กระดานสุขภาพ
| อาการเจ็บหน้าอกค่ะ | |
|---|---|
|
29 กรกฎาคม 2557 14:29:41 #1 อาการนี้เป็นมาเกือบอาทิตย์นึงได้แล้วค่ะ มีอาการเจ็บหน้าอกแบบจุกๆทั่วแผ่นอก แต่ไม่รุนแรงมาก เป็นๆหายๆ ส่วนใหญ่อาการจะแสดงชัดตอนช่วงเย็นถึงกลางคืนค่ะ เป็นตรงช่วงกลางอก มีลามขึ้นมาถึงคอหอยและใต้หน้าอกทั้งสองด้านด้วยบางครั้ง (ส่วนใหญ่จะทางขวา) มีอาการท้องอืดเบาๆร่วมด้วย ไม่อยากอาหาร เรอลมบ่อยขึ้น เวลากลืนน้ำลายแล้วรู้สึกเหมือนมีก้อนสะอื้นจุกอยู่ในคอ หายใจ ทานอาหารและนอนได้ปกติ อยากทราบว่าเป็นอาการของกล้ามเนื้ออกหรืออวัยวะภายในอย่างอื่นรึเปล่าคะ? คือช่วงนี้กังวลมากพยายามไม่คิดมากมาหลายวันแต่เห็นมันไม่หายซักทีเลยเครียดอ่ะค่ะ *เพิ่มเติม >> เพิ่งไปผ่าฟันคุดมาแล้วหมอให้ยาแก้อักเสบ Amoxilin มาทาน แต่เป็นคนที่ชอบทานแคปซูลและยาเม็ดใหญ่ๆติดคอเลยเอาตัวแคปซูลมาแกะออกแล้วผสมน้ำผึ้งดื่มเอาช่วงสองวันสุดท้าย ไม่รู้ว่าจะเป็นอันตรายต่อหลอดอาหารและมีส่วนอาการในครั้งนี้รึเปล่า เห็นว่าถ้ากล้ามเนื้ออักเสบ ไม่กี่วันก็จะหายเอง แต่นี่เกือบอาทิตย์แล้วอ่ะค่ะ รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^ |
|
| อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.69 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
31 กรกฎาคม 2557 15:21:05 #2 เรียน คุณ Ballerina.Suju จากอาการที่คุณเล่ามา น่าจะเข้าได้กับอาการกรดไหลย้อนนะครับ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด ส่วนยา amoxicillin ที่คุณรับประทานนั้น โดยปกติตัวยาไม่มีฤทธิ์กัดกร่อน เนื่องจากมีจัดทำในรูปยาผงน้ำเชื่อม เพียงแต่หลังรับประทานยา ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อช่วยการละลายและเพิ่มการกำจัดยาออกทางปัสสาวะ แต่มียาหลายรายการที่ไม่ควรรับประทานแบบแกะแคปซูลออกนะครับ เนื่องจากตัวยามีฤทธิ์กัดกร่อนระคายเคือง จึงทำในรูปแบบแคปซูลเพื่อป้องกันผงยาสัมผัสกับหลอดอาหารโดยตรง เช่น doxycycline, clindamycin เป็นต้น ซึ่งแม้บางรายรับประทานยาในรูปแบบแคปซูลก็ยังพบอาการหลอดอาหารเป็นแผลได้ ดังนั้นการรับประทานยาทุกครั้ง ควรดื่มน้ำตามอย่างน้อย 1-2 แก้ว เพื่อช่วยให้ตัวยาไหลลงไปที่กระเพาะอาหาร ซึ่งมีความหนามากกว่าหลอดอาหาร และช่วยเรื่องการละลายของตัวยาด้วยครับ ครั้งต่อไป ถ้าคุณยังมีข้อขัดข้องเรื่องการกลืนยา อย่าลืมสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนด้วยนะครับ เพื่อจัดหายาที่เหมาะสม เนื่องจากยาบางรายการ เมื่อผสมกับน้ำหวานหรือมีกลูโคส ฟรุคโตสในน้ำผึ้ง ตัวยาจะสลายตัวไปได้ง่าย ไม่ใช่ยาทุกอย่างจะผสมน้ำหวานได้หมดนะครับ วิธีการรับประทานยาแคปซูลที่เคยสอนเด็ก ๆให้รับประทานยา คือ ให้กลืนน้ำ 1-2 อึกก่อน จากนั้นดื่มน้ำประมาณ 1 คำโต ๆ แต่ยังไม่ได้ต้องกลืน แล้วเงยหน้าขึ้น หย่อนแคปซูลยาลงในปาก ปิดปากให้สนิท ก้มหน้าลงประมาณ 45 องศา แล้วจึงกลืนยา หลักการคือ แคปซูลมักจะลอยน้ำ เมื่อคุณอมน้ำไว้ในปาก แล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย แคปซูลยาจะลอยไปใกล้ด้านในคอมากกว่า เมื่อคุณกลืนน้ำ จะพาให้แคปซูลไหลลงคอได้ง่ายขึ้น คล้ายกับการกดชักโครกนั่นเอง ที่สำคัญคืออย่ากลัวว่าจะติด เพราะถ้ากลัว หลอดอาหารก็จะหดตัว กลืนยาอะไรก็ติดหมดครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราครับ กรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease) โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ |
Ball*****u |
