26 พฤษภาคม 2556 18:04:41 #1

สวัสดีค่ะ

ดิฉันมีอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศ ใส่ส้นสูงแต่สูงไม่มาก ไม่เกิน 2 นิ้ว ในวันหนึ่งๆ ต้องเดินเยอะมาก

และเวลาเลิกงานกลับที่พัก ต้องยืนในรถไฟฟ้าและรถเมล์นานมาก (สาเหตุเพราะรถติดและระยะทางไกลพอสมควร)

แต่ละวันต้องยืนไม่ต่ำกว่า 2 ชม. เป็นอย่างนี้ติดต่อกันหลายเดือน

วันหนึ่ง ดิฉันตื่นมา รู้สึกเหมือนไม่มีเท้าข้างซ้าย (คือเหมือนอาการชาจนไม่รู้สึก) แต่ดิฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร รีบลุกไป

อาบน้ำเพื่อจะไปทำงานตามปกติ พอก้าวเท้าลงจากเตียง ก็ล้มลงไปกองเลย(เหมือนเอาเก้าอี้สามขา ไปตั้งบนพื้น)

รู้สึกปวดเท้ามากๆ แต่ก็คิดว่าคงเท้าแพลงธรรมดา ตอนนั้นรู้สึกว่าเท้าบวมนิดหน่อย ก็เลยเขย่งลุกไปจะอาบน้ำต่อ ระยะ

ทางไม่ไกล แต่ยิ่งปวดมากขึ้นๆ จนร้องไห้ ทนไม่ไหวเลยค่ะ พอก้มลงดู เท้าบวมมาก (เท้านะคะ ไม่ใช่ตรงข้อเท้า)

ก็คิดว่าคงเดินไม่ไหว ก็เลยตัดสินใจไปโรงพยาบาล

คุณหมอให้เอ็กซเรย์ และบอกว่าตำแหน่งที่เป็นไม่ใช่ข้อเท้า แต่เป็นตำแหน่งหลังเท้า ติดกับกระดูก ผลเอ็กซเรย์คือ

กระดูกไม่หัก แต่เอ็นฉีก แล้วก็พบว่าเป็นคนที่มีกระดูกที่ตาตุ่มเกินมา 1 ชิ้น เป็นมาแต่กำเนิด (อันนี้ก็เคยคิด เพราะดิฉัน

กับแม่เคยสังเกตว่าทำไมของดิฉันมีไม่เหมือนกันกับของแม่ อีกอย่างหนึ่งดิฉันเป็นคนเดินเท้าฉีกไปข้างๆ นิดหน่อยค่ะ

เป็นมาตั้งแต่เด็กเลย พยายามเดินให้ตรงเพราะจะเสียบุคลิก ก็เลยปวดบริเวณเท้าบ่อยครั้ง)

คุณหมอให้พักไปก่อน 1 อาทิตย์ และใส่เฝือกอ่อน ให้ยาดังนี้

 -Reparil 20mg 10 เม็ด

 -Arcoxia 90mg 5 เม็ด

 -MyoNal 50mg 10 เม็ด

ครบ 1 อาทิตย์แล้วนัดมาดูอาการอีกที

ผ่านไป 1 อาทิตย์ อาการบวมตรงจุดที่ปวดหายไปมาก อาการเจ็บลดน้อยลง

ก่อนหน้านี้คุณหมอสั่งไม่ให้เดินเยอะ แต่เนื่องจากดิฉันตัวคนเดียวเป็นนักศึกษาจบใหม่มาทำงานในกรุงเทพ มีเพียงแค่

เพื่อนที่สามารถมาดูแลซื้อข้าวน้ำให้ แต่ไม่สามารถมาอยู่ด้วยได้ตลอด ดิฉันจำจำเป็นต้องเดินในห้อง ทำธุระแต่ละวัน

อย่างเลี่ยงไม่ได้

ไปหาหมอตามนัดอีกครั้งคุณหมอลดยา เหลือแค่ตัว Arcoxia แก้ปวด+ลดการอักเสบ 7 เม็ด, สเปรย์พ่น

และให้พักอีก 1 อาทิตย์

และคุณหมอบอกว่า ยังไปทำงานไม่ได้เพราะหลีกเลี่ยงการยืนบนรถเมล์ไม่ได้ แม้ว่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้วก็ตาม เพราะ

การยืนบนรถเมล์นานๆหลายชั่วโมงจะทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงที่เท้า

ผ่านไป 2 วัน อาการบวมลดลง แต่กลับไม่ดีขึ้น รู้สึกปวดมากขึ้นกว่าครั้งแรกที่รักษา

ตอนนี้ครบอีก 1 อาทิตย์แล้ว พบว่าผิวหนังบริเวณที่ปวด เหี่ยวและแห้งมาก สีซีด มีอาการทั้งปวด เสียว และเหมือนชาด้วย

ดิฉันมีคำถามจะถามคุณหมอดังนี้ค่ะ

1. อาการแรกที่ดิฉันตื่นนอนมาแล้วรู้สึกเหมือนไม่มีเท้านั้น เป็นอาการที่น่าจะเกิดจากการยืนบนรถเมล์นานๆเป็นประจำหรือเปล่าคะ

2. จะมีโอกาสเป็นพังผืดไหมคะ

3. ดิฉันควรพักอย่างน้อยกี่สัปดาห์คะ และเมื่อดีขึ้น ควรทำกายภาพบำบัดไหมคะ

4. หรือคุณหมอคิดว่าดิฉันควรทำอย่างไร ถึงจะดีขึ้นคะ ดิฉันควรจะกลับต่างจังหวัดเพื่อให้มีคนดูแลใกล้ชิด จะได้ไม่ต้องเคลื่อนไหวมากไหมคะ อยากรักษาให้เป็นกิจลักษณะกว่านี้ เพราะคิดว่าถ้ายังต้องเดินอย่างนี้ คงหายช้าแน่นอน ลางานมา 2 อาทิตย์แล้วค่ะ

(ปล.ไม่ทราบว่าดิฉันเล่ายาวไปหรือเปล่า แต่เห็นว่ามันมีอาการเท้าชามาตั้งแต่ต้น ก็เลยเล่าให้ละเอียดถี่ยิบไปเลยดีกว่า 55 ขอโทษจริงๆนะคะที่เล่ายาว)

ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ

30 พฤษภาคม 2556 05:44:37 #2

7 มิถุนายน 2556 11:09:48 #3