เรียน คุณ jojo032106,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลปริมาณของส่วนประกอบสำคัญมาด้วย ขอแยกตอบเป็น 2 ประเด็นนะครับ

1. จากข้อมูลที่มีการศึกษา ผู้ป่วยโรคภาวะพร่องเอนไซม์จีซิกส์พีดีนั้น มีหลายรูปแบบ และหลายระดับความรุนแรง ส่วนการแตกของเม็ดเลือดแดงนั้นขึ้นกับหลายปัจจัย ทั้งยา อาหาร หรือสารเคมีที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกได้ง่าย รวมถึงภาวะเจ็บป่วยร่วมด้วย

ในส่วนของอาหารนั้นที่พบได้บ่อยคือถั่วปากอ้าที่มีเอนไซม์ที่ทำให้เม็ดแดงนั้นแตกได้ง่าย แต่ในระยะหลังพบว่าแม้ถั่วลิสงก็อาจทำให้เกิดอาการได้
ดังนั้น ไม่แนะนำให้รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวนะครับ

2. ในส่วนของการลดน้ำหนักนั้น ใช้หลักการต้องรับประทานให้น้อยกว่าการใช้พลังงานนะครับ จึงจะส่งผลให้ร่างกายค่อย ๆลดน้ำหนักลงได้ จึงจะยั่งยืนและไม่เกิดภาวะโยโย่

ในส่วนของที่ให้พลังงานนั้น ก็จะมีส่วนของคาร์โบฮัยเดรต คืออาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล
ส่วนของไขมัน จำพวก ครีม เนย เนยแข็ง น้ำมัน / ส่วนของโปรตีน จำพวกเนื้อสัตว์ หรือโปรตีนจากถั่วเหลือง

- ปรับสัดส่วนของอาหารที่รับประทานให้น้อยลงกว่าเดิม โดยเพิ่มในส่วนของโปรตีนและผักสด ผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด โดยขนาดของจานอาหารควรให้เล็กลง เพื่อให้ไม่รับประทานจนเกินอิ่ม
ใน 1 จาน ควรเป็นผัก 50% เป็นโปรตีน 25 % และส่วนของแป้งและอื่น ๆ 25%

- แบ่งการรรับประทานเป็นมื้อเล็ก ๆวันละ 4-5 มื้อ เพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอตลอดวันและไม่มีการโหยระหว่างวัน สัดส่วนควรเป็น หนัก - (มื้อ)เช้า / เบา - (มื้อ)เที่ยง / เลี่ยง - (มื้อ)เย็น / เว้น - (มื้อ)ดึก

- ในระหว่างวัน หากมีการโหย อาจเคี้ยวผลไม้สดที่มีรสไม่หวานจัด ที่อยู่ท้อง เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล หรือแครอทสด (โดยไม่มีการจิ้มน้ำจิ้มใด ๆ เนื่องจากส่วนประกอบมักเป็นน้ำตาล เกลือ หรือผงชูรส)

- หากเป็นไปได้ ให้ใช้การเดินแทนการขึ้นรถ หรือขึ้นบันไดแทนลิฟต์หรือบันไดเลื่อน

เพื่อเพิ่มการใช้พลังงานระหว่างวัน

นอกจากนี้ควรออกกำลังกาย อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ และวันละอย่างน้อย 30 นาที โดยสลับกันระหว่างการออกกำลังกายแบบแอโรบิค (เช่น วิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ) สลับวันกับการยกเวต

เพื่อเพิ่มปริมาณกล้ามเนื้อ โดยกล้ามเนื้อจะช่วยทั้งการเร่งการใช้พลังงาน และป้องกันไม่ให้ไขมันย้อนกลับมาสะสม

- การนอนหลับพักผ่อน อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง และควรเข้านอนก่อนเวลา 23.00 น. เนื่องจากในช่วงที่ร่างกายหลับสนิท ประมาณเที่ยงคืนถึงตีสอง ต่อมใต้สมองจะมีการหลั่งฮอร์โมน Growth hormone ที่ช่วยในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ยับยั้งไม่ให้คอลลาเจนถูกทำลาย ช่วยในการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท ทำให้ความจำระยะยาวดีขึัน

การนอนดึก หรืออดนอน จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียด ต่อมหมวกไตมีการหลั่งคอร์ติซอลที่เป็นฮอร์โมนเครียด ซึ่งเป็นจำพวกสารสเตียรอยด์ ทำให้มีการสะสมน้ำตาล ไขมัน เกลือ และเร่งการละลายของกระดูกเพื่อให้ได้แคลเซียมมาใช้ในการทำงานของกล้ามเนื้อ ทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันพอกตับ หรือกระดูกบางได้
ทดลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆนะครับ เนื่องจากไม่มีผลการทดลองที่แน่นอน ขึ้นกับแต่ละบุคคล หรือผลที่ได้ก็ไม่ยั่งยืน รวมถึงสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
เป็นกำลังใจให้นะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (G6PD deficiency)

ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง อรุณี เจตศรีสุภาพ
วว.กุมารเวชศาสตร์, อว.โลหิตวิทยา

อาหารลดความอ้วน อาหารควบคุมน้ำหนัก (Diet to loose weight)

พีระพรรณ โพธิ์ทอง
โภชนากร นักกำหนดอาหารวิชาชีพ