กระดานสุขภาพ
คันทั้งตัวไม่รู้สาเหตุ | |
---|---|
20 พฤษภาคม 2560 05:56:16 #1 โดยส่วนตัวเเล้วหนูเป็นภูมิเเพ้ตั้งเเต่เด็กๆเเต่พึ่งรู้ตัวเมื่อ 3 เดือนที่เเล้วช่วงนี้คันไปทุกอย่างเลยค่ะเเต่ไม่มีผื่นเกาไปมากๆก็เจ็บคันทั้งศรีษะ เเขน ขา ท้อง หลัง เเละก็จมูก คัน มาได้เกือบอาทิตเเล้วค่ะตอนเด็กๆเคยคันข้อมือจนมีผื่น ประมาณ 1 ปีถึงหายอยากทราบว่าเป็นอะไร |
|
อายุ: 13 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 41 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.85 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
พญ.กิติพร กวียานนท์แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป |
22 พฤษภาคม 2560 08:48:00 #2 โรคภูมิแพ้คือโรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสารกระตุ้นที่ในภาวะปกติแล้วจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเช่น ไรฝุ่น ละอองเกสรพืช แต่ในโรคภูมิแพ้ร่างกายจะเกิดการตอบสนอง อย่างมากผิดปกติต่อสารเหล่านั้นจึงทำให้เกิดการอักเสบในอวัยวะที่สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้(Allergen) นั้นเช่น โรคภูมิแพ้เกิดจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม โดยพบว่าถ้าบิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้จะทำให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 30 - 50% แต่ถ้าทั้งบิดาและมารดาเป็นโรคภูมิแพ้จะมีผลให้บุตรมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้มากขึ้นถึงประมาณ 50 - 70% ในขณะที่เด็กที่มาจากครอบครัวที่ไม่มีประวัติโรคภูมิแพ้เลยมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้เพียงประมาณ 10% เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ไขปัจจัยทางพันธุกรรมได้ ดังนั้นการกำจัดและหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคืองต่างๆเช่น ควัน บุหรี่ ไรฝุ่น ในผู้ป่วยและครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้ (ซึ่งมีความเสี่ยงสูง) จะสามารถลดอาการของโรค หรือป้องกันไม่ให้เกิดโรคภูมิแพ้ขึ้นได้
สำหรับโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
ส่วนผู้ป่วยที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้มักเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุขวบปีแรก โดยประมาณ 80 - 90% ของเด็กที่เป็นโรคนี้มักมีอาการก่อนอายุ 7 ปี โดยผู้ป่วยจะมีอาการผื่นคันตามลำตัวและหน้า เป็นๆหายๆ ผิวแห้งอักเสบ และมีอาการกำเริบเป็นระยะๆเมื่อได้รับสารกระตุ้น ผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้จะมีโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะโรคหืดเมื่อเด็กโตขึ้น
การควบคุมสิ่งแวดล้อมและสารก่อภูมิแพ้ ได้มีการสำรวจผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ในประเทศไทยพบว่า มักจะแพ้ไรฝุ่นฝุ่นบ้านเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาได้แก่ แมลงสาบ ละอองเกสรพืช และขนสัตว์ ถ้าทำได้แนะนำให้ทำการทดสอบผิวหนังในผู้เป็นโรคภูมิแพ้ทุกคน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าแพ้อะไร จะได้หลีกเลี่ยงได้ถูกต้องและยังใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาทำการรักษาด้วยการฉีดวัคซีนอีกด้วย ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่ไม่ได้รับการทดสอบผิวหนัง หรือไม่สามารถทำการทดสอบได้ก็ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ซึ่งที่พบบ่อยคือ
2. แมลงสาบ
3. สัตว์เลี้ยง
4. เกสรหญ้า
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงสารระคายเคืองต่างๆที่อาจทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้แก่ ควันบุหรี่ ควันท่อไอเสีย กลิ่นฉุน น้ำหอม ควันธูป และฝุ่นละอองจากแหล่งต่างๆ การออกกำลังกายสม่ำเสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็มีความสำคัญ โดยพบว่าผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มักมีอาการแย่ลงเมื่อมีภาวะเครียดและอดนอน ดังนั้นควรดูแลสุขภาพตัวเองไม่ให้เครียดมากและควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ในกรณีมีอาการโรคหืดกำเริบจากการออกกำลังกาย การพ่นยาขยายหลอดลมก่อนการออกกำลังกาย15 - 30 นาทีจะช่วยป้องกันการหอบระหว่างออกกำลังกายได้
สิ่งสำคัญในการดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคภูมิแพ้คือหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ การใช้ยาตามแพทย์แนะนำสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายตามแพทย์แนะนำให้สม่ำเสมอ
|
Pali*****1