กระดานสุขภาพ

ปัสวะเป็นฟอง
Anonymous

11 สิงหาคม 2557 15:54:29 #1

คือวันนั้นหนูกินยาคุมฉุกเฉินไป2เม็ดอะค่ะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหมแต่หลังจากวันนั้นหนูปัสวะเป็นฟองมาเรื่อยๆแต่ไม่ทุกครั้งที่ปัสวะ 5-6 วันต่อมาประจำเดือนหนูก็มาระหว่างนั้นหนูก็ยังปัสวะเป็นฟองอยู่และมีอาการปวดหลังช่วงบนบริเวณเอว หนูคิดว่าประจำเดือนหายแล้วจะไปหาหมอเพื่อตรวจโรคไต แต่พอประจำเดือนหนูเริ่มหายเหมือนว่าปัสวะจะไม่ค่อยเป็นฟองแล้ว แต่อาการปวดหลังยังมีบ้าง ไม่ทราบว่าหนูเสี่ยงเป็นโรคไตไหมคะ แล้วควรไปหาหมออยู่ไหมคะ ขอบคุณค่ะ

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 37 กก. ส่วนสูง: 150ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.44 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

13 สิงหาคม 2557 01:15:58 #2

เรียน คุณ 83d28,

จากข้อมูลที่คุณให้มานั้น ตัวยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ได้ส่งผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะนะครับ อาการที่คุณให้มาเพิ่มเติม สันนิษฐานว่าอาจเกิดการติดเชืื้อทางเดินปัสสาวะ อาจมีโปรตีนปนมาในปัสสาวะ ซึ่งโปรตีนหรืออัลบูมินนั้นจะทำให้เกิดฟองในปัสสาวะได้ การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ มักทำให้หน่วยไตขยายตัวขึ้น จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโปรตีนรั่วมาในปัสสาวะได้ ส่วนอาการปวดหลังก็เป็นอาการหนึ่งของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แต่ก็อาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น ทั้งออฟฟิสซินโดรม โรคจากการนั่งไม่ถูกต้อง นั่งงอตัวบ่อย ๆ ไม่ค่อยได้ลุกเปลี่ยนอิริยาบถ

แนะนำเบื้องต้น ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจปัสสาวะ หากมีการติดเชื้อ ต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ จนครบขนาดที่แพทย์สั่ง เพื่อรักษาอาการติดเชื้อให้หายขาด ไม่ลุกลามไปถึงไต ปรับพฤติกรรมสุขภาพ ควรดื่มน้ำเปล่าสะอาดมาก ๆ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน ไม่กลั้นปัสสาวะนานๆ เนื่องจากปัสสาวะที่คั่งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะนาน ๆจะเริ่มมีการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ เมื่อปฏิบัติบ่อย ๆจะทำให้เกิดการติดเชื้อลามไปทางท่อไต จนเป็นโรคไตเฉียบพลันได้
ขณะที่มีการรับประทานยาปฏิชีวนะ ควรงดมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดอาการอักเสบติดเชื้อ และป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อกลับเป็นซ้ำ เนื่องจากในฝ่ายชายมักไม่ค่อยมีอาการ แต่เป็นแหล่งเจริญของเชื้อโรคได้ เมื่อมีเพศสัมพันธ์ก็จะทำให้ฝ่ายหญิงติดเชื้อกลับเป็นซ้ำได้อีก

ส่วนการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ขอให้เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นทางการแพทย์เท่านั้น คือ 1 เมื่อถูกข่มขืน 2 ถุงยางอนามัยรั่วซึม ฉีกขาด การใช้ยาที่มากเกินกว่า 2 กล่องต่อเดือน จะทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ และการตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งมักเกิดบริเวณท่อนำไข่ ที่มีขนาดเล็ก ยืดหยุ่นน้อย เมื่อทารกขยายตัวมาก ๆ ก็จะดันให้ท่อนำไข่ฉีกขาด ตกเลือดในช่องท้อง จนเป็นสาเหตุถึงแก่ชีวิตได้ แต่จากการเก็บข้อมูลย้อนหลัง พบว่าในสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากเกินกว่า "3 ครั้ง ตลอดชีวิต" จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะต่าง ๆมากหลายเท่า มากกว่าสตรีที่ไม่เคยได้รับยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาก่อน หรือเมื่อเทียบกับสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดปกติ ที่พบบ่อย เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูกและรังไข่ หรือมะเร็งตับ

ดังนั้นหากคุณยังไม่ได้แต่งงาน และจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัย เพื่อคุมกำเนิด และยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน ตับอักเสบ บีหรือซี หรือเลวร้ายสุดคือเอดส์ ซึ่งยังไม่มียารักษา นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุของการเป็นมะเร็งปากมดลูก หรือมะเร็งองคชาติในเพศชาย

อย่าลืมนะครับ ลูกกับโรค คุณเลือกได้ ถ้าคุณไม่รักตัวเอง ก็ไม่มีใครช่วยคุณได้

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา ที่

ปวดหลังช่วงล่าง (Low back pain)

โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์