กระดานสุขภาพ

Androcur กับการตรวจปัสสาวะ
Anonymous

5 พฤศจิกายน 2555 11:22:57 #1

คือเป็นกระเทยค่ะทานแอนโดรคัวร์ 1/4 เม็ดต่อสองวัน  แล้วที่โรงเรียนให้ตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะในนักเรียนทุกคนพอฉี่แล้วนำไปตรวจกับที่ตรวจแบบหยดรอยังไม่ครบ 5 นาทีผลออกมากพบขีดสีม่วงค่อนข้างเข้มขึ้นระหว่างขีด c กับ t เจ้าหน้าที่ที่ตรวจสะกิดเพื่อนให้มาดูด้วยกันตกใจมากค่ะว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เจ้าหน้าที่ที่มาดูบอกว่าผ่านการตรวจค่ะ  อยากเรียนถามคุณหมอว่ามันเกี่ยวกับแอนโดรคัวร์หรือเปล่าคะ?  ส่วนตัวไม่เคยสูบบุหรี่  ไม่ทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ไม่ได้ทานยาแก้ไอ/แก้หวัดเลยในช่วง 4 สัปดาห์  อีกประการค่ะปัสสาวะที่นำไปตรวจเป็นปัสสาวะที่ออกมาระยะแรกและมีเลือดปนนิดหน่อยสงสัยว่ามันเกิดจากอะไร(ไม่เคยเป็นมาก่อน)แล้วไม่ได้ทิ้งไปก่อนและก่อนตรวจดื่มกาแฟก่อน 2 ชม.ค่ะ  รบกวนคุณหมอช่วยทีนะคะสงสัยมากเลยค่ะ  ขอรายละเอียดแบบยิบๆเลยนะคะ  ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

อายุ: 17 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 74 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

6 พฤศจิกายน 2555 15:36:37 #2

จากคำถามของคุณ ได้ลองสืบค้นข้อมูลดูแล้วนะครับ ไม่พบรายงานว่า Androcur ซึ่งเป็นยาต้านฮอร์โมนเพศชาย จะรบกวนการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ แต่พบบางรายงานแจ้งว่า caffeine อาจเกิดผลบวกลวง กับการตรวจปัสสาวะได้ โดยมักตรวจได้จนถึง 24 ชั่วโมง ภายหลังดื่มกาแฟไป ซึ่งหากต้องการให้แน่ใจผลการตรวจ จะทำการตรวจเลือดแทนครับ เพราะว่าจะวิเคราะห์ได้ว่าเป็นสารเคมีตัวใด คล้าย ๆกับที่ตรวจยืนยันสำหรับผู้ที่ไปเที่ยวกลางคืน และอ้างว่ารับประทานยาแก้ไอ หรือแก้หวัด

ส่วนที่ขึ้นสีม่วง ระหว่าง C กับ T นั้น อาจเป็น caffeine ได้ เนื่องจากหากเป็นผลบวกจริง ต้องขึ้นที่ ตัว C และ ตัว T

C หมายถึง control หมายความว่า เครื่องตรวจนั้นใช้ได้ ไวต่อสารเคมีที่ต้องการตรวจ

T หมายถึง test หมายความว่า เป็นสิ่งที่นำมาตรวจ เช่น เลือด หรือ ปัสสาวะ หากมีสารเคมีที่ตรงกัน หรือ คล้ายกัน กับตัว C ก็จะแสดงผลเป็นแถบสีเช่นเดียวกัน

Androcur หรือชื่อสารเคมีคือ cyproterone acetate เป็นยาต้านตัวรับฮอร์โมน testosterone ไม่ให้ทำงานได้เต็มที่

ข้อบ่งใช้ คือ สำหรับรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก หรือผมร่วงในผู้หญิงที่มีฮอร์โมนเพศชายสูงเกิน

การเริ่มต้นใช้ยา ต้องให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนนะครับ จะได้ทราบว่าระดับฮอร์โมนสูงระดับใด ต้องปรับให้เหมาะสม
และต้องตรวจค่าการทำงานของตับ ระดับน้ำตาลในเลือด และ ความเสี่ยงของการเกิดหลอดเลือดอุดตันด้วยนะครับ เพราะมีรายงานการเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยานี้

และคุณควรสังเกตอาการผิดปกติระหว่างใช้ยานี้ เรื่อง หอบ หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย (เช่น เคยขึ้นบันไดได้ 3 ชั้น แต่กลับเป็นขึ้น 1 ชั้นก็เหนื่อยแล้ว) ปวดท้อง ท้องอืด ปัสสาวะ หรืออุจจาระเป็นสีเหลืองเข้มขึ้น หิวบ่อย ปวดขามาก หรือปลายเท้าบวม

วิธีการรับประทานยา คือควรรับประทานหลังอาหารทันที เนื่องจากจะดูดซึมได้ดีขึ้น

ข้อเสียอีกอย่างที่คุณต้องระวัง คือจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ ควรควบคุมอาหาร งดอาหารเค็ม หวาน มัน ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 20 นาที จะช่วยป้องกันอาการไม่พึงประสงค์นี้ได้

หวังว่าคงจะช่วยคุณให้สบายใจได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนจะใช้ยาต่อนะครับ จะได้ตรวจร่างกายไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานก่อน

 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล