กระดานสุขภาพ

เวลาออกไผข้างนอกบ้านชอบปวดท้อง
Anonymous

22 พฤษภาคม 2563 07:59:52 #1

สวัสดีครับคือผมมีปัญหาคือเวลาผมออกไปข้างนอก เช่น ไปโรงเรียน ไปห้าง ไปเที่ยว มันจะชอบมีอาการปวดอุจราะอะครับเป็นแถบทุกครั้งเลยเวลาอยู่บ้านทั้งวันมันก็ไม่ปวดนะครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับผมเล่าเรื่องนี้ให้แม่ผมฟังแม่ผมบอกว่าผมโรคจิต
อายุ: 16 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.30 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พญ.กิติพร กวียานนท์

แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป

31 พฤษภาคม 2563 11:55:58 #2

โรคลำไส้แปรปรวน หรือเรียกย่อว่า โรคไอบีเอส (IBS, Irritable bowel syndrome หรือ อาจเรียกว่า Spastic colon) ได้แก่ โรคซึ่งเกิดจากการทำงานผิดปกติของลำไส้ ซึ่งก่อให้เกิดอาการ ปวดท้อง ท้องเสียสลับท้องผูก เป็นๆหายๆ โดยแพทย์มักตรวจไม่พบพยาธิสภาพ (สิ่งผิดปกติ) ของอวัยวะต่างๆในระบบทางเดินอาหาร (กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่)

ปัจจุบัน ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดโรคลำไส้แปรปรวน แต่จากการศึกษา มีได้หลายสมมุติฐาน คือ

  • - กล้ามเนื้อของอวัยวะภายใน ซึ่งรวมทั้งกล้ามเนื้อลำไส้ อาจทำงานตอบสนองต่อสิ่งกระ ตุ้น (สิ่งเร้า) ผิดปกติ โดยถ้าลำไส้ตอบสนองมากเกินไปต่ออาหาร/เครื่องดื่มที่บริโภค จะทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวเร็วขึ้น จึงเกิดท้องเสีย แต่ถ้าลำไส้เคลื่อนไหวลดลง จะเกิดท้องผูก ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้ มักมีอาการกลั้นปัสสาวะ อุจจาระไม่อยู่ร่วมด้วย จึงเป็นที่มาของสมมุติฐานว่า อาจมีการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้อของอวัยวะภายในต่างๆ
  • - เยื่อบุลำไส้ อาจตอบสนองไวต่ออาหาร/เครื่องดื่มสูงกว่าคนปกติ จากการกระตุ้นด้วยอา หาร/เครื่องดื่มบางชนิด เช่น กาเฟอีน จึงส่งผลให้เกิดท้องเสียเมื่อกิน/ดื่ม อาหารที่มีสารตัวกระ ตุ้นเหล่านี้
  • - มีตัวกระตุ้นสมองให้หลั่งสารบางชนิด เช่น ซีโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ จึงส่งผลให้เกิดอาการปวดท้อง ร่วมกับอาการท้องเสีย เช่น ปัญหาทางอา รมณ์/จิตใจ เช่น ความเครียด
  • - อาจจากร่างกายสร้างสารต้านการติดเชื้อของลำไส้ เพราะในผู้ป่วยบางราย พบเกิดโรคนี้ตามมา ภายหลังมีการอักเสบติดเชื้อของลำไส้
  • - อาจจากสมองทำงานแปรปรวน จึงส่งผลต่อการแปรปรวนของลำไส้ อาจจากการทำงาน หรือมีปริมาณแบคทีเรียประจำถิ่น (Normal flora แบคทีเรียที่มีประ จำในลำไส้ มีหน้าที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต้านทานโรค ช่วยการดูดซึมและสร้างวิตามินเกลือแร่บางชนิด) ในลำไส้ผิดปกติ

