เรียน คุณ Poyei,

ยาคุุม Ya... ที่คุณรับประทานอยู่นั้นประกอบด้วยตัวยาเอสโตรเจนปริมาณน้อย เพียงพอที่จะใช้คุมกำเนิดเท่านั้น ส่วนอาการไม่พึงประสงค์ที่จะทำให้บวมน้ำหรืออยากอาหารมากขึ้นนั้นน้อยมาก

ดังนั้นหากคุณควบคุมอาหารได้อย่างเคร่งครัด

• - ปรับสัดส่วนอาหารให้เป็นผักครึ่งหนึี่ง อย่างอื่นครึ่งนึง เน้นผักสด ผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด อาหารจำพวกแป้ง ควรเลือกชนิดไม่ขัดสี เช่นข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ขนมปังมัลติเกรน โปรตีนเลือกที่เป็นชนิดดี ย่อยง่าย ไขมันต่ำ เช่นเนื้อปลา เนื้อไก่ (ไม่เอาหนัง)
• - เลือกวิธีการปรุงอาหารเป็นนึ่ง ต้ม อบมากกว่าทอด หรือปิ้งย่าง
• - ปรับรูปแบบการรับประทานอาหารให้เป็นหลายมื้อ เช่น 4-5 มื้อ และมื้อละน้อยกว่าเดิมประมาณ 25-50 เปอร์เซ็นต์ คือแค่พอให้หายหิว ไม่ถึงกับอิ่มจนจุก
• - อ่านสัดส่วนพลังงานข้างภาชนะบรรจุ (ถ้ามี) โดยหากต้องการลดน้ำหนัก ควรรับประทานอาหารให้น้อยกว่าที่เป็นจริงอย่างน้อย 10-15 % เช่นหากต้องการพลังงานวันละ 1500 กิโลแคลอรี่ ก็ควรรับประทานอาหารเพียงวันละ 1200 กิโลแคลอรี่ ทั้งนี้ขึั้นกับรูปแบบการใช้ชีวิต การทำงาน หากเป็นงานที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ก็อาจต้องการพลังงานน้อยกว่านี้
• - หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบุฟเฟต์ เนื่องจากจะทำให้ควบคุมอาหารได้ยาก เนื่องจากไม่ทราบปริมาณการรับประทานทีแน่นอน
• - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ และวันละอย่างน้อย 30 นาที โดยควรเป็นแบบแอโรบิก เช่น ว่ิง ว่ายน้ำ เล่นแบดมินตัน บาสเกตบอล ร่วมกับการยกเวต เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
• ซึ่งกล้ามเนื้อจะเป็นตัวดึงเอาไขมันออกมาใช้พลังงาน ดังนั้น น้ำหนักอาจลดลงไม่มาก แต่รูปร่างจะดูกระชับขึ้น ไม่ย้วย ไม่ย้อย
• - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง และไม่ควรเข้านอนดึกเกินกว่า 23.00 น. เนื่องจากช่วงเวลา 00.00-02.00 น. จะเป็นช่วงที่ต่อมใต้สมองหลั่ง Growth Hormone ที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ลดการทำลายของคอลลาเจนและอีลาสติน ลดการทำลายของเซลล์ประสาทในสมอง
• การนอนดึกหรืออดนอน อดอาหาร จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียด มีการหลั่ง คอร์ติซอล ออกมาจากต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นสารจำพวกเดียวกับสเตียรอยด์ ที่ทำให้เกิดภาวะบวมน้ำ เบาหวาน เก็บกักไขมัน ภาวะกระดูกพรุน คอลลาเจนถูกทำลายและลดความยืดหยุ่นของเซลล์ผวิหนัง และคอร์ติซอลยังเร่งการประสานของเซลล์ประสาท ทำให้เกิดภาวะมึนงง ไม่สดชื่น ความจำไม่ค่อยดีอีกด้วย

หากปฏิบัติตามหลักสุขภาวะตามนี้แล้ว 3-4 เดือน น้ำหนักยังไม่ลดลง หรือเพิ่มขึ้นอีก แนะนำให้ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป อาจเกิดจากความผิดปกติของระบบฮอร์โมนภายในร่างกาย เช่น ต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ ต่อมธัยรอยด์ทำงานน้อยกว่าเดิม เป็นต้น

เป็นกำลังใจให้นะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)

แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา

สูตินรีแพทย์

ยาสมิน (Yasmin)

เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร