ถึง คุณ shrek

ระหว่างรอคำตอบของคุณหมอ ขออนุญาตแนะนำบทความในเว็บไซต์ haamor.com เรื่อง ยาฉีดคุมกำเนิด (Injectable contraceptive) และ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้นะคะ

http://haamor.com/th/ยาเม็ดคุมกำเนิด/

http://haamor.com/th/ยาฉีดคุมกำเนิด/

เรียน คุณ shrek,

ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดชนิดฉีดกับชนิดรับประทาน ไม่แตกต่างกันมากครับ ประมาณ 95-98% แต่มีข้อแตกต่างกันบ้างคือ

1. ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานแบบฮอร์โมนรวม จะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสโตรเจนคล้ายกับในธรรมชาติ
แพทย์สามารถเลือกปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเภทฮอร์โมนของผู้ป่วย

• กรณีมีฮอร์โมนเพศหญิงมาก (เอสโตรเจน) รูปร่างอ้อนแอ้น มีหน้าอกใหญ่ ประจำเดือนมามาก หรือมานาน ไม่ค่อยเป็นสิว กับ
• กรณีที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง รูปร่างสูงใหญ่ หน้าอกไม่ใหญ่มาก ประจำเดือนมักมาน้อย หรือ จำนวนวันน้อย สิวมาก ขนดก

ข้อดี คือ หากรับประทานยาคุมกำเนิด แล้วเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากยา คุณก็สามารถหยุดรับประทานยาได้ทันที หรือ หากมีอาการเล็กน้อยเช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปรับตามมื้ออาหารได้

ข้อเสีย ไม่เหมาะำสำหรับผู้ที่ขี้ลืม เนื่องจากหากลืมรับประทานยา ฤทธิ์ในการระงับการตกไข่ก็จะลดลง โอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

2. ยาคุมชนิดฉีด มีฮอร์โมนชนิดเดียว คือโปรเจสเตอโรน เป็นฮอร์โมนที่หลั่งออกมาเหมือนตั้งครรภ์ ดังนั้นก็จะไม่มีการตกของไข่

ข้อดี คือ สะดวก แวะไปฉีดที่คลินิกหรือโรงพยาบาลเพียงครั้งเดียว ยาออกฤทธิ์ครอบคลุมได้ 3 เดือน โดยไม่มีประจำเดือน แพทย์จึงอาจนำไปใช้รักษาผู้ที่มีอาการปวดประจำเดือนมาก ๆ ประจำเดือนมามากจนโลหิตจาง หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

ข้อเสีย อาจทำให้น้ำหนักเพิ่ม กระตุ้นให้เป็นสิว หรือประจำเดือนไม่มา จึงไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่อ้วน หรือมีปัญหาหลอดเลือดอุดตัน (หัวใจหรือขา) หรือ หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น อ้วน หรือคลื่นไส้ อาเจียนมาก จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เนื่องจากฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว ต้องรอให้ครบ 3 เดือน และยาค่อย ๆถูกร่างกายกำจัดไปเอง

แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายอีกครั้งก่อนคัดเลือกประเภทของยาคุมกำเนิดให้เหมาะสมต่อไปครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล