ยาคุมกำเนิดประสิทธิภาพไม่แตกต่างกันครับ แต่ว่ามีความแตกต่างกันบางประการครับ

1. ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานจะมีฮอร์โมนคล้ายธรรมชาติ สามารถปรับให้เข้ากับแต่ละคนได้ ทั้งประเภทที่มีฮอร์โมนเพศหญิงมาก (เอสโตรเจน) รูปร่างแบบเพศหญิง มีหน้าอกใหญ่ ประจำเดือนมามาก หรือมานาน ไม่ค่อยเป็นสิว หรือประเภทที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง หน้าอกน้อย ประจำเดือนมาน้อย หรือ จำนวนวันน้อย สิวมาก ขนดก
   • หากกินแล้วมีอาการไม่พึงประสงค์ สามารถหยุดรับประทานยาได้ทันที หรือปรับตามมื้ออาหารได้
   • ข้อเสีย ห้ามลืมรับประทานยา มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

 

2. ยาคุมชนิดฉีด มีฮอร์โมนชนิดเดียว คือโปรเจสเตอโรน ทำให้ร่างกายมีสภาพคล้ายกับขณะตั้งครรภ์ ไม่สามารถปรับให้เข้ากับผู้ป่วยแต่ละรายได้
   • ข้อดี สะดวก ฉีดเพียงครั้งเดียว สามารถออกฤทธิ์ได้ 3 เดือน โดยไม่มีประจำเดือน สามารถใช้รักษาภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้ด้วย
   • ข้อเสีย หากเกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น อ้วน หรือคลื่นไส้ อาเจียนมาก จะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เนื่องจากฉีดเข้าสู่ร่างกายแล้ว ต้องรอให้ครบ 3 เดือนและฤทธิ์ยาหมดไปเอง

ขึ้นกับความสะดวกของคุณครับ ลองปรึกษาคุณหมอดูอีกครั้งก่อนตัดสินใจครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ยาฉีดคุมกำเนิด

มีข้อดีคือ คุมกำเนิดได้นาน ฉีดยาทุก 3 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดนานหลายเดือนหรือเป็นปี และไม่ต้องการรับประทานยาทุกวัน นอกจากนี้ยังใช้รักษาอาการปวดประจำเดือน ประจำเดือนมามาก โรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่

แต่มีข้อเสียคือ อาจทำให้เกิดอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยทางช่องคลอดในช่วง 2-3 เข็มแรกที่เริ่มฉีดยา บางรายไม่มีประจำเดือนมาในระหว่างที่คุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ นอกจากนี้ยังอาจมีปัญหาเริ่มน้ำหนักตัวเพิ่ม บวมน้ำ สิว ผิวมัน ขนดก ยาฉีดคุมกำเนิดมีข้อห้ามในรายที่สงสัยหรือกำลังตั้งครรภ์ มีปัญหาเรื่องเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุอยู่ก่อน โรคกระดูกพรุน โรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง โรคอ้วน โรคเลือดออกง่ายและหยุดยาก หลังหยุดฉีดยาอาจมีปัญหาเรื่องไข่ตกช้าและประจำเดือนมาช้า

ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม

ข้อดีคือ มีประโยชน์ในแง่การควบคุมรอบประจำเดือนให้สม่ำเสมอ ลดอาการปวดประจำเดือน ลดปริมาณประจำเดือน ยาเม็ดคุมกำเนิดบางยี่ห้อสามารถลดเรื่องสิว ผิวมัน ขนดก หรือกลุ่มอาการก่อนเป็นประจำเดือน เช่น อาการหงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า เมื่อใช้ในระยะยาวสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งรังไข่ มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หลังหยุดรับประทานยามักจะมีไข่ตกได้เร็ว

มีข้อเสียคือ ต้องรับประทานยาทุกวัน หากลืมรับประทานจะทำให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดลดลง มีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ ไม่ควรใช้ในรายที่น้ำหนักตัวเกิน เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตันจึงไม่ควรใช้ในรายที่อายุมากกว่า 35 ปีที่สูบบุหรี่ ห้ามใช้ในโรคตับ ผู้ที่มีข้อห้ามใช้ฮอร์โมน

หลักการเลือกใช้การคุมกำเนิดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ เช่น อายุ น้ำหนักตัว โรคประจำตัว การแพ้ยา และขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ต้องการคุมกำเนิด และการวางแผนการมีบุตร ส่วนข้อดี ข้อเสีย และข้อห้ามใช้ยาสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ในบทความสุขภาพของเว็บไซด์ และควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และเลือกการคุมกำเนิดที่เหมาะสมค่ะ