โรคลำไส้แปรปรวน เป็นโรคเรื้อรัง ดังนั้น อาการต่างๆจึงมักเป็นๆหายๆ บางครั้งอาการอาจดีขึ้น ไม่มีอาการเป็นหลายๆเดือน แล้วกลับมามีอาการใหม่อีก โดยอาการพบบ่อยของโรคลำไส้แปรปรวน ได้แก่

    • ท้องอืด ท้องเฟ้อ มีลม (แก๊ส/ก๊าซ) มากในท้อง
    • ปวดท้อง ซึ่งอาการปวดท้องจะดีขึ้นหลังขับถ่าย หลังจากนั้นก็กลับมาปวดท้องใหม่
    • ท้องผูก หรือ ท้องเสียโดยเฉพาะหลังกินอาหาร หรือเมื่อตื่นนอนต้องรีบขับถ่าย หรือ มีอาการท้องผูกสลับท้องเสียเป็นๆหายๆ บ่อยครั้งอุจจาระคล้ายมีมูกปน แต่ไม่มีเลือดปน
    • มีอาการคล้ายถ่ายอุจจาระไม่หมด/ไม่สุด
    • กลั้นอุจจาระไม่อยู่ เมื่อปวดอุจจาระต้องเข้าห้องน้ำทันที

อนึ่งอาการของโรคมักรุนแรงขึ้นเมื่อ กินอาหาร หรือ ดื่มเครื่องดื่มบางชนิด เช่น นม เครื่องดื่มกาเฟอีน (เช่น ชา กาแฟ โคลา) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช็อกโกแลต และ/หรือ ผัก ผล ไม้ บางชนิด กินอาหารแต่ละมื้อในปริมาณมาก ช่วงมีประจำเดือน และ/หรือในช่วงมีความ เครียด แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้แตกต่างกันได้ในแต่ละบุคคลซึ่งควรต้องสังเกตด้วยตนเอง

  • การดูแลตนเอง เมื่อมีอาการดังกล่าวแล้วในหัวข้อ อาการ คือ การปรึกษาแพทย์ เพราะดังกล่าวแล้วว่า เป็นอาการคล้าย โรคลำไส้อักเสบ หรือ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทั้งนี้เพื่อวินิจฉัยแยกโรคเหล่านั้น และเมื่อได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นโรคลำไส้แปรปรวน การดูแลตนเอง/การพบแพทย์ ได้แก่
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ พยาบาล
  • เข้าใจในโรค ยอมรับความจริงของชีวิต รักษาสุขภาพจิต
  • สังเกต อาหาร และเครื่องดื่มต่างๆที่กระตุ้นให้เกิดอาการหรือทำให้อาการรุนแรงขึ้น เพื่อการหลีกเลี่ยงหรือจำกัดปริมาณ
  • กินอาหารแต่ละมื้อให้น้อยลง กินอาหารที่ย่อยง่าย และรสไม่จัด
  • อาจลองกินอาหารในกลุ่ม โปรไบโอติก (Probiotic) เช่น โยเกิร์ต เพื่อปรับสมดุลของแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้
  • ดื่มน้ำสะอาดเพิ่มกว่าเดิม ประมาณอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เมื่อไม่มีโรคต้องจำ กัดน้ำดื่ม (เช่น โรคหัวใจล้มเหลว) เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียจากท้องเสีย เพื่อป้อง กันภาวะขาดน้ำ และเพื่อป้องกันท้องผูก
  • ปรึกษาแพทย์เรื่องการกินยาแก้ท้องเสียในลักษณะที่เป็นการป้องกันไว้ก่อน
  • รีบพบแพทย์ก่อนนัด เพราะแสดงว่า อาจมีโรคอื่นๆเกิดขึ้น เช่น ลำไส้อักเสบ หรือ โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เมื่อ
  • มีไข้สูง
  • อุจจาระเป็นเลือด หรือ เป็นมูกเลือด
  • ซีด
  • ปวดท้องมากผิดปกติ หรือลักษณะปวดท้องผิดไปจากที่เคยเป็น