กระดานสุขภาพ

ยาแก้เบาจืด
Wani*****a

31 มีนาคม 2558 20:41:59 #1

อยากทราบว่าถ้าเป็นเบาจืดโดยหาสาเหตุไม่พบแล้วตอนนี้หมอให้กิน ** เพื่อไม่ให้ปัสวะบ่อย  ตอนนี้กินวันละ 3 เม็ด  เช้า เย็น และก่อนนอน  ไม่ทราบว่าถ้ากินยานี้เป็นเวลานาน จะมีผลอะไรต่อร่างกายไหมคะ

อายุ: 41 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

1 เมษายน 2558 16:42:36 #2

ถึง คุณ wanica

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ wanica ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

Wani*****a

2 เมษายน 2558 23:31:44 #3

ขอบคุณมากคะ ขอโทษด้วยคะที่ต้องบอกชื่อยา  รอคำตอบจากคุณหมอนะคะ แบบว่ากังวลใจคะกลัวว่าจะมีผลข้างเคียงคะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 เมษายน 2558 16:05:28 #4

Dear Khun wanica,

ยาที่คุณสอบถามมานั้นเป็นสารสังเคราะห์ที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนจากต่อมใต้สมอง ที่ออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้ร่างกายมีการขับน้ำออกทางไตมากเกิน ยานี้มีการกำจัดที่ทางเดินอาหารเป็นส่วนใหญ่ มีค่าครึ่งชีวิตประมาณ 75 นาที ดังนั้นจึงต้องมีการรับประทานวันละหลายครั้ง

ดังนั้นยานี้ไม่มีการสะสมในร่างกาย ส่วนของคุณถ้าไม่มีการรักษาจะทำให้เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ เนื่องจากภาวะน้ำมากเกิน จนเสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมปอดหรือหัวใจวายได้ ดังนั้นผลดีย่อมมากเกินกว่าผลเสียแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อคุณมีภาวะของโรคที่ยังหาสาเหตุไม่พบ ขอให้ไว้ใจแพทย์ที่คุณทำการรักษาด้วย หากมีอาการผิดปกติใด ๆให้รีบแจ้งแพทย์ทันที

ขอให้คุณรักษารูปแบบของการรับประทานอาหาร เนื่องจากอาจส่งผลต่อระดับโซเดียมในเลือด จำกัดการดื่มน้ำตามที่แพทย์แนะนำ (ทั้งนี้รวมถึงที่ได้รับจากอาหารด้วย เช่นแกงจืด เป็นต้น)

นอกจากนี้ควรออกกำลังกายสมำ่เสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้รว่มกับยาโดยที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากยาบางชนิด เช่น ยาปวดอักเสบของกล้ามเนื้อและข้อ จะทำให้ไตมีการทำงานลดลง อาจต้านฤทธิ์กับยาได้ เป็นต้น

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ เบาจืด (Diabetes insipidus) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์

Wani*****a

9 เมษายน 2558 20:26:38 #5

ขอบคุณมากคะสำหับคำแนะนำ  ตอนนี้ดิฉันรับประทานวิตามิน B12มาประมาน3 เดือนแล้ว หมออีกที่นึงให้มาเพราะดิฉันมาอาการชาด้านซ้าย และใบหน้า  รู้สึกเกร็งที่ใบหน้า พอ ทาน B12 อาการชากับเกร็งหายไป และมีอาการหูอื้อ  ดิฉันเลยหยุดทาน จะทานเป็นบางวันที่รู้สึกชา  ไม่ทราบว่าวิตามินB12 ถ้าทานติดต่อกันานจะมีผลกับไตไหมคะ  และมีผลข้างเคียงไหมคะ  แล้วถ้าดิฉันจะทำการรักษาต้องเริ่มจากไหนคะ  ดิฉันจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหนคะ  รู้สึกกลัวมากคะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

15 เมษายน 2558 06:21:15 #6

เรียน คุณ wanica,

จากคำถามของคุณแยกตอบได้เป็น 2 ประเด็น คือ

1. วิตามิน บี 12 ไม่ได้ช่วยเรื่องชาโดยตรง น่าจะเป็นวิตามิน บี 1-6-12 มากกว่าหรือเปล่าครับ โดยที่วิตามิน บี 1 และ บี 6 จะช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาท ช่วยให้การนำกระแสประสาทดีขึ้น ส่วนวิตามิน บี 12 จะช่วยเรื่องความแข็งแรงของเม็ดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายได้ดีขึ้น ในบางงานวิจัยพบว่าช่วยเกี่ยวกับเรื่องหูอื้อ หรือน้ำในหูไม่เท่ากันด้วยครับ ทั้งนี้ต้องขึ้นกับผลการตอบสนองต่อยานี้ วิตามินบีจะไม่มีการสะสมในร่างกาย ต้องอาศัยการรับประทานอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยการทำงานของระบบต่าง ๆของร่างกายได้ดีขึ้น ไม่ใช่การรับประทานเป็นครั้ง ๆ เหมือนกับพาราเซตามอลที่พอหายก็เลิกรับประทาน วิตามินที่ละลายน้ำนี้ ถ้าไม่รับประทานเกินขนาดหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการทำงานของไต ร่างกายจะขับออกทางปัสสาวะได้เอง

2. ประเด็นการรักษาคงต้องสอบถามจากแพทย์ เนื่องจากอาการที่คุณแจ้งมา อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษาคุณจะทราบรายละเอียดดีที่สุดครับ