1 สิงหาคม 2557 04:13:51 #3 ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้เบาใจเรื่องยาไปแล้ว พอผ่านมาวันสองวันก็รู้สึกว่าอาการดีขึ้นมาแล้ว จะเจ็บหน้าอก(แบบจุกคอหอย)เฉพาะเวลาขยับตัวเป็นบางครั้งเท่านั้น บางทีก็จี๊ดขึ้นมา แต่แค่ไม่กี่นาทีก็หาย ไม่มีอาการท้องอืดหรือเรอลมแล้ว เป็นแบบนี้จะยังจำเป็นต้องไปหาหมออยู่รึเปล่าคะ??? |
Ball*****u |
1 สิงหาคม 2557 05:34:31 #4 แล้วถ้าเป็นไม่มาก อาการไม่ค่อยรุนแรงแบบนี้สามารถทานขมิ้นชันรักษาได้มั้ยคะ? เห็นว่ารักษาโรคกรดไหลย้อนได้ดีทีเดียว |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
2 สิงหาคม 2557 08:15:27 #5 เรียน คุณ Ballerina.Suju, โดยทั่วไปแคปซูลยาขมิ้นชัน ขึ้นทะเบียนเพื่อใช้รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร หากจะนำมารักษาโรคกรดไหลย้อน อาจต้องใช้ยาอื่น ๆร่วมด้วย เช่น ยาปรับการบีบตัวของลำไส้ เพื่อทำให้หูรูดทำงานดีขึ้น ป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อน ร่วมกับการปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น - พฤติกรรมการรับประทานอาหาร ปรับให้เป็นมื้อเล็ก ๆ หลาย ๆมื้อแทน เพื่อให้กระเพาะอาหารได้ย่อยจนหมด, งดอาหารรสจัด เผ็ดจัด เปรี้ยว เค็ม เพื่อไม่ให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร งดอาหารที่ย่อยยาก เช่น อาหารไขมันสูง นม ครีม เนย เนื้อหมู เนื้อวัว ควรปรับเป็นเนื้อปลา เนื้อไก่ ต้ม หรือนึ่ง จะย่อยง่ายกว่า งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ รวมถึงชาเขียว โกโก้ เนื่องจากจะกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างกรดและน้ำย่อยออกมามากขึ้น งดเครื่องดื่มที่อัดก๊าซ เช่น น้ำอัดลม โซดา เพื่อป้องกันไม่ให้กรดถูกดันย้อนขึ้นมา - พฤติกรรมสุขภาพ เช่น ไม่รับประทานจนอิ่มแน่นเกินไป ไม่เอนตัวลงนอน หรือกึ่งนั่งกึ่งนอน เนื่องจากกรดอาจไหลย้อนขึ้นมาได้ ควรรับประทานอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะมื้อเย็น ควรรับประทานอาหารเบา ๆ เช่น สลัดไก่ หรือ ปลา ไม่ควรดื่มนมก่อนเข้านอน เนื่องจากย่อยยากและต้องอาศัยกรดในการย่อย อาจทำให้มีกรดหลั่งจากกระเพาะอาหารมากขึ้น หลีกเลี่ยงภาวะเครียด ทั้งจากการทำงาน หรือการเข้านอนดึก หรืออดนอน เนื่องจากร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียด จากต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นสารสเตียรอยด์ ทำให้ลดการสร้างสารเคลือบทางเดินอาหาร เก็บกักเกลือ ทำให้บวมน้ำ ไขมัน ทำให้อ้วนง่าย เป็นเซลลูไลต์ เซลล์เหี่ยวย่น รวมถึงเซลล์สมอง ทำให้ระบบประสาทและสมอง ทำงานไม่สมบูรณ์ ระบบความจำด้อยลง ก่อนที่คุณจะรับประทานยาเอง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนว่าเป็นโรคนี้จริงหรือไม่ เนื่องจากต้องรับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลานาน อย่างน้อย 8-12 สัปดาห์ สมุนไพรขมิ้นชัน นอกจากมีสรรพคุณดังกล่าว ยังส่งผลให้ระบบการแข็งตัวของเลือดทำงานช้าลง เลือดไหลแล้วหยุดยาก อาจกระตุ้นให้เกิดการบีบตัวของมดลูก จึงอาจเกิดเลือดออกกะปริบกะปรอย หรือในหญิงตั้งครรภ์อาจเสี่ยงต่อภาวะแท้งบุตรได้ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้นการขับน้ำดี ถ้าเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี หรือถุงน้ำดีอุดตัน ก็อาจกระตุ้นให้เกิดโรครุนแรงขึ้นได้ อย่าลืมนะครับ สมุนไพรสกัด ก็นับเป็นยา ดังนั้น ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาได้ และศึกษาบทความดีๆ ที่แนะนำจากท่านบรรณาธิการของเรานะครับ เรื่องกรดไหลย้อน เพื่อป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำได้อีก
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล ขอขอบคุณข้อมูลด้านสมุนไพร จาก |
Ball*****u