กระดานสุขภาพ
กินยาคุมฉุกเฉินก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 21 ชั่วโมง | |
---|---|
3 ตุลาคม 2557 06:18:39 #1 วันแรกผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยใส่ถุงยางครับ แล้วแฟนก็กินยาคุมฉุกเฉินไป 2 เม็ดพร้อมกันครับ วันต่อมามีเพศสัมพันธ์กันอีกแต่คราวนี้ถุงยางดันขาดอ่ะครับ แต่ตอนแรกยังไม่รู้ตัวว่าขาด พอรู้ตัวว่าขาดเลยหยุดทำทันทีครับ ไม่แตกนะครับหยุดมีเพศสัมพันธ์ก่อน อยากทราบว่า 1.ยาคุมฉุกเฉินยังออกฤทธิ์ยุไหม กินไปประมาณ 21 ชม 2.มีโอกาสท้องไหมมากน้อยแค่ไหน |
|
อายุ: 16 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.40 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
4 ตุลาคม 2557 04:20:53 #2 เรียน คุณ amajjzaaa, คำถามสั้น ๆแต่ตอบค่อนข้างยากครับ เนื่องจากก่อนหน้านั้นคุณรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปโดยไม่มีความจำเป็นแล้ว (ทางการแพทย์ใช้เมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น คือ เมื่อถูกข่มขืน หรือเมื่อถุงยางอนามัยฉีกขาดรั่ว) ในครั้งที่ 2 ไม่แนะนำให้รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเพิ่มนะครับ เนื่องจากอาจส่งผลให้ประจำเดือนผิดปกติ ทำให้ไม่ทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ และยังเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก เสี่ยงต่อการฉีกขาดตกเลือดในช่องท้องจนเสียชีวิตได้ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ยังอาจส่งผลอยู่ แต่เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย (ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 8-20 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว) ทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่ามีปริมาณเชื้อที่ออกไปในน้ำหล่อลื่นมากเท่าใด ตรงกับช่วงที่ฝ่ายหญิงมีไข่ตกหรือไม่ ตอนนี้แนะนำให้รอจนกว่าประจำเดือนจะมาครับ หากเกินกำหนด 7-10 วัน อาจซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง แนะนำเพิ่มเติม การใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง ควรเลือกชนิดและขนาดให้เหมาะสมกับอวัยวะเพศครับ (ไม่เล็กเกินไป จนเสี่ยงต่อการฉีกขาด หรือไม่ใหญ่เกินไปจนหลวม หลุดง่ายระหว่างมีเพศสัมพันธ์) ถุงยางอนามัยที่พกติดตัว ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน ไม่เก็บในที่ร้อนหรือถูกแสงแดด ส่วนใหญ่หากไม่ได้ใช้เกิน 6 เดือน แนะนำให้ทิ้งไป เวลาสวมต้องสวมให้ถูกต้าน ต้องบีบตรงส่วนปลายของถุงยางที่เป็นกระเปาะ ไม่ให้มีอากาศอยู่ภายใน (เวลาเสียดสี ถุงยางอนามัยส่วนนี้จะฉีกขาดง่าย ถ้ามีอากาศอัดอยู่ เหมือนลูกโป่งครับ) ควรมีการเล้าโลม เพื่อให้ฝ่ายหญิงมีน้ำหล่อลื่น ลดการเสียดสี หรืออาจใช้เจลหล่อลื่นสูตรน้ำ จะช่วยลดการเสียดสี ห้ามใช้โลชั่น หรือวาสลีน เนื่องจากจะทำให้ถุงยางฉีกขาดได้ง่าย หรือหากมีเพศสัมพันธ์ค่อนข้างบ่อยกับแฟนของคุณ ก็อาจให้รับประทานยาคุมกำเนิดป้องกันไว้เลยครับ ร่วมกับการสวมถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงไวรัสเอชพีวีที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก หรือหูดหงอนไก่/มะเร็งองคชาติในเพศชายครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา การคุมกำเนิด (Contraception) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์ |
Amaj*****a