ไพโรซิแคม (Piroxicam)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 19 สิงหาคม 2564
- Tweet
- บทนำ : คือยาอะไร?
- ยาไพโรซิแคมมีสรรพคุณรักษาโรคอะไร?
- ยาไพโรซิแคมออกฤทธิ์อย่างไร?
- ยาไพโรซิแคมมีรูปแบบจัดจำหน่ายอย่างไร?
- ยาไพโรซิแคมมีขนาดรับประทานอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
- ยาไพโรซิแคมมีผลไม่พึงประสงค์ไหม?
- ยาไพโรซิแคมมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นไหม?
- มีข้อควรระวังในการใช้ยาไพโรซิแคมไหม?
- ควรเก็บรักษายาไพโรซิแคมอย