กระดานสุขภาพ

อาหารเสริมลดไมเกรน
Rosa*****e

4 ธันวาคม 2558 09:22:09 #1

สวัสดีค่ะ 

หนูเป็นไมเกรนบ่อยมาก อาจเกิดจากความเครียดเพราะต้องจำอะไรเยอะ (เรียนนิติค่ะ) เวลาเป็นไมเกรนจะมีอาการปวดหัวตึบๆ คลื้นไส้ อ้วก ทรมานมากเลย จนต้องทานยา Ibuprofen 600 และยา Cafergot บ่อยเหมือนเป็นขนมเลยค่ะ

หนูไปเจอยาที่มีส่วนผสมของแมกนิเซียมมีสรรพคุณลดการปวดไมเกรนได้ อยากให้คุณหมอแนะนำว่าควรจะซื้อมาทานหรือไม่ มันมีผลข้างเคียงหรือผลเสียอย่างไร และถ้าหนูจะซื้อมาทานควรทานยี่ห้อ หรืออาหารเสริมอะไรที่ดีต่อระบบประสาทและสมองคะ

ขอบคุณมากๆนะคะ

 

อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.70 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

19 ธันวาคม 2558 12:44:05 #2

เรียน คุณ Rosaceae,

ขอแยกตอบเป็น 2 ประเด็นนะครับ

1. กรณีเป็นไมเกรนบ่อย ๆ นอกจากการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเกิดไมเกรน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อเนื้อสมองอย่างถาวร ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เนื่องจากในบางรายอาจอาการปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์ ซึ่งหากไม่ได้ตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจแยกได้ยากจากไมเกรน การรักษาจึงแตกต่างกัน

2. แมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุจำเป็นต่อร่างกาย แต่มีความจำเป็นในการใช้เพียงปริมาณเพียงเล็กน้อยต่อวัน สามารถได้รับจากการรับประทานอาหารตามปกติ ซึ่งส่วนใหญ่จะได้จากประเภทธัญพืชจำพวกถั่ว ผักสด ผลไม้ต่าง ๆ รวมถึงเนื้อสัตว์ ส่วนใหญ่จะได้รับครบถ้วนจากอาหารที่รับประทานประจำวันแล้ว คุณสมบัติที่นำมาใช้คือช่วยในการสงบ ระงับความเครียด แต่หากคุณยังคงต้องมีเรื่องเครียด ทั้งเรื่องงาน เรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว การนอนดึก อดอาหาร การได้รับสารกระตุ้นประสาทจำพวกคาเฟอีน (ชา ชาเขียว กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม) ก็จะกระตุั้นให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นได้อีก
อาการไม่พึงประสงค์หากได้รับแมกนีเซียมเกิน ได้แก่ อ่อนเพลีย คลืนไส้ อาเจียน ความดันโลหิตลดต่ำลง หัวใจเต้นช้าหรือเร็วผิดปกติ หายใจลำบาก การทำงานของไตลดลง

แนะนำเพิ่มเติมเรื่องตัวยาเออร์โกตามีน ที่คุณซื้อมารับประทานบ่อย ๆนั้นมีข้อจำกัดในการใช้ คือไม่ควรเกิน 6 เม็ดต่อวัน หรือ 10 เม็ดต่อสัปดาห์ เนื่องจากยานี้มีคุณสมบัติทำให้หลอดเลือดในสมองหดตัว ช่วยบรรเทาอาการปวดจากไมเกรนได้ แต่หากใช้บ่อย ๆหรือมากกว่าที่แนะนำ หรือใช้ร่วมกับยาหลายชนิดโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร จะทำให้หลอดเลือดส่วนปลายตามแขนและขาเกิดการหดตัว จนทำให้เกิดอาการมือเท้าชา เย็น ซีด ในบางรายอาจเกิดภาวะหลอดเลือดหดตัวถาวร จนทำให้เกิดเนื้อตายได้ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นที่เท้า สังเกตได้จากเริ่มมีสีเข้ม ม่วงหรือเขียว จากนั้นหากเป็นมากขึ้น จะเป็นเนื้อตายสีดำ ซึ่งไม่มีทางรักษาได้ ต้องผ่าตัดอวัยวะที่เกิดเนื้อตายสถานเดียว

นอกจากนี้กล้ามเนื้อหลอดเลือดยังเป็นชนิดเดียวกับที่กล้ามเนื้อมดลูก จึงทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย เลือดประจำเดือนกะปริบกะปรอย หากเป็นช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดการแท้งหรือทารกพิการได้ จึงควรใช้ยานี้เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น ไม่ควรใช้ยาพร่ำเพรื่อ นอกจากอาจเกิดอันตรายตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อยา ที่พบคือเมื่อรับประทานยานี้ไปแล้ว อาการปวดศีรษะอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มต้นการใช้ยาทุกครั้ง เนื่องจากการใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือใช้ยา/สมุนไพร/ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารร่วมกัน อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน หรือที่เรียกง่าย ๆว่า "ยาตีกัน" จนอาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ไมเกรน (Migraine) แพทย์หญิง สลิล ศิริอุดมภาส วว. พยาธิวิทยากายวิภาค

โรคปวดศีรษะคลัสเตอร์ (Cluster Headache) รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า อายุรแพทย์ประสาทวิทยา ยาเออร์โกตามีน (Ergotamine) เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิต

แมกนีเซียม (Magnesium) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ 

ไมเกรนอาจก่อโรคร้าย (ตอนที่ 1) โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล