กระดานสุขภาพ
ทานยาอื่นร่วมกับยาคุมกำเนิด | |
---|---|
17 ธันวาคม 2557 05:50:21 #1 วันนี้ไปหาหมมาได้ยามาดังนี้ค่ะ 1. dacin-F 300MG CAP Clindamycin (as bydrochloride) 1. อยากทราบว่ายาเหล่านี้มีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด มากหรือน้อย หรือไม่มีผล อาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้หรือไม่คะ เพราะคุณหมอบอกไม่มีผล แต่พออ่านจากในเว็บนี้แล้วบอกว่าตัวแรก Clindamycin http://haamor.com/th/ยาคลินดามัยซิน/ มีผลต่อยาคุมกำเนิด อาจท้องได้หรือไม่คะ 2. ตอนนี้อยู่ในช่วงเว้น 7 วันที่ 3 ต้องกินยาแผงใหม่ในวันที่ 21 ธันวาคม ถ้าเริ่มแผงใหม่แล้วต้องใช้ถุงยางร่วมมั้ยคะ 3. ระหว่างช่วงเว้น 7 วันที่ทานยารักษา แต่ไม่ได้ทานยาคุม ยังถือว่าปลอดภัยใช่มั้ยคะ เพราะตอนนี้มีประจำเดือนอยู่ 3. ถ้าร่วม ต้องใช้เป็นระยะเวลาต่อไปนานเท่าไหร่หลังยาหมดคะ เช่น ต่อเนื่องไปอีก สามวันหลังยาหมด ยาคุมจึงจะกลับมามีประสิทธิภาพ 100% ดังเดิม ขอบคุณมากค่ะ
|
|
อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.19 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Hide*****e |
17 ธันวาคม 2557 05:51:48 #2 เพิ่มเติมค่ะ ยาคุมกำเนิดของยาสมิน **® Drospirenone 3 mg, ethinylestradiol 0.03 mg (2) |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
18 ธันวาคม 2557 04:42:25 #3 เรียน คุณ hidehide, เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลการรับประทานยามาด้วย เช่น ข้อบ่งใช้ในการรับประทานยาติดเชื้อที่ใดบ้าง รับประทานยาวันละกี่ครั้ง เป็นเวลากี่วัน ดังนั้นให้ข้อมูลคร่าว ๆเพื่อนำไปใช้ปฏิบัติเบื้องต้นครับ ขอตอบเรียงตามเหตุการณ์นะครับ 3. ช่วงนี้ที่หยุดยา 7 วันก่อนเริ่มต้นแผงใหม่ เป็นช่วงที่มีประจำเดือน จึงไม่มีไข่ตก 2. และ 4. ในช่วงที่ยังไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิด ก็ไม่มีความจำเป็นในการใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นร่วมด้วย แต่ถ้าถึงช่วงเริ่มต้นยาคุมกำเนิดแล้ว ยาปฏิชีวนะยังไม่หมด ต้องใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย โดยเฉพาะในช่วงที่รับประทานยาคุมกำเนิด 7 วันแรก เนื่องจากเป็นระยะเวลาสำคัญที่จะยับยั้งไม่ให้มีไข่ตก 1. ยาปฏิชีวนะ ส่วนใหญ่จะกำจัดเชื้อในทางเดินอาหาร ลดการดูดซึมกลับของตัวยาคุมกำเนิด จึงทำให้ระดับยาคุมกำเนิดในเลือดลดต่ำลงกว่าปกติ จึงเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ในความหมายของคุณหมอ น่าจะหมายถึงไม่มีในช่วงที่มีประจำเดือนอยู่ แต่ในหลักการป้องกันการติดเชื้อกลับเป็นซ้ำไปมา ระหว่างคุณกับแฟน ในช่วงที่รับประทานยาปฏิชีวนะ ควรงดมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากในช่วงนั้นร่างกายคุณก็อ่อนแอ หรืออาจแพร่เชื้อให้แฟนของคุณ หากคุณชี้แจงข้อมูลเพื่อความปลอดภัย ถ้ารักและห่วงใยคุณ เขาคงเข้าใจนะครับ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยาเร่งด่วน แนะนำให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกรที่คุณไปรับยามา เนื่องจากต้องอาศัยข้อมูลอื่น ๆประกอบร่วมด้วยในการตัดสินใจ ปรับเปลี่ยนยาหรือมื้อให้ได้ผลประโยชน์จากการใช้ยาสูงสุด และเสี่ยงต่อสุขภาพคุณน้อยที่สุดครับ ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งไม่มีข้อมูลรายละเอียดมากพอ หรืออาจช้าเกินการณ์ จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือ การรักษาไม่ได้ผล
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Hide*****e |
18 ธันวาคม 2557 05:21:38 #4 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ หมอให้ยามาจำนวน 7 วัน เริ่มวันที่ 17-22 ธันวาคม กินทุกเช้าเย็นหลังอาหาร ครั้งละหนึ่งเม็ดทุกชนิด 1. dacin-F 300MG CAP Clindamycin (as bydrochloride) กินก่อนนอน 5. fexotine 60mg ยาต้านฮีสตามีน ส่วนยาคุมยาสมิน ปกติกินก่อนนอนค่ะ ประมาณ 5 ทุ่ม ซึ่งยาทั้งหมดนี้จะหมดในวันที่ 22 คือเริ่มแผงแรกไปสองเม็ดแล้ว อยากทราบว่ายาเหล่านี้มีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิด มากหรือน้อยเพียงใดคะ ถ้าต้องใช้การคุมกำเนิดอื่นเพิ่มเติม ต้องป้องกันถึงวันที่เท่าไหร่ถึงจะปลอดภัยและยากลับมามีประสิทธิภาพดังเดิมคะ ขอบคุณมากค่ะ ตอนที่ได้ยามาถามคุณหมอแล้ว หมอบอกว่าทานร่วมกับยาคุมกำเนิดได้เลย ไม่มีผลต่อการเสี่ยงตั้งครรภ์ เจอคุณหมออีกท่านก็ถามก็ได้คำตอบดังเดิม รวมทั้งถามเภสัชที่แจกยาที่ รพ. แล้ว ก็บอกว่าทานร่วมกับยาคุมได้ไม่มีผล เลยมาลองหาข้อมูลจากในอินเตอร์เนตดู ปรากฏว่าบอกว่ามีผล เลยสงสัยค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ |
Hide*****e |
18 ธันวาคม 2557 05:24:32 #5 ผิดค่ะ 17-23 ธันวา แปลว่าเริ่มแผงแรกไป 3 เม็ดแล้ว จะมีผลต่อยาคุมกำเนิดทั้งแผง ทำให้คุมไม่ได้ทั้งเดือนเลยรึเปล่าคะ หรือแค่อาทิตย์แรกหลังจากหยุดยาปฎิชีวนะ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
18 ธันวาคม 2557 15:27:47 #6 เรียน คุณ hidehide, เพื่อความมั่นใจ แนะนำให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย โดยเฉพาะการรับประทานยา 7 เม็ดแรกของยาคุมกำเนิด และเมื่อรับประทานยาปฏิชีวนะ dacin-F กับ ciproxyl หมดแล้วอีก 3 วัน เช่นรับประทานยาปฏิชีวนะ 7 วัน ยาหมดวันที่ 27 ธันวาคม หากมีเพศสัมพันธ์ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย จนถึง 30 ธันวาคม (ส่วนใหญ่ยาปฏิชีวนะจะถูกกำจัดหมดจากร่างกายแล้ว) ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดทั้งแผง ตัวยาคุมกำเนิดออกฤทธิ์เม็ดต่อเม็ด ตลอด 21 หรือ 22 วัน ดังนั้นจึงแนะนำให้รับประทานยาสม่ำเสมอ ห้ามลืมรับประทานยา เมื่อเว้นยาไป 2 วัน โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์ก็จะเท่ากับหญิงที่ไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดครับ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Hide*****e