกวันในผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี จะมีผลอย่างไรหรือมีอันตรายกับผู้ป่วยบ้างไหมครับ ยาอีกตัวนึงชื่อ He***a ไม่ทราบว่ายาตัวนี้กินแล้วดีหรือปลอดภัยหรือเปล่าครับ ถ้าผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี กินยานี้กับยา Li*** จะมีผลดีหรือผลเสียอย่างไรบ้างครับ |
|
อายุ: 86 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 73 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.26 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
30 พฤษภาคม 2562 16:37:50 #2 เรียน คุณ 84087
คงตอบได้ยากว่ารับประทานต่อเนื่องไปเป็นเวลานานแล้วจะเกิดอาการพิษหรือไม่ เนื่องจากต้องดูอาการและความรุนแรงของโรค มียาอื่น ๆที่ใช้ร่วมกันหรือไม่ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ จะทราบความเหมาะสมมากกว่านะครับ หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา/ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ สามารถปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรประจำสถานพยาบาลได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจขาดข้อมูลสำคัญที่ใช้ประกอบการพิจารณาแก้ปัญหาด้านยา หรือในบางครั้ง อาจช้าเกินไป ไม่ทันเวลา เสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" หรือการใช้ยาซ้ำซ้อนกัน จนเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
|
Anonymous |
1 มิถุนายน 2562 12:58:42 #3
สอบถามอีกหน่อยได้ไหมครับ ถ้าปัจจุบันผู้ป่วยกินยาอยู่ 2 ตัวคือ *** กับ *** ไม่ทราบว่า สามารถกินยา 2 ตัวนี้ได้หรือไม่ครับ ผู้ป่วยไม่ชอบยา *** เพราะเกรงว่าจะมีผลเสียกับไตในระยะยาว ถ้าไม่อยากกินยา *** ต่อไปอีกแล้ว ไม่ทราบว่ามียาตัวไหนที่ดีกว่านี้ไหมครับ ที่จะไม่เกิดผลเสียต่ออวัยวะอื่นใดของร่างกายในระยะยาว และสามารถลดหรือกำจัดไวรัสในเซลล์ตับได้น่ะครับ
|
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
9 มิถุนายน 2562 03:16:00 #4 เรียน คุณเมทินี เรียน คุณ 84087, แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้หรือเภสัชกรประจำสถานพยาบาลจะได้ข้อมูลที่ตรงกับข้อสงสัยมากที่สุดนะครับ รวมถึงเชื้อไวรัสตอบสนองต่อตัวยาได้ดีหรือไม่ ไม่มียาตัวใดที่ไม่มีผลเสียเลยนะครับ เพียงแต่จะต้องชั่งน้ำหนักว่าประโยชน์ที่ได้รับ กับอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ด้านใดเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยมากกว่ากัน ยกตัวอย่างเช่น พาราเซตามอลที่เป็นยาสามัญประจำบ้าน หากรับประทานยาเกินขนาดหรือติดต่อกันเกิน 5 วัน โดยที่ไม่ได้ไปตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติม ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดพิษต่อตับได้เช่นกัน ส่วนเรื่องยา T... จะส่งผลต่อการทำงานของไตนั้น ดีเสียอีกนะครับ ที่เราทราบว่ายาสามารถก่อให้เกิดผลเสียต่ออวัยวะใดได้ แพทย์จะสามารถเฝ้าระวังและติดตามผลดังกล่าวได้ โดยในช่วงปีแรกอาจต้องมีการตรวจติดตามทุก 4-6 เดือน จากนั้นให้ตรวจติดตามค่าการทำงานของไตอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดอาการไม่พึงประสงค์ต่อไตได้ โดย - การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอระหว่างวัน หมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่อระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะ แสบขัด หรือปัสสาวะไม่ออก หรือออกน้อยลงกว่าปริมาตรที่ได้รับเข้าไป (เช่น ดื่มน้ำไปสองลิตร แต่ปัสสาวะออกน้อยมากระหว่างวัน หรือสีปัสสาวะเปลี่ยนเป็นสีเข้ม หรือน้ำตาล) - ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกันโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากการได้รับยาซ้ำซ้อน (ยาชนิดเดียวกัน แต่คนละยี่ห้อ) หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษานะครับ โดยแจ้งข้อกังวลใจให้ทราบ เพื่อจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุด ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจขาดข้อมูลสำคัญ หรือบางครั้งอาจช้าเกินไป จนไม่ทันเวลา เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เป็นกำลังใจให้นะครับ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Anonymous