ถึง คุณ 98473

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 98473 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ 98473 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

เรียน คุณ 98473,

ก่อนตอบคำถาม ขอแนะนำว่าหากยังไม่ได้แต่งงาน วิธีการสวมถุงยางอนามัยน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด นอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน พยาธิในช่องคลอด ไวรัสเริม ตับอักเสบ ชนิด บี/ซี หรือโชคร้ายสุด คือเอชไอวี ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ที่ปัจจุบันยังไม่มีทางรักษาให้หายขาด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี (HPV - Human Papilloma Virus) ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากช่องคลอดในเพศหญิง หรือหูดหงอนไก่/มะเร็งองคชาติในเพศชาย

ส่วนคำถามของคุณ หากจำเป็นต้องรับปรทะทานยาคุมกำเนิด

- ยาคุมกำเนิด ชื่อบอกแล้วนะครับว่าคุมกำเนิด หากรับประทานยาได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์

- ยาคุมกำเนิดในปัจจุบัน ลดปริมาณฮอร์โมนเพศลง ทำให้โอกาสเกิดสิว หรือ บวมน้ำลดลงแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบฮอร์โมนเพศ และรูปแบบของการมีประจำเดือน

-- ผู้ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง มักมีรูปร่าง อก เอวชัดเจน รูขุมขนมักเล็ก ผิวค่อนข้างแห้ง ขนน้อย ประจำเดือนมักมาปริมาณมาก (เปลี่ยนผ้าอนามัยวันละหลายครั้ง) หรืออาจมาจำนวนวันนาน เช่น 5-7 วัน ถ้าแบบนี้แพทย์มักแนะนำให้ยาที่ปริมาณฮอร์โมนโปรเจสติน ค่อนข้างสูง เพื่อให้ฮอร์โมนในร่างกายปรับสู่สมดุล

-- ผู้ที่มีปริมาณโปรเจสโตรเจนสูง มักมีรูปร่างค่อนข้างผอม ตรง อกเอวไม่ค่อยชัดเจน รูขุมขนมักกว้าง ผิวค่อนข้างมัน ขนดก เป็นสิวง่าย ประจำเดือนมักมาปริมาณน้อย หรือจำนวนวันน้อย แบบนี้เหมาะกับยาคุมกำเนิดชนิดที่มีปริมาณเอสโตรเจนค่อนข้างสูง เพื่อให้สมดุลฮอร์โมนเพศในร่างกาย

จากข้อมูลที่ให้ ยาคุมกำเนิดมีมากมาย หลากหลายยี่ห้อ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้าน ว่ามีข้อห้ามใช้ยาคุมกำเนิดหรือไม่ เช่น มีก้อนที่เต้านม มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ไมเกรนชนิดที่ไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา หลอดเลือดดำที่ขาอุดตัน หรือมีปัญหาเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
เมื่อเลือกชนิดของยาคุมกำเนิดแล้ว ให้ทดลองรับประทานยาไปก่อน 1 แผง เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสามารถทนต่ออาการไม่พึงประสงค์ได้มากหรือไม่ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ มีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือน หรือประจำเดือนไม่มา (แม้จะรับประทานยาอย่างถูกต้อง) ส่วนรายละเอียดแนะนำให้สอบถามจากเภสัชกรอีกครั้ง เนื่องจากแต่ละยี่ห้อ จะมีวิธีการใช้แตกต่างกันไป ต้องมีการทบทวนความเข้าใจก่อนเริ่มต้นใช้ยา เพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด และเกิดอันตรายจากการใช้ยาน้อยสุด

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา เพื่อศึกษาเบื้องต้นถึงผลดี ผลเสียของการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์

ขอบคุณค่ะ