ถึง คุณ franky.arc.5

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ franky.arc.5 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมคะ

ในการควบคุมอาหารที่คุณหมอแนะนำให้งดน้ำอัดลมไปเลยก็เป็นการบอกให้งดน้ำตาลลงนั่นเอง ดังนั้นก็จะมีความหมายรวมไปถึงควรงดเครืองดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลไปด้วย เนื่องจากการกินน้ำตาลปริมาณ 1 ช้อนชาหรือ 5 กรัม จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงาน 20 แคลอรี่

- เครื่องดื่มชนิดแรกที่มีน้ำตาล 40 กรัม ( 8 ช้อนชา ) ถ้าดื่มก็จะได้รับพลังงาน 160 แคลอรี่

- เครื่องดื่มน้ำอัดลมทีมีน้ำตาล 26 กรัม ( 5.2 ช้อนชา ) ถ้าดื่มจะได้รับพลังงาน 104 แคลอรี่

ดังนั้นถ้างดน้ำอัดลมแต่ดื่มเป็นเครื่องดื่มชนิดอื่นแทนอาจได้พลังงานเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมได้ และจากการที่สำนักโภชนาการ กระทรวงสาธารณสุขพยายามรณรงค์ให้คนไทยไร้พุงควรจำกัดการกินน้ำตาลไม่เกินวันละ 6 ช้อนชา (30 กรัม) ต่อวัน การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอยู่แล้วในแต่ละวัน การกินอาหารนอกบ้านเป็นประจำซึ่งมีการใส่น้ำตาลปรุงรสมาให้อยู่แล้วปริมาณหนึ่งและถ้ากินขนมหวานทุกวัน เหล่านี้ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินที่ควรได้รับเป็นประจำ ร่างกายก็จะได้รับพลังงานมากเกินความจำเป็นได้ 

น้ำตาลจัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรท ร่างกายคนโดยทั่วไปควรได้รับพลังงานจากอาหารกลุ่มต่างๆ ในปริมาณอัตราส่วนที่พอเหมาะเพื่อเป็นแนวทางในการกินอาหารให้หลากหลายพอเหมาะในแต่ละวัน คือ ควรได้รับปริมาณอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรท : โปรตีน : ไขมัน = 50:20:30 [ total 100 % ] อาหารหลักคนไทยกินข้าว ก๋วยเตี่๋ยว ขนมจีน วุ้นเส้น ผลไม้ ขนม ก็เป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรทแล้วทั้งสิ้น ถ้ามีการกินน้ำตาลจากเครื่องดื่มอีกปริมาณสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรทในแต่ละวันก็อาจเกิน 50% และนั่นก็จะเป็นที่มาของกลุ่มโรคที่ไม่ติดต่อเรื้่อรังก็เป็นได้

การอ่านฉลากอาหารเพื่อดูปริมาณน้ำตาล พลังงานที่มีอยู่ในอาหารแต่ละชนิดก่อนซื้อกินนับเป็นแนวทางที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพควรปฏิบัติต่อเนื่องและอย่าลืมชักชวนคนรอบข้างด้วย ดังนั้นที่คุณหมอแนะนำให้งดน้ำอัดลมจะหมายความรวมไปถึงน้ำหวานที่มีน้ำตาลทุกชนิดก็ควรงดด้วยค่ะ และจะให้ดียิ่งขึ้นก็ควรจำกัดน้ำผลไม้ ขนม ของหวานไปด้วยเพราะทุกอย่างล้วนเป็นอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรททั้งสิ้น