กระดานสุขภาพ
สอบถามเรื่องยาคุมหน่อยครับ | |
---|---|
4 กรกฎาคม 2558 15:37:58 #1 คือปกติแล้วแฟนผมจะชอบทานยาคุมวันที่ 4 ของประจำเดือนมาครับ แต่รอบนี้แฟนผมทานวันที่ 5 ของประจำเดือน แต่ประจำเดือนแฟนผมหมดวันที่ 4 แล้วแฟนผมทานวันที่ 5 โดยวันนั้นไม่มีประจำเดือนอยากทราบว่ายาคุมจะยังมีผลอยู่รึล่าวครับ |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 73 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.81 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
8 กรกฎาคม 2558 15:08:12 #2 เรียน คุณ 92cac, เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลชื่อยาคุมกำเนิดของแฟนคุณมา ขอแนะนำรวม ๆดังนี้นะครับ คือ 1. หากเป็นชนิด 21 เม็ด เมื่อรับประทานยาคุมฯหมดแผงแล้ว ให้เว้นยา 7 วัน ก่อนเริ่มต้นแผงใหม่ โดยในช่วง 7 วันที่หยุดยานั้น จะไม่มีไข่ตก และเป็นช่วงที่มีประจำเดือน ซึ่งอาจมาปริมาณมากหรือน้อย จำนวนวันมากหรือน้อย เมื่อเว้นยาครบ 7 วันแล้ว ให้เริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้ทันที โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าประจำเดือนจะหยุดแล้ว หรือยังไม่หยุด เช่น เมื่อรับประทานยาคุมฯหมดในคืนวันที่ 1 ก.ค. 2558 เมื่อเว้นยา 7 วัน (2-3-4-5-6-7-8) จะต้องเริ่มรับประทานยาในคืนวันที่ 9 ก.ค. 2558 ครับ หรือหากไม่สะดวกในการนับ ให้กากะบาทไว้บนปฏิทินเพื่อเป็นการช่วยจำก็ได้ครับ 2. หากเป็นชนิด 21 เม็ด + เม็ดแป้ง (วิตามิน) อีก 7 เม็ด หรือ ชนิด 24 เม็ด + เม็ดแป้ง 4 เม็ด เมื่อรับประทานในส่วนของเม็ดยาหมดแล้ว ให้รับประทานยาส่วนที่เป็นเม็ดแป้งต่อไป ทางบริษัทยาได้จัดเสริมมาให้เพื่อเป็นการช่วยจำ โดยที่ไม่ต้องมีการเว้นยา ช่วงที่รับประทานเม็ดแป้งนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะมีไข่ตกนะครับ เนื่องจากเป็นช่วงที่มีรอบประจำเดือนมาตามธรรมชาติ ส่วนของแฟนคุณ จะรับประทานเหมือนเดิมก็ได้ครับ แต่ห้ามเว้นยาเกิน 7 วัน เนื่องจากจะเสี่ยงต่อการมีไข่ตก หรือหากคุณยังไม่ได้แต่งงาน แนะนำให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยจะดีกว่าครับ นอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน พยาธิในช่องคลอด เริม ตับอักเสบ ชนิดบี/ซี หรือโชคร้ายสุด คือ เอชไอวี ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง หรือหูดหงอนไก่ มะเร็งองคชาติในเพศชาย และแฟนคุณไม่จำเป็นต้องได้รับยาคุมกำเนิดติดต่อกันนาน ขอแนะนำเพิ่มเติมนะครับ การรับประทานยาคุมกำเนิดที่ถูกต้อง คือ -รับประทานยาในช่วงเวลากลางคืน เพื่อให้เป็นช่วงที่ฮอร์โมนเพศมีการหลั่งออกมาใกล้เคียงธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วงป้องกันอาการคลื่นไส้ อาเจียนจากการรับประทานยา และไม่ต้องกังวลในการพกยาออกไปรับประทานยานอกบ้าน - รับประทาน "ยาทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดจะทำให้ตัวยาตกตะกอน เช่น ชา ชาเขียว กาแฟ โกโก้ นม โยเกิร์ต น้ำเต้าหู้ โซดา น้ำอัดลมฯ ร่างกายจึงไม่สามารถดูดซึมตัวยาได้ หรือน้ำผลไม้บางชนิด จะกระตุ้นให้ตับสร้างเอนไซม์หรือน้ำย่อย ทำให้กำจัดตัวยาได้มากและเร็วขึ้น เช่น น้ำส้มคั้น น้ำแอปเปิ้ล น้ำเกรปฟรุต น้ำแครนเบอร์รี เป็นต้น - รับประทานยาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คลาดเคลื่อนไม่เกิน +/- 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับยาในเลือดสมำ่เสมอตลอดวัน ป้องกันการเกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย เนื่องจากระดับยาในเลือดสูงบ้างต่ำบ้าง - ไม่ควรลืมรับประทานยา เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ และทำให้เกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ - ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน "ยาตีกัน" จนทำให้ระดับยาคุมฯลดระดับลง เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือยาที่ใช้รักษาไม่ได้ผล จนไม่ได้รับผลการรักษา เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งอาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์ |
Anonymous