คุณ tanakorn.sudsoong มีอาการคันทั่วตัว เป็นตุ่มแดง บางครั้งก็ไม่มีตุ่ม สงสัยว่าเกิดจากอะไร

สาเหตุคันส่วนมากมักเกี่ยวข้องกับโรคผิวหนัง เช่น ลมพิษ โรคผื่นแพ้สัมผัส โรคผิวหนังอักเสบเหตุภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ หรือโรคภูมิคุ้มกันไวเกิน เช่น แพ้แมลง แพ้ละอองเกสร แพ้ฝุ่น แพ้ขนสัตว์ แพ้แดด แพ้ยา โรคผิวหนังอักเสบ หรืออาจเกิดเพราะมีสิ่งกระตุ้น เช่น การสัมผัสผิวเบาๆ กระแสลมเบาๆ อากาศรอบตัวหนาวเย็นหรือร้อนเกินไป เหงื่อออก ความชื้นอากาศน้อยหรืออากาศแห้ง การสวมเสื้อผ้าที่ตัดเย็บจากผ้าหนาเกินไป มีขน หรือทานอาหารรสจัด หรือเหตุจากสภาพของผิวหนังแต่ละบุคคลที่แห้งมาก ผิวมันเกินไป ผิวบาง หรือผิวหนังบริเวณที่อับชื้น

การคันที่ผิวหนังเกิดเพราะมีการกระตุ้นเซลหนังกำพร้า และปลายเส้นใยประสาท มีสารสื่อประสาทละสารตัวกลางเกี่ยวข้องมากมาย เช่น ฮิสทามีน เซอโรโทนิน โพรสตาแกลนดินส์ สารนิวโรเพ็พไทด์

อีกประเภทคือ การคันจากโรคทางกาย เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคตับ โรคท่อน้ำดีอุดตัน โรคเลือด ภาวะซีด โรคเบาหวาน โรคต่อมไร้ท่อ การตั้งครรภ์ โรคคอพอกโรคมะเร็ง โรคติดเชื้อ HIV การคันในผู้สูงอายุ บางครั้งเราก็หาโรคไม่ได้ เรียกว่า idiopathic pruritus

นอกจากนี้ โรคทางระบบประสาทก็ทำให้คัน เป็นได้ทั้งจากความผิดปกติของประสาททั้งส่วนกลางหรือส่วนปลาย เช่น งูสวัด โรคเส้นประสาทอักเสบหลายเส้น โรครากประสาท และโรคหลอดเลือดสมอง

อีกอย่างหนึ่ง คือการคันจากโรคทางจิตใจ เช่น ภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ

สาเหตุจะเป็นอะไรจำเป็นต้องซักประวัติ ตรวจผิวหนังและตรวจร่างกายทั่วตัวอย่างละเอียดก่อน

การรักษาผิวหนัง คือการป้องกันอันตรายต่อผิวหนัง ไม่ให้ผิวหนังแห้ง โดยไม่อยู่ในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศนานๆ(เพราะอากาศแห้ง) เลือกใช้ครีมหรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง ต้องป้องกันไม่ให้แสงแดดทำลายผิวหนัง ควรทาสารกันแดด หมั่นทำความสะอาดห้องทำงาน ห้องพักที่อยู่อาศัย ที่นอน หมอน ผ้าห่ม เสื้อผ้า ผ้าคลุมเตียงให้สะอาด เลือกใช้เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มที่ไม่หนา นุ่ม ไม่มีขน ทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำอุณหภูมิพอเหมาะ เลือกใช้สบู่อ่อน ไม่เกา หากผื่นคันสีแดงมากให้ประคบด้วยผ้าชุบน้ำเย็น เป็นต้น

ส่วนการรักษาโดยตรงขึ้นกับสาเหตุนั้นๆครับ