กระดานสุขภาพ
โรคไวรัสตับอักเสบบี | |
---|---|
30 กันยายน 2558 03:31:34 #1 เรียน คุณหมอค่ะ ขอสอบถาเกี่ยวกับ โรคไวรัสตับอักเสบบี ดังนี้ค่ะ 1. โรคนี้เป็นแล้วรักษาหายได้ไหมค่ะ ตอนนี้กำลังรักษาอยู่ค่ะ (คุณหมอให้กินยา Tenofovir GPO 300 กินวันละ 1 เม็ดพร้อมอาหาร) 2. หลังจากกินยานี้แล้ว อยากทราบว่าจะมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาหรือป่าวค่ะ 3. ยา Tenofovir GPO 300 ตัวนี้สามารถกินคู่กับยา กาวิสคอน และยา MIRACID ได้หรือไม่ค่ะ (เป็นโรคกระเพาะอยู่ค่ะ 4. ยา กาวิสคอน และยา MIRACID ยา 2 ตัวนี้ไม่ได้กินทุกวันจะกินต่อเมื่อมีอาการเท่านั้นค่ะ ยา กาวิสคอนจะกินก็ต่อเมื่อมีอาการแสบร้อนกลางอก แน่นท้อง ส่วน MIRACID จะกินก็เมื่อมีอาการปวดท้องโรคกระเพาะค่ะ 5. โรคไวรัสตับอักเสบบี หมายถึง แค่เรามีเชื้อไวรัสเท่านั้นใช่หรือไม่ค่ะ (ไม่ได้หมายความว่าตับเราอักเสบและก็ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นโรคตับใช่หรือไม่ ไม่ทราบจริงค่ะ)
รบกวนด้วยค่ะ
|
|
อายุ: 46 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
2 ตุลาคม 2558 15:21:56 #2 ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆนะครับ 1. คำถามนี้ตอบได้ยากนะครับ เนื่องจากต้องขึ้นกับภาวะของโรค ปริมาณเชื้อที่มีอยู่ในร่างกาย และผลการตรวจเชื้อว่ามี Antigen (สารที่กระตุ้นให้เกิดโรคแบบใด) คุณหมอที่ทำการรักษาคุณจะตอบได้ดีที่สุด ส่วนตัวยาที่คุณกำลังรับประทานอยู่เป็นยาต้านไวรัส มีหน้าที่ "ยับยั้ง" ไม่ให้เชื้อมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้กำจัดออกจากร่างกายต้องอาศัยภูมิต้านทานของร่างกายในการกำจัดเชื้อไวรัสออกไปเอง จึงขึ้นกับสายพันธุ์และจำนวนเชื้อที่มีอยู่ในร่างกาย 2. ถ้าร่างกายกำจัดเชื้อออกไปได้หมด คุณก็จะไม่เป็นพาหะ และจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบ บีครับ 3. ไม่แนะนำให้รับประทานยาต้านไวรัสนี้พร้อมกับยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆครับ เนื่องจากอาจส่งผลต่อการละลายและการดูดซึมได้ 4. M... เป็นตัวยา omeprazole เป็นยาลดการสร้างกรดส่วนเกินในกระเพาะอาหาร แนะนำว่าหากมีความจำเป็นต้องรับประทานยาอย่างถูกต้องและต่อเนื่อง โดยผ่านการตรวจรักษาจากแพทย์ ไม่ใช่ยาลดกรดชนิดน้ำทั่ว ๆไปที่รับประทานเมื่อมีอาการเท่านั้น ส่วนตัวยา G... ประกอบด้วยตัวยา sodium alginate ที่เป็นอนุพันธ์คล้าย ๆกับที่มีอยู่ในสาหร่ายทะเล มีคุณสมบัติทำให้เกิดชั้นโฟมลอยอยู่เหนือหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหาร จึงช่วยป้องกันภาวะกรดไหลย้อน ต้องรับประทานยา G.. นี้หลังจากอาหาร เครื่องดื่ม และยาทั้งหมด และภายหลังรับประทานยานี้แล้วไม่ควรรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มใด ๆ 1 ชั่วโมง มิฉะนั้นจะทำให้ชั้นโฟมแตกกระจายออก ตัวยาจะมีประสิทธิภาพลดลง 5. โรคนี้นอกจากมีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกายแล้ว เชื้อยังมีการฝังตัวอยู่ที่ตับ ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ ค่าเอนไซม์(น้ำย่อย)ในตับเพิ่มขึ้น หากร่างกายกำจัดไวรัสได้หมด ค่าต่าง ๆก็จะกลับมาใกล้เคียงกับปกติ แต่เนื้อตับอาจมีการถูกทำลายไปบ้าง หากยังเป็นพาหะอยู่ก็อาจมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้อีก สรุปสอบถามจากแพทย์ที่ทำการปรึกษาคุณจะดีที่สุดครับ เพราะทราบข้อมูลทั้งหมดครับ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ |
Nuca*****t