กระดานสุขภาพ
ทานยาคุมยังไม่หมดแผงแต่ประจำเดือนมาค่ะ | |
---|---|
12 กรกฎาคม 2558 02:37:34 #1 ทานยาคุม 28 เม็ดคะ แต่ประจำเดือนมาเม็ดที่ 20 ค่ะ ปกติทานยาคุมตรงเวลาหรือบวกลบไม่เกิน 30 นาที ไม่เคยลืมและหลั่งข้างในตลอด คำถามคือต้องกินยาต่อมั้ยคะ |
|
อายุ: 33 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
14 กรกฎาคม 2558 05:07:36 #2 เรียน คุณ 4ef8b, เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ชื่อยี่ห้อของยาคุมกำเนิดที่รับประทานมา ขอแยกเป็น 2 ประเด็น คือ - หากเป็นยาคุม 1-2 แผงแรก สามารถเกิดอาการเช่นนี้ได้ เนื่องจากร่างกายอยู่ระหว่างการปรับตัวให้เข้ากับฮอร์โมนเพศ จากนั้นอาการดังกล่าวจะค่อย ๆดีขึ้นเอง กรณีที่ผ่านไปแล้ว 1-2 แผง อาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากบางยี่ห้อปริมาณฮอร์โมนเพศจะน้อยไป ไม่เหมาะสมกับรูปร่างและรูปแบบของการมีประจำเดือนของคุณ เนื่องจากหากมีไขมันในช่องท้องมาก ฮอร์โมนเพศจะถูกดูดซับ ทำให้เหลือปริมาณน้อยที่จะคงให้เยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ได้ตลอดเวลาที่รับประทานยาคุมกำเนิด - หากเป็นแผงที่มากกว่านั้นแล้ว เกิดอาการเช่นนี้ สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นร่วมด้วย จึงทำให้ระดับฮอร์โมนเพศลดระดับลงก่อนยาหมดเม็ดวันที่ 21 (ส่วนใหญ่จะเป็นตัวยา 21 เม็ด + เม็ดแป้ง/วิตามิน อีก 7 เม็ด มีบางยี่ห้อที่เป็น 22+6 หรือ 24+4 เม็ด) ดังนั้นไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมารับประทานร่วมกัน โดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน หรือที่เรียกกันว่า "ยาตีกัน" จนทำให้ระดับยาคุมกำเนิดลดระดับลง ทำให้เกิดอาการเลือดออกกะปริบกะปรอย หรือเลือดออกก่อนกำหนด เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ หรือในบางรายพบว่าทำให้ยาที่รับประทานเพื่อการรักษามีความแรงมากขึ้นจนทำให้ถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ สรุป คือ รับประทานยาต่อไปตามปกติ เนื่องจากเลยช่วงเวลาที่จะมีไข่ตกและใกล้หมดเม็ดที่เป็นตัวยาแล้ว ให้รับประทานต่อเนื่องไปจนหมดแผง แต่หากเริ่มต้นแผงใหม่ไปแล้ว 7-10 วัน ยังคงมีเลือดกะปริบกะปรอยหรือมีเลือดประจำเดือนต่อ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ขอแนะนำเพิ่มเติม คือ ให้รับประทานยา "ทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาด เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิด อาจทำให้ตัวยาตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมตัวยาได้ เช่น ชา (รวมถึงชาเขียว) กาแฟ โกโก้ นม โยเกิร์ต น้ำเต้าหู้ น้ำอัดลม โซดา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯ หรือเครื่องดื่มบางชนิดจะกระตุ้นให้ตับที่เป็นแหล่งในการกำจัดยาหรือสารพิษ มีการสร้างเอนไซม์หรือน้ำย่อยเพิ่มขึ้น จึงทำให้ร่างกายกำจัดยาออกไปได้มากและเร็วขึ้น เช่น น้ำส้มคั้น น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี่ น้ำเกรปฟรุต ฯ หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที เพื่อการแก้ไขที่ทันเวลา ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งอาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายจากการใช้ยาไม่ถูกต้องได้ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์ |
Anni*****e |
20 กรกฎาคม 2558 03:31:09 #3
ขอบคุณคุณเภสัชมากนะคะที่ให้คำแนะนำ ยาคุมที่รับประทานปัจจุบันและมีอาการเลือดมาก่อนทานยาหมดคือ มินิดอสค่ะ รับประทานมาได้แผงนี้เป็นแผงที่4แล้วค่ะ จุดสังเกตุได้ว่าฮอโมนจะลดต่ำลงไม่ทราบว่าความเครียดหรือวิตกกังวลทำให้ฮอโมนลดต่ำลงรึเปล่า เพราะช่วงที่จะทารยาหมดนั้นมีอาการเครียดและวิตกกังวลค้ะ ดิฉันได้ทำการสอบถามที่ร้านขายยาเค้าก็บอกว่าให้ทานยาจนหมดแล้วเริ่มใหท่ได้เลย ทานยาเม็ดสุดท้าย เม็ดที่28 หมเวันนี้แล้วค่ะ อาการที่มีเลือดออกมาหยุดไป2-3 วันแล้ว แต่มันไม่มาแค่เปื้อนกางเกงในเฉยๆค่ะ ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ
|
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
25 กรกฎาคม 2558 13:39:35 #4 เรียน คุณ 4ef8b, จากข้อมูลที่คุณให้มานั้น ตัวยาที่รับประทานนั้นมีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อนข้างต่ำ (ethinylestradiol 15 MCG (ไมโครกรัม)) ทำให้อาจเกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย หรือเลือดประจำเดือนมาก่อนกำหนดได้ หากยังคงมีอาการเช่นเดิมอีกในแผงต่อ ๆไป แนะนำว่าควรปรับเป็นยาคุมกำเนิดที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น เป็น 20 MCG เพื่อให้เยื่อบุผนังมดลูกมีความหนาตัวเพิ่มขึ้น และไม่ฉีกขาดก่อนกำหนด เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Anonymous