กระดานสุขภาพ
อาการเจ็บขาเรื้อรัง | |
---|---|
12 พฤษภาคม 2556 01:30:52 #1 ปัจจุบันอยู่ที่ญี่ปุ่น ตรวจ MRI ก็ตรวจที่ญี่ปุ่นค่ะ แล้วตัวเองทราบว่าเป็นโรคผนังหัวใจหนาเมื่อปีที่แล้วค่ะ คุณหมอบอกว่า ถ้าจะผ่าตัดที่ญี่ปุ่น จำเป็นต้องตรวจโรคหัวใจอย่างละเอียดก่อนด้วยค่ะ คุณหมอเลยแนะนำให้ไปผ่าที่เมืองไทยกับโรงพยาบาลที่ตรวจเจอโรคหัวใจดีกว่า เพราะเค้าจะได้ทราบอาการโรคหัวใจของเรา ปัญหาคือ จากที่ฟังคุณหมอญี่ปุ่นวินิจฉัยโรคแล้ว เค้าก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่ที่เค้าคิดจริงๆหรือไม่ ด้งนั้นแล้วจึงอยากปรึกษาค่ะ ช่วยดูอาการขา ว่าจริงๆ แล้วเป็นอะไรกันแน่ จำเป็นต้องถึงขนาดผ่าตัดเลยหรอคะ รบกวนคุณหมอด้วยค่ะ รายละเอียดอาการอย่างละเอียดดังนี้ค่ะ จุดเริ่มต้นที่คิดว่าเป็นสาเหตุ เริ่มจากประมาณ 5 ปีที่แล้ว ตอนออกกำลังการ Body Combat ช่วงที่มีการกระโดดๆ แล้วก็เกิดเจ็บที่หัวเข้าขึ้นมา ตอนนั้นคิดว่าไม่นานคงหาย ซึ่งปกติ 2-3 ก็หายแล้ว แต่กว่าจะหายเจ็บได้ต้องใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นขาก็ไม่มีเจ็บ ไม่มีปัญหาอะไร แต่มาอยู่วันหนึ่ง ใส่รองส้นสูง ที่ส้นข้างด้านขวา(ข้างเดียวกับขาที่เจ็บ) หายไป เหลือแต่แท่งเหล็กที่ติดอยู่ในส้น เวลาเดินจะรู้สึกจะไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่ เหมือนต้องเกร็งๆนิดหน่อยเวลาเดิน ระหว่างที่เดินอยู่ จู่ๆ ก็เกิดอาการเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่กลางใต้เท้าเลย แล้วก็เจ็บมาถึงหัวเข่า เจ็บแบบว่าไม่สามารถลงน้ำหนักเวลาเดินได้เลย ไปหาหมอค่ะ ได้ยามาทาน เจ็บอยู่ประมาณปีเต็มๆค่ะ ถึงดีขึ้นแล้วก็เริ่มใช้ขาได้ปกติ ต่อมาประมาณ 2 ปีที่แล้ว ไปเล่นเทนนิสค่ะ ตอนวิ่งรับลูก รู้สึกเหมือนตัวเราวิ่งแต่ขาเรายังวิ่งไม่ทัน เลยเกิดเหมือนพลิกที่ขา แต่ตัวไม่ล้มน๊ะคะ เจ็บอยู่เป็นอาทิตย์ก็หายค่ะ หลังจากนั้น เวลาเดินปกติไม่เจ็บ แต่ถ้าเดินผิดจังหวะ หรือ เดินเร็วๆ จะเป็นเหมือนขาล็อก ความรู้สึกเหมือนเส้นในขาตึงๆเลยล็อกแล้วก็เจ็บ แล้วเหมือนจะล้ม ถ้ามีอาการ ต้องหยุดเดินสักครู่ แล้วค่อยประคองขาให้เข้าที่แล้วค่อยเดินต่อได้ เวลาออกกำลังกายตอนยืดกล้ามเนี้อขา ตอนนอนยืดขาตรงๆขึ้นไปด้านบน จะรู้สึกเส้นที่ขาเคลื่อนกระตุก วิ่งไม่ค่อยได้ แต่ก็ใช้ชีวิตประจำวันได้ ออกกำลังกายได้(ที่ไม่ต้องทิ้งน้ำหนักที่เข่าได้ แต่วิ่งยังไม่ได้ค่ะ) ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ อาการเจ็บขาที่เกิดปัจจุบันล่าสุด ประมาณเดือนที่แล้ว ตอนออกกำลัง Body Pump ในท่่ายกนำ้หนักแล้วย่อเข่าลง ตอนย่อเกิดเหมือนเข่าหักพับ (ที่ขาด้านขวาด้านเดิมค่ะ) เลยเจ็บค่ะ หลังเกิดอาการใช้น้ำแข็งประคบ หลังจากนั้นสองสามวันเดินกระเผกแล้ว แต่ยังเจ็บอยู่ เวลาลองย่อเข่าดู เกิดเสียงดังเหมือนกระดูกกระทบกันดังออกมาค่ะ เจ็บนิดหน่อย หลังจากนั้นเลยลองซื้อที่รัดเข่ามาใส่ดู คิดว่าอาจช่วยให้เข่าเราไม่เคลื่อน แล้วจะได้ออกกำลังกายได้ต่อ แต่หลังจากลองใส่ดู วันรุ่งขึ้นรู้สึกเจ็บยิ่งขึ้นค่ะ รู้สึกเป็นอาการเจ็บที่เส้นด้านในขา เดินลงบันไดไม่ค่อยได้ ต้องลงขาอีกด้านก่อน ถ้าพยายามเดินลงทั้งสองขาสลับกัน ขาด้านขวาจะเกินเหมือนเข่ามีอาการหักพับค่ะ ทำให้เจ็บ เลยต้องเลี่ยงจะเดินงอเข่าลงด้วยขาขวาเลยไปหาหมอคลินิกแถวบ้านค่ะ แต่เค้าตรวจว่ามีปัญหาที่หัวเข่า ตรงกระดูกอ่อน ให้ยามาทา คลึงด้วยความร้อน อาการเจ็บดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ แต่เริ่มรู้สึกเหมือนเข่าแน่นๆ ตึงๆ และยังมีอาการเจ็บอยู่ เลยไปหมอที่โรงพยาบาลที่ใหญ่กว่าค่ะ ปรากฎว่า คุณหมอบอกว่ามีน้ำที่หัวเข่า เลยดูดออกให้ออกมาได้ 16 c.c. ตรวจ x-ray กระดูกไม่มีปัญหาค่ะ หลังจากดูดน้ำออกไป เดินสะดวกขึ้น แต่ยังมีอาการเจ็บอยู่ มีอาการแบบเดิม คือ เป็นเหมือนขาล็อก ความรู้สึกเหมือนเส้นในขาตึงๆเลยล็อกแล้วก็เจ็บ แล้วเหมือนจะล้ม ถ้ามีอาการ ต้องหยุดเดินสักครู่ แล้วค่อยประคองขาให้เข้าที่แล้วค่อยเดินต่อได้ ออกกำลังกายยังไม่ค่อยได้ เลยตรวจ MRI ต่อค่ะ หลังจากตรวจ MRI ดูจากผลคุณหมอสันนิฐานว่าเป็น Lateral Meniscus Tears บอกว่าต้องผ่าตัดรักษาค่ะ สรุปอาการเจ็บขา เดินปกติไม่เป็นไร แต่ถ้าเดินผิดจังหวะ หรือ เดินเร็วๆ จะเป็นเหมือนขาล็อก ความรู้สึกเหมือนเส้นในขาตึงๆเลยล็อกแล้วก็เจ็บ แล้วเหมือนจะล้ม ระหว่างเมื่อมีอาการ ต้องหยุดเดินสักครู่ แล้วค่อยไดประคองขาให้เข้าที่แล้วค่อยเดินต่อได้ เวลาออกกำลังกายตอนยืดกล้ามเนี้อขา ตอนนอนยืดขาตรงๆขึ้นไปด้านบน จะรู้สึกเส้นที่ขาเคลื่อนกระตุก อาการอื่น -เวลาเดินลงเนิน ขาด้านที่เจ็บ รู้สึกงอขาไม่ค่อยได้ รู้สึกตึกที่เข่าด้านหลัง -เจ็บที่เข่าด้านหลังเวลาขอขาลง -หลังจากนั่งนานๆ แล้วเริ่มเดิน จะรู้สึกเจ็บตึงๆที่ขา -บางทีเจ็บที่หัวเข่าด้านหน้าด้วย
|
|
อายุ: 29 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 153ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.80 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.กรกฎ ชรากรศัลยแพทย์โรคกระดูกและข้อ |
30 พฤษภาคม 2556 04:50:10 #2 อาการของคุณ มีความเป็นไปได้ว่าหมอนรองกระดูกอาจจะฉีกจริง ทำให้เกิดการล็อคของหัวเข่า เมื่อไปม่ได้ใช้งานนานทำให้กล้ามเนื้อต้นขาลีบเล็กลง ทำให้เจ็บเข่าด้านหน้า ซึ่งน่าจะมีสาเหตุจากลูกสะบ้า เมื่อเวลาผ่านไป กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังต้องทำงานหนักขึ้น จึงทำให้เจ็บเวลางอเข่า การรักษา ถ้าอาการล็อคยังมีอยู่ ผ่าตัดน่าจะช่วยได้ แต่จะไม่ช่วยที่เจ็บหน้าและหลังหัวเข่า ซึ่งน่าจะเกิดจากกล้ามเนื้อขาไม่มีแรงครับ |
Kull*****j