กระดานสุขภาพ

ต้อหิน
Sapi*****n

30 ตุลาคม 2561 08:03:35 #1

เรียนคุณหมอ ดิฉันมีเรื่องต้อหิน จะขอคำปรึกษาดังนี้คะ

ข้อมูล

1.ยิงเลเซอร์กันต้อหิน เมื่อปี 2551

2.หยอดยา TAFLOTAN ก่อนนอนทั้งสองข้าง เมื่อปี 2556 เรื่อยมา

3.มกราคม 2561 เปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมข้างขวา และหมอยิงเลเซอร์ทันทีหลังจากเปลี่ยนเลนส์ ยังคงหยอดยา     TAFLOTAN ทั้งสองข้าง ปรากฏว่าเคืองตา แสบแห้งมากผิดปกติมีเมือกเหนียวในตาทั้งสองข้าง แต่ข้างขวามี       อาการมากกว่าข้างซ้ายเยอะ 

4.หมอให้ลองหยุดหยอดตาตั้งแต่เมษา 61 ถึง 15 พฤษภาคม 61 ปรากฏว่าความดันตาข้างซ้ายขึ้น 18 แต่ข้างขวา     11 หมอให้หยุดหยอดยา TAFLOTAN แล้วให้หยอดยา GANFORT เฉพาะตาซ้ายข้างเดียว ตาซ้ายความดันลด     ลง เหลือประมาณ 11-12 ตาขวาอยู่ระหว่าง 8-10

5.เพิ่งทราบตอนหลังว่ายาหยอดต้อหินใช้หลังการเลเซอร์แล้วจะมีปัญหา ความแห้งของตามากเกินปกติจนทนไม่ได้     (หลังหยุดหยอดยา ข้างขวาก็ค่อยๆหายระคายเคือง แต่ยังไม่สบายตาสักที

คำถาม

1.ถ้าเป็นต้อหินสองข้างหยอดยาข้างเดียว ได้หรือไม่

2.หากวันหนึ่งตาขวาเกิดความดันสูงอีก ต้องกลับมาหยอดยาก็ต้องทนกับความทุกข์ทรมานอย่างนั้นอีกหรือ หรือมี     ทางแก้ไขอย่างไร

3.ความดันตาทั้งสองข้าง ถ้าคุมอยู่ที่เท่าไรจึงถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับคนเป็นต้อหิน ถ้าต่ำเกินไป (ต่ำเท่าไร) จะ     เป็นอันตรายหรือไม่

4.คนเป็นต้อหินอย่างไรก็ต้องตาบอดใช่หรือไม่ ยกเว้นจะเสียชีวิตก่อน

5.ตาข้างขวา รู้สึกปวดบ้างเป็นครั้งคราวและตึงตึง เกิดจากการเลเซอร์ใช่หรือไม่ และจะหายได้หรือไม่

6.ตาแห้งผิดปกติสามารถกลับมาเป็นตาแห้งตามวัยเหมือนเดิมได้หรือไม่ ใช้ระยะเวลาเท่าไร

ขอบพระคุณคะ

สุนิสา

 

อายุ: 61 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 43 กก. ส่วนสูง: 153ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.37 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา)

31 ตุลาคม 2561 06:58:39 #2

ขอตอบคำถามกว้างๆดังนี้

1ต้อหินเป็นโรคที่มักเป็นสองข้าง แต่ความมากน้อยหรือรุนแรงอาจไม่เท่ากัน ต้องรักษาทั้งสองข้าง ในกรณีของคุณ เป็นต้อหินที่ผ่านการรักษาทั้งจากยา เลเซอร์ ซึ่งอาจได้ผลดีข้างหนึ่ง อีกข้างยังได้ผลไม่เต็มที่ จึงเหลือหยอดข้างเดียว

2 ยารักษาต้อหินแทบจะทุกตัวมีผลข้างเคียงมากบ้าง น้อยบ้างทั้งนั้น ในรายละเอียด คนไหนควรใช้ยาตัวไหนต้องสอบถามหมอที่ตรวจดูนะคะ

เท่าที่วิเคราะห์ดู กรณีของคุณอาจจะเป็นผลจากผลข้างเคียงของยากันเสีย(preservative)ซึ่งมีอยู่ในยาหยอดตาที่เป็นขวด(ใช้ได้หลายครั้งหรือ multi dose)รายละเอียดสอบถามหมอที่ตรวจนะคะ

ทั้งtaflotan และ Gangforte ที่คุณใช้มีทั้งแบบใช้ได้multidose และunit doseคือใช้วันต่อวันซึ่งไม่มีpreservative ไม่ทราบว่าที่ใช้อยู่เป็นแบบใด

3 คำถามนี้อยากให้ย้อนไปอ่านบทความในwebนี้ในหัวข้อ ความดันตาที่ เหมาะสม(target IOP)นะคะ

4 อาจเป็นคำพูดที่ถูกต้องที่ว่า ต้อหินเป็นโรคที่ทำให้ตาค่อยๆบอด หากไม่รับการรักษา สายตาที่เสียไปแล้ว เสียเลย ไม่กลับคืน หากตรวจพบว่าเป็นจนตาเห็นน้อยก็จะเห็นแค่นั้นถ้าได้รับการรักษา ถ้าไม่รับการรักษา ตาจะมัวลงอย่างช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับประสาทตาที่เหลือค่ะ

5 ไม่น่าจะเกี่ยวกับการยิงเลเซอร์ แต่จะเพราะอะไรคงต้องตรวจตาดูอย่างละเอียดค่ะ

6คงต้องตรวจดูว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้คุณมีอาการตาแห้ง และให้การแก้ไข ถ้าแก้ได้ก็น่าจะกลับมาใกล้เคียงกับคนทั่วไปนะคะ

มีหลายๆคำถามที่ควรตอบโดยหมอที่ตรวจจะได้แน่นอนกว่า ลองสอบถามหมอดูด้วยนะคะ


พญ. สกาวรัตน์

Sapi*****n

8 พฤศจิกายน 2561 07:47:39 #3

รบกวนถามต่ออีก 1 ข้อนะคะ หากคนเป็นต้อหินแล้วต้องควบคุมความดันตาให้ต่ำกว่าคนปกติใช่ไหมคะคือทั้งสองข้างต้องต่ำกว่า 10 ถึงจะปลอดภัยหรือเปล่าคะขอบคุณค่ะ
Sapi*****n

8 พฤศจิกายน 2561 07:50:12 #4

ขอเพิ่มอีกข้อค่ะ ถ้าความดันต่ำเกินไป อันตรายไหมคะ ต่ำแค่ไหน
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. สกาวรัตน์ คุณาวิศรุต

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุวิทยา)

9 พฤศจิกายน 2561 16:30:39 #5

หากเป็นต้อหิน ต้องควบคุมความดันตาให้อยู่ในระดับที่จะไม่มีการทำลายเส้นประสาทตาเพิ่มเติมอีกถึงจะทำให้สายตาไม่ลดลง. ความดันตาที่เหมาะสมในแต่ละคนแตกต่างกัน แต่มีหลักที่ว่า ถ้าเส้นประสาทตาเสียไม่มากคือเหลือดีอยู่มาก ต้องการความดันที่ต่ำลงไม่มาก เช่น17-18ก็ยังได้ แต่ถ้าเส้นประสาทตาเหลือปานกลางควรลดความดันให้ต่ำลงมาอาจเป็น 14-15 แต่ถ้าประสาทตาเหลือน้อยซึ่งมักจะเห็นน้อยหรือแคบลงมากควรให้ความดันตาเป็น11-12เป็นต้น

ปกติ ยาลดความดันตามักจะลดความดันตาได้ระดับหนึ่ง มักจะไม่ต่ำมาก ถ้าต้องให้ความดันต่ำมากอาจต้องใช้วิธีผ่าตัดช่วย

สำหรับผป ต้อหิน ความดันตาต่ำดีกว่าสูงค่ะ

พญ. สกาวรัตน์