ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมก่อนค่ะ ว่าเป็นคนที่ช่างสังเกต และดูแลตัวเองเป็นอย่างดี

สรุปโดยรวมปัญหาทั้งหมดคือมีโรค seborrheic dermatitis, epidermal cyst, oily skin, สิว และตากุ้งยิง

สำหรับ seborrheic dermatitis เป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบที่พบได้บ่อยค่ะ และมีปัจจัยกระตุ้นให้เกิดโรคเห่อได้ง่าย เช่นภาวะเครียด อดนอน ไม่สบาย โดนแดด ก็สามารถทำให้ผื่นเห่อได้ หรือแม้กระทั่งการใช้สบู่หรือเครื่องสำอางค์ที่มีฤทธิ์ระคายเคืองก็ทำให้ผื่นเห่อได้เช่นกัน ดังนั้นคุณใช้สบู่อ่อน และการเลือกใช้ครีมที่ไม่ค่อยระคายเคือง ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ที่ใช้อยู่ก็เป็นการดีแล้วค่ะ

ตากุ้งยิง (Hordeolum, stye) คือการติดเชื้อแบคทีเรียของต่อมไขมันบริเวณผิวหนังเปลือกตาค่ะ ปัจจัยเสี่ยงก็มักสัมพันธ์กับสุขลักษณะ การใช้เครื่องสำอางค์ หรือการทาครีมใกล้บริเวณตา อย่างไรก็ตาม คนที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงก็เกิดขึ้นได้ค่ะ เพราะโดยทั่วไปคนเราก็อาจขยี้ตาโดยไม่รู้ตัวได้

epidermal cyst เป็นการเกิด cyst ใต้ผิวหนังอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่ทราบสาเหตุชัดเจน และเกิดได้ทุกตำแหน่งของร่างกาย

ส่วนเรื่องผิวมัน เป็นปัจจัยอย่างหนึ่งซึ่งกระตุ้นให้เกิดสิวได้อยู่แล้วค่ะ เข้าใจว่าเดิมก็มีสิวเป็นๆ หายๆ อยู่บ้างแล้วเหมือนกัน

ส่วนเรื่องการรับประทาน whey protein กับการเกิดสิว มีข้อมูลว่าอาจมีส่วนกระตุ้นให้เป็นสิวได้มากขึ้นได้ค่ะ เนื่องจากกลุ่มโปรตีนหรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ (dairy product) อาจกระตุ้นให้มีการหลั่งสารที่ชื่อ insulin-like growth factor 1 ได้ ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิว

ส่วนเรื่อง gluten หรือกลุ่ม whole wheat ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนทางวิทยาศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบันสนับสนุนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวหรือผื่นผิวหนังอักเสบหรือไม่ค่ะ

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวคิดว่า อะไรที่ไม่อยู่ในแนวทางสายกลาง ก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาที่เราไม่สามารถทราบได้ หรืออธิบายได้ชัดเจนได้ค่ะ

สรุปคือ หมอว่าลองดำเนินทางสายกลาง ช่วงนี้อาจหยุด whey protein ไปก่อน และรับประทานอาหารตามปกติ ใช้สบู่อ่อนๆ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และทำใจให้สบายก่อนค่ะ

ผมขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณหมอมากครับ

ช่วงนี้ผมอาการดีขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็มีอาการกำเริบเป็นบางวันในช่วงที่เข้าสู่ภาวะเครียด ระดับ Insulin สูงขึ้นเนื่องจากทานอาหารที่มีค่า GI สูง หรือพักผ่อนน้อยครับ

ถ้าผมเดินทางสายกลางตามคำแนะนำของคุณหมอ และควบคุมระดับ Insulin ได้ อาการทั้งหมดของผม รวมถึงต่อมไขมันจะมีแนวโน้มดีขึ้นใช่ไหมครับ

และผมได้ยินแพทย์ผิวหนังที่ผมไปรักษา Cyst แจ้งว่าอาจจะต้องจ่ายยาที่ลดการผลิต Sebum เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ผมอยากทราบว่าในระยะยาว ยาตัวนี้จะส่งผลเสียต่อระบบฮอร์โมนมากน้อยแค่ไหนครับ

ไม่แน่ใจว่าหมอเค้าหมายถึงยาอะไรค่ะ แต่ถ้าให้คาดการณ์ น่าจะเป็นยา isotretinoin ซึ่งเป็นยากลุ่มวิตามินเอ มีฤทธิ์ลดการทำงานของต่อมไขมันได้

การใช้ยานี้ สามารถใช้ในขนาดที่แตกต่างกัน แล้วแต่การตอบสนองของคนไข้แต่ละคน ข้อเสียที่อาจพบได้เช่นมี ปากแห้ง คอแห้ง ตาแห้ง ค่าการทำงานของตับที่สูงขึ้น ค่าไขมันไตรกลีเซอไรด์ที่สูงขึ้นได้ ทำให้ต้องเจาะเลือดตรวจเป็นระยะๆ แต่อย่างไรก็ตามขึ้นกับระยะเวลาและขนาดของยาที่ใช้ด้วยค่ะ และที่สำคัญห้ามใช้ในหญิงมีครรภ์ค่ะ

สำหรับในกรณีนี้ ถ้ามีแนวโน้มดีขึ้น และไม่ได้รบกวนชีวิตประจำวันแล้ว หมอว่าก็อาจยังไม่ต้องรับประทานยาก็ได้ค่ะ ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ร่วมกันด้วยค่ะ เพราะแพทย์ที่ดูแลจะเป็นคนที่เห็นลักษณะผื่น อาการของโรค

ขอบคุณ คุณหมอเปรมจิต มากเลยครับ สำหรับทุกคำตอบ และทุกคำแนะนำครับ