กระดานสุขภาพ
สอบถามเรื่องเริมที่อวัยวะเพศทีครับ | |
---|---|
3 มิถุนายน 2557 05:06:38 #1 คือว่า อ่านตามเว็บไซต์แล้ว แนะนำให้ทานยา อไซโคเวีย เป็นเวลา 5-10วัน และยังแนะนำอีกว่าหากจะป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก ให้ทานเป็นระยะเวลา 12เดือน อันนี้จริงรึเปล่าครับ และยังมียาแนะนำอีกที่ชื่อว่า *** อันนี้รักษาให้หายขาดได้จริงหรือเปล่าครับ ถ้าจริงเราสามารถหาซื้อได้ที่ไหนครับ ขอบคุณครับ |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 72 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Haamor Admin(Admin) |
3 มิถุนายน 2557 10:19:30 #2 ถึง คุณ titanic002 เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ titanic002 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมคะ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
3 มิถุนายน 2557 15:17:30 #3 เรียน คุณ titanic002, กรณีเป็นครั้งแรก แนะนำให้รับประทานยาให้ครบ 5 วัน ส่วนกรณีรับประทานนาน 12 เดือน ไม่มีข้อมูลนะครับ ยกเว้น ใช้ป้องกันในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง แนะนำให้รับประทาน 400 มิลลิกรัม ทุก 12 ชั่วโมง ระยะเวลาการรับประทานขึ้นกับแพทย์ผู้รักษาเป็นผู้พิจารณาร่วมกับผลการเจาะเลือดครับ ส่วน H-Balm เท่าที่ลองอ่านข้อมูลเป็นยาของอเมริกา เป็นพวกน้ำมันหอมระเหย ไม่ได้แจ้งรายละเอียดตัวยา แต่อ้างว่า เมื่อทาแล้วน้ำมันจะดูดซึมเข้าสู่ผิวหนัง และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ป้องกันไม่ให้เริมกลับมาเป็นซ้ำอีก ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม ว่าเริม เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส โรคนี้รักษาไม่หายขาดนะครับ เนื่องจากเชื้อจะหลบซ่อนตัวอยู่บริเวณปมประสาท ซึ่งเม็ดเลือดขาวของร่างกายไม่สามารถเข้าไปทำลายได้ เมื่อภูมิต้านทานร่างกายอ่อนแอลง ก็จะทำให้กลับมามีอาการของโรคกำเริบขึ้นอีก เช่น เมื่อเครียด อดนอน อดอาหาร หรือเป็นโรคอื่นร่วมด้วย เช่น เมื่อเป็นหวัด มักจะทำให้ภูมิต้านทานอ่อนแอลงด้วย แนะนำให้ดูแลสุขภาพตนเอง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกเน้นผักสด ผลไม้ อาจรับประทานวิตามินซีเสริม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ วันละประมาณ 30 นาที กรณีมีอาการกำเริบ ควรดูแลแผล ทำความสะอาดบ่อย ๆ ไม่สวมกางเกงในคับแน่นเกินไป แยกข้าวของเครื่องใช้จากผู้อื่น ถ้าเป็นไปได้หลังซักทำความสะอาด ควรตากแดดจัด อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพื่อกำจัดเชื้อไม่ให้แพร่กระจาย ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อกันไม่ให้เกิดการแพร่กระจายไปที่อวัยวะอื่น ๆ ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ คือ ตา หู คอ จมูก เนื่องจากอาจรุนแรงจนถึงขึ้นตาบอด หรืออาจแพร่กระจายเข้าสู่สมองได้ หากจะมีเพศสัมพันธ์ควรสวมถุงยางอนามัย แม้ว่าขณะนั้นจะไม่มีอาการก็ตาม เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อ หรือป้องกันการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นซ้ำได้ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล แนะนำบทความดี ๆจากท่านบรรณาธิการของเราครับ เริม (Herpes simplex) โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์ วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์ |
Tita*****2 |
3 มิถุนายน 2557 15:38:32 #4 ผมขออนุญาติถามอีกคำถามนึงนะครับ คือถ้าเป็นโรคนี้แล้ว ถ้าเมื่อไหร่แต่งงานอยากมีลูกขึ้นมาฝ่ายหญิง และเด็กในท้องจะไม่ติดไปด้วยหรอครับ (คือตรวจเลือดมาแล้ว ผลเป็นปกติน่ะครับ) ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
4 มิถุนายน 2557 15:44:00 #5 ถึง คุณ titanic002, หากคุณแต่งงานและต้องการมีบุตร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนครอบครัว ถ้าจำเป็นอาจต้องรับประทานยาเพื่อกดไม่ให้เชื้อกำเริบ หรือคุณต้องดูแลสุขภาพให้ดีตามที่แนะนำเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเจริญเติบโต หากเป็นช่วงที่มีอาการกำเริบ ต้องแยกห่างจากครอบครัว แยกข้าวของเครื่องใช้ พยายามล้างมือให้สะอาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เท่าที่มีข้อมูลการศึกษา ถ้ายังไม่ใช่ช่วงที่โรคกำลังลุกลาม ยังไม่พบว่ามีการติดเชื้อไปยังทารกในครรภ์ แต่อาจติดไปยังภรรยา และมีโอกาสเพิ่มขึ้นหลังคลอดครับ
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Tita*****2 |
5 มิถุนายน 2557 09:05:55 #6 หมดกำลังใจเลยครับ ไม่กล้าคิดมีครอบครัวเลย ความรู้สึกไม่ได้ต่างอะไรจากคนเป็น HIV เลยครับ |
Tita*****2