เพิ่มเติมค่ะ กินตรงเวลาทุกเดือน 2 ทุ่มค่ะ + - ไม่เกิน50นาที

เรียน คุณ Chanyanuch,

เนื่องจากคุณไม่ได้แจ้งวัตถุประสงค์ในการรับประทานยาคุมกำเนิดมา ว่าเพื่อการคุมกำเนิด หรือเพื่อการรักษาโรค หรือเพื่อการเสริมสวยตามที่โฆษณาแฝงในอินเตอร์เน็ต ขอตอบพอสังเขปนะครับ
1. กรณีเช่นนี้แสดงว่าฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่เพียงพอ จึงทำให้มีเยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาดก่อนกำหนด
โดยส่วนใหญ่อาการจะค่อย ๆดีขึ้นเองภายใน 2-3 เดือน
หากอาการไม่ดีขึ้น รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ทางการแพทย์จะแนะนำให้ปรับเปลี่ยนเป็นชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนขนาดสูงขึ้น แต่ก็อาจส่งผลให้มีอาการไม่พึงประสงค์เพิ่มขึ้นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด หรือบวมน้ำเพิ่มขึ้น (หลีกเลี่ยงโดยการเลียงอาหารเค็มหรือมีโซเดียมมาก ซึ่งเกลือโซเดียมจะเป็นตัวทำให้ร่างกายมีการสะสมน้ำ ลดการขับถ่ายออกทางปัสสาวะ)
2. ไม่เข้าใจข้อมูลนะครับ แสดงว่าประจำเดือนไม่ได้มาทุกเดือนใช่ไหมครับ
แสดงว่ารอบเดือนอาจจะนานกว่านั้น ทำให้เหมือนมีประจำเดือนมาก่อนกำหนด
3. หากไม่ได้รบกวนชีวิตประจำวัน หรือไม่ได้ทำให้เกิดภาวะซีดจากการเสียเลือด ก็ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนยาคุมกำเนิดครับ
เพิ่มเติม - จากข้อมูลส่วนบุคคล ดัชนีมวลกายยังอยู่ในเกณฑ์นะครับ ค่อนข้างไปทางน้อยด้วยซ้ำ ที่รู้สึกว่าอวบ อาจเป็นความรู้สึกของคุณเอง หรือเป็นจากที่คุณรับประทานอาหารที่ไม่ครบ 5 หมู่ ขาดการออกกำลังกาย เพื่อให้มีกล้ามเนื้อแทนที่ไขมัน ซึ่งแม้จะน้ำหนักมากกว่านี้ จะรู้สึกเพรียวขึ้น เนื่องจากความเฟิร์มกระชับ
4. การจะใช้เป็นยาเลือนประจำเดือน อาจได้ผลไม่แน่นอนสำหรับคุณ โดยเฉพาะช่วงรอยต่อระหว่างแผง เนื่องจากปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อนข้างน้อยสำหรับตัวคุณ แต่ก็ไม่แนะนำให้รับประทานยาเลื่อนประจำเดือน ควบคู่ไปด้วย เนื่องจากจะทำให้ประสิทธิภาพในการออกฤทะิ์ของยาคุมกำเนิดเปลี่ยนแปลงไป รอบประจำเดอืนอาจแปรปรวน จนอาจมาเร็วหรือช้ากว่ากำหนด
อาจพิจารณาใช้ โดยการรับประทานยาคุมกำเนิดนี้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีการหยุดยา 7 วัน

เพิ่มเติม หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที เนื่องจากอาจต้องมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ในช่วงที่เกิดอาการเลือดกะปริบกะปรอยมาก่อนกำหนด คุณได้มีการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอืนใดร่วมด้วยหรือไม่ หรือการรับประทานยาพร้อมกับเครื่องดื่มอื่น ๆที่ไม่ใช่น้ำเปล่าสะอาด ทำให้การดูดซึมยาเปลี่ยนแปลงไป (การรับประทานยาร่วมกับเครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้การดูดซึมยาเกือบทุกชนิดลดน้อยลง เช่น กาแฟ ชา (รวมถึงชาเขียว) โกโก้ นม โยเกิร์ต น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โซดา หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะกระตุ้นให้ตับมีการสร้างเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้ในการกำจัดยาเพิ่มมากขึ้น จึงกำจัดยาได้มากและเร็วขึ้น)
หรือยาปฏิชีวนะ ก็จะเร่งการกำจัดยาคุมได้เร็วขึ้น ลดการดูดกล้ับ จึงท่ำให้ระดับยาในเลือดลดต่ำลงได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่
ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์