กระดานสุขภาพ

เเฟนกินยาสตรี***ไป สามวันเเล้วเเต่เมทยังไม่มาอะคับ
Chou*****h

29 พฤษภาคม 2557 11:03:22 #1

เเฟนผมกินยาสตรี***มา สามวันเเล้ว เเล้วกินเยอะมากทีละครึ่งขวด ผมบอกเเล้วว่ามันไม่ได้ท้องเเค่เมทมาไม่ปกติเเล้วผสมกับเครียดเลยเเต่เเฟนผมเค้ากลัว เลยอยากจะให้คุณหมอช่วยเเนะนำหรือว่าวิธีเเก้ปัญหาหน่อยอะคับคือเครียดกันมาก

อายุ: 16 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.83 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Chou*****h

29 พฤษภาคม 2557 11:10:55 #2

เเต่ ผมไม่ได้มีอะไรกับเธอนะคับเเต่มีช่วงก่อนที่จะคบกันเธอเมาเเล้วไม่รู้เรื่องมาเธอบอกว่าเธอกินกับทอมสองคนเเล้วก็น้องผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ไปเมื่อต้นเดือนอะคับเเล้วปกติเมทเธอจะมาตอนปลายเดือนเเต่ตอนนี้ยังไม่มาเลยถามเเล้วเธอว่าบอกำไม่ได้ คือกลัวว่าก่อนกินมีเเค่ทอมเเต่พอเมาเเล้วจะมีคนอื่นเข้ามาในห้องด้วยมั้ยประมาณนั้นหละคับซึ่งผมก็ตอบไม่ได้ว่าเธอมีอะไรกับใครรึป่าวด้วย

Haamor Admin

(Admin)

30 พฤษภาคม 2557 02:38:00 #3

ถึง คุณ choun.earth

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ choun.earth ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

1 มิถุนายน 2557 10:50:03 #4

เรียน คุณ choun.earth,

ขออนุญาตตอบคำถามเป็นข้อๆครับ

1. ยาสตรี ไม่ใช่ยาขับประจำเดือนหรือยาทำแท้ง ส่วนประกอบของยาส่วนใหญ่เป็นพวกสมุนไพร เช่น โกฐทั้งห้า (โกฐเชียง โกฐหัวบัวฯ) ตังเซียม อบเชย และสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนอื่น ๆ แล้วแต่สูตรของยี่ห้อ วัตถุประสงค์หลักคือใช้เพื่อบำรุงเลือด และเสริมฮอร์โมนในหญิงที่ฮอร์โมนมาไม่ปกติ ส่วนประกอบหลัก ๆจะมีฤทธิ์คล้ายกับเอสโตรเจนในธรรมชาติ ซึ่งจะมีหน้าที่ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว เมื่อถึงช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายลดต่ำลงจะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาด ลอกตัวออกเป็นเลือดประจำเดือน โดยฤทธิ์ของยาไม่ใช่ยาขับเลือด หรือยาทำแท้งส่วนใหญ่ นิยมใช้ในสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน เพื่อชดเชยฮอร์โมนที่ขาดหายไป ลดอาการร้อนวูบวาบ หรือแสบร้อนในช่องคลอดสตรีวัยทอง ไม่แนะนำให้รับประทานปริมาณมาก ๆหรือติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบด้วย อาจทำให้เกิดการแพ้ หรือตับอักเสบได้

2. เรื่องประจำเดือนยังไม่มา หากเลยกำหนดที่จะมาแล้วประมาณ 7-10 วัน ให้ตรวจด้วยอุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจยี่ห้อและวิธีการตรวจแต่ละแบบ สอบถามได้จากเภสัชกรร้านยานะครับ เนื่องจากมีมากมายหลายยี่ห้อ สิ่งที่ควรระวังคือ ไม่ควรทิ้งอุปกรณ์ตรวจไว้นานเกินกว่ากำหนด (ประมาณ 5 นาที) ถ้านานเกินจากนั้น อาจเกิดผลเป็นบวกลวงได้ จากความร้อนหรือแสงที่อุปกรณ์สัมผัสนานๆ

- หากตรวจการตั้งครรภ์แล้วได้ผลเป็นบวก แนะนำให้ปรึกษาคลินิกวางแผนครอบครัว เพื่อรับคำแนะนำจากแพทย์เฉพาะทางต่อไป

- หากตรวจแล้วผลเป็นลบ ให้รอดูผลประมาณ 2-3 เดือน ถ้ายังไม่มา ก็ให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียดต่อไป

โดยทั่วไปประจำเดือนในหญิงวัยรุ่น ประมาณ 2-3 ปีแรกจะมาไม่เป็นปกติ จนกว่าระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายจะหลั่งสม่ำเสมอ ปัจจัยที่ส่งผลให้ประจำเดือนอาจมาไม่ปกติ มีหลายประการ ทั้งเรื่องเครียด จากการเรียน ครอบครัว การอดนอน อดอาหาร หรือโรคประจำตัวอื่นๆ ยกเว้นว่าก่อนหน้านั้นประจำเดือนมาสม่ำเสมอ รอบ 28 วัน เท่ากันทุกเดือน ควรปรึกษาแพทย์หากก่อนหน้านั้นมาไม่ค่อยสม่ำเสมอ อยู่แล้ว แนะนำให้สังเกตอาการไปก่อน 2-3 เดือนนะครับ ถ้าประจำเดือนยังไม่มาตามปกติ ร่วมกับมีอาการอื่นด้วย เช่น ปวดท้องน้อย มีไข้ด้วย ควรรีบไปพบแพทย์ครับ

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความจากกองบรรณาธิการของเรา

ประจำเดือน (Menstruation)

การคุมกำเนิด (Contraception) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์

 

ยาสตรี ยาสตรีไม่ใช่ยาทำแท้ง (Tonic herb for women) โดย เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล