กระดานสุขภาพ
อาการแพ้ยาเรื้อรัง | |
---|---|
4 มกราคม 2562 09:58:40 #1 เพื่อนผมเริ่มมีการจากการใช้ยาซีม่าโลชั่น ทาบริเวณขาหนีบใต้อัณฑะเพื่อพยายามบรรเทาอาการคันจนเกิดอาการแสบร้อน มีแผลพุพองแสบร้อนและผิวหนังที่ทาได้รับความเสียหาย ต่อมาได้ใช้ยาอื่นๆจนอาการทุเลาลงไปบ้างจนเกือบเป็นปกติ จนกระทั่งได้ใช้ยา Hydroxyzine ตามคำแนะนำของแพทย์ที่อ้างว่าอาจจะช่วยรักษาได้ ปรากฎว่า ได้เกิดอาการลมพิษขึ้นแต่ไม่ร้ายแรงมาก แต่มาเป็นถี่ๆรายวัน เป็นมาประมาณไม่ต่ำกว่า 5-6 เดือนแล้ว ทั้งๆที่ในชีวิตก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นอาการลมพิษมาก่อนเลย หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากยา Loratadine ด้วย แต่เพื่อนผมจำไม่ได้ชัดเจนว่าเคยใช้ Loratadine ด้วย อยากขอถามคำถามต่อไปนี้ครับ 1.ผิวหนังที่ได้รับความเสียหายจากการใช้ยาซีม่าโลชั่น สามารถซ่อมแซมหรือทำให้ดีดั่งเดิมได้มั้ยครับ เพราะทุกวันนี้ บริเวณตรงนั้นของเพื่อนผมยังมีแผลที่เกิดจากการเกา (บริเวณขาหนีบและสีข้าง) และมีเหงื่อที่ชุ่มกว่าปกติ และมีเลือดซิบๆด้วย 2.Loratadine Hydroxyzine หรือ Acid ในยาซีม่า ทำให้เกิดปฏิกิริยาใดๆต่อร่างกายมั้ยครับถ้าอยู่รวมกันในร่างกาย 3.มีวิธีไหนบ้างที่สามารถขับยาหรือขับพิษที่ทำให้เกิดอาการแพ้ยาได้ครับ เพราะหยุดมาหลายเดือนแล้วแต่เหมือนยังเป็นอยู่ ขอบคุณครับ |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 120 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 37.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีนแพทย์โรคผิวหนัง |
11 มกราคม 2562 08:36:43 #2 ในขั้นต้น ยังคงบอกได้ยากค่ะ ว่าเป็นอะไร เพราะไม่เห็นภาพ ไม่ได้ตรวจร่างกาย ไม่แน่ใจว่ารอยโรคตอนนี้เป็นเช่นไร และมีปัญหาทางผิวหนังอย่างไร ยาซีม่าโลชั่น เข้าใจว่าเป็นยาทากลุ่มสเตียรอยด์ซึ่งอยู่ในรูปโลชั่น อาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ร่วมด้วย ซึ่งโดยทั่วไปไม่แนะนำให้ทายานี้นาน ๆ เพราะจะทำให้ผิวบางลง ระคายเคือง หรือเกิดมีการติดเชื้อรา รูขุมขนอักเสบ ซ้ำซ้อนขึ้นมาได้ ส่วนยา loratadine, hydroxyzine เป็นกลุ่มยาแก้แพ้ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ทำให้เกิดผื่นผิวหนังขึ้น แต่ถ้ายังมีผื่นขึ้นต้องแยกว่าเป็นเพราะได้ยาขนาดที่ยังไม่เพียงพอต่อการควบคุมโรคหรือไม่ หรือเป็นผื่นลักษณะใด แนะนำไปพบแพทย์เพื่อซักประวัติอย่างละเอียด ตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไปจะดีกว่าค่ะ |
Anonymous