กระดานสุขภาพ

ทานยาคุมฉุกเฉินพร้อมกับยาชนิดอื่นได้ไหมค่ะ
Kach*****d

13 สิงหาคม 2557 10:27:11 #1

ทานยาคุมฉุกเฉินพร้อมกับยาชนิดอื่นได้ไหมค่ะ

มีเพศสัมพันธ์ตอนประมาณ 01.00-02.00 ของวันที่ 13/008/2557

แต่ไม่มีการหลั่งค่ะ แค่สอดใส่จะทำให้ท้องไหมค่ะ

 

เช่นทานยาคุมกำเนิด หนึ่งเม็ดตอน ของวันท่ 13/08/2557 21.00 เม็ดที่2 ต้องทานตอน 8.00 ของอีกวันใช่ไหมค่ะ

และะจะสอบถามว่า ถ้าทานยาคุมร่วมกับยาอื่นเช่น ทานยาคุมฉุกเฉินพร้อมยาแก้แพ้ ยาระบาย หรือยารักษาสิว

 

สามารถกินไปพร้อมยาคุมแบบฉุกเฉินได่ไหมค่ะ ยาคุมจะเสื่อมไหมค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ

อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.82 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

15 สิงหาคม 2557 03:52:19 #2

เรียน คุณ Kached,

ขอแยกตอบคำถามคุณเป็นข้อ ๆนะครับ

1. หากมีการสอดใส่ ย่อมมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ครับ

2. หากจะรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน สามารถรับประทานยาได้ 2 วิธีครับ คือ
2.1 รับประทานยาเม็ดแรกภายในไม่เกิน 72 ชั่วโมงของการมีเพศสัมพันธ์ (ยิ่งช้า อัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์ก็จะเพิ่มขึ้นครับ) และเม็ดต่อไปหลังจากเม็ดแรก ไม่เกิน 12 ชั่วโมง
ในกรณีของคุณคือต้องไม่เกินเวลา 09.00 น.ของวันถัดไป วิธีนี้มีข้อดีคือ ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือ
2.2 รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินพร้อมกัน 2 เม็ดในครั้งเดียว วิธีนี้ช่วยลดการลืมรับประทานยา แต่ก็อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนมากกว่าวิธีแรก ดังนั้น แนะนำให้รับประทานยาป้องกันการอาเจียน
ก่อนยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อย่างน้อย 30 นาที

3. ไม่ควรรับประทานยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆร่วมกับยาคุมกำเนิดหรือยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เนื่องจากอาจทำให้ตัวยาคุมกำเนิดตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ หรือยาที่ใช้รักษาไม่ได้ผลตามที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น ยาระบาย ตัวยาคุมกำเนิดอาจถูกขับออกไปพร้อมกับอุจจาระ ดังนั้น คุณได้ถ่ายอุจจาระ แต่ก็เสี่ยงตั้งครรภ์ด้วย
รับประทานยาทุกชนิดด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น ชา กาแฟ นม โกโก้ น้ำอัดลม อาจทำให้ตัวยาตกตะกอน หรือสลายตัวไป จนไม่อาจได้ผลการรักษาตามต้องการ

ขอแนะนำเพิ่มเติม คือยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ใช้เฉพาะเมื่อ 1. ถูกข่มขืน หรือ 2. ถุงยางอนามัย ฉีกขาด รั่วซึม จากข้อมูลของบริษัทยาคือไม่ควรรับประทานยาเกินกว่า 2 กล่อง ต่อเดือน เนื่องจากจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งมักพบที่ท่อนำไข่ที่มีการยืดหยุ่นน้อย ดังนั้นจึงเสี่ยงต่อการฉีกขาด ทำให้เกิดตกเลือดในช่องท้อง จนเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ แต่จากข้อมูลการศึกษาย้อนหลัง พบว่าในสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน "มากเกินกว่า 3 ครั้ง ตลอดชีวิต" จะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมากหลายเท่าเมื่อเทียบกับสตรีที่ไม่เคยได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาก่อน ที่พบบ่อย คือ มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกหรือรังไข่ หรือมะเร็งตับ

หากคุณยังไม่ได้แต่งงาน แต่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัย เพื่อคุมกำเนิด และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ตับอักเสบบีหรือซี หรือเลวร้ายสุดก็คือเอดส์ที่ยังไม่มียารักษา นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งองคชาติของเพศชาย

ลูกกับโรค คุณมีสิทธิ์เลือกได้ครับ

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล