กระดานสุขภาพ
กินยาคุมย้อนศร | |
---|---|
10 กุมภาพันธ์ 2558 11:24:02 #1 สวัสดีค่ะ คือ..หนูกินยาคุมผิดคือกินย้อนศรพอกินเม็ดที่7แล้วหนูก้อข้ามไปกินเม็ดที่14เลยกินอยู่ประมาณ5วันแล้วเพิ่งรู้ว่าตัวเองกินผิด..ระหว่างที่กินผิดหนูก้อมีเพศสัมพันกับแฟนแล้วหลั่งในด้วย"หนูจะมีโอกาศท้องไหมค่ะ"แล้วประจำเดือนก้อมาก่อนกำหนดแล้วมาแบบกระปริบกระปรอยแล้วหนูต้องทำยังไงต่อไปค่ะต้องกินต่อแผงเดิมให้หมดหรือซื้อแผงใหม่มาทานตอนนี้เครียดมากเลยค่ะ..."หนูกินยาคุมxxx" ขอบคุณค่ะ |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 61 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.68 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Haamor Admin(Admin) |
10 กุมภาพันธ์ 2558 17:06:41 #2 ถึง คุณk.suranit22 เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณk.suranit22 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
11 กุมภาพันธ์ 2558 16:24:00 #3 ขอแยกตอบเป็นสองประเด็นนะครับ 1. ยาคุมกำเนิดยี่ห้อ M... 28 เม็ดที่คุณสอบถามมานั้น เม็ดยาขนาดใหญ่ตั้งแต่เม็ดที่ 1-21 มีขนาดความแรงตัวยาเท่ากันทุกเม็ด สามารถรับประทานเม็ดใดก็ได้. มีผลต่อการคุมกำเนิดเทียบเท่ากันทั้ง 21 เม็ด. แต่ 7 เม็ดสุดท้าย คือเม็ดที่ 22-28 จะเป็นเม็ดแป้ง/วิตามิน. ไม่มีตัวยาสำคัญ. มีมาเพื่อไม่ให้ลืมรับประทานยาทุกวัน ดังนั้นการข้ามไปรับประทานเม็ดที่ 14 ก็ยังมีผลในการยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้เหมือนกันครับ. ให้รับประทานยาแผงเดิม ต่อไปจนครบ 28 วัน 2. การเกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือน เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น - การเลือกรับประทานยาที่มีปริมาณฮอร์โมนค่อนข้างต่ำ. ซึ่งฮอร์โมนที่น้อยจะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน และภาวะบวมน้ำ แต่ข้อเสียคือปริมาณฮอร์โมนที่น้อยเกินไป จะไม่สามารถทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกที่หนาตัว คงสภาพอยู่ได้นาน จึงเกิดการปริหรือฉีกขาดเป็นเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้. มักเป็นในช่วง 2-3 เดือนแรกของการรับประทานยาคุมกำเนิด - หากไม่ได้เกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยบ่อยๆตลอดเดือน. อาจเกิดจากระดับยาในเลือดไม่สม่ำเสมอ. จึงทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาดในบางช่วง สาเหตุเช่นการรับประทานยาไม่สม่ำเสมอ (ที่ถูก. เวลาคลาดเคลื่อน +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมงในแต่ละคืน) การรับประทานยาร่วมกับเครื่องดื่มที่ทำให้ตัวยาตกตะกอน เช่น ชา ชาเขียว กาแฟ นม/ผลิตภัณฑ์จากนม น้ำเต้าหู้ โกโก้ น้ำอัดลม น้ำแร่ หรือน้ำผลไม้บางชนิดจะกระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้ในการกำจัดยาได้มากขึ้น. จึงทำให้ยาถูกกำจัดได้มากหรือเร็วขึ้น. หรือการซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใดๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่มีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร "ก่อน" เริ่มต้นการใช้ อาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา จนยาคุมกำเนิดลดปริมาณลง. จนเกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้ ดังนั้นหากเป็นยาแผงแรก ให้รับประทานต่อไปประมาณ 3 เดือน ร่างกายจะปรับตัวเข้ากับฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดได้เอง ถ้าเพิ่งมาเป็นในช่วงหลัง ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดอาการมาก่อน. ให้ปรับการรับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น. ไม่ลืมรับรับประทานยา ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณ์เสริมอาหารใดๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ไม่มีการปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หากปฏิบัติตามที่แนะนำแล้ว ยังคงมีอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
K.su*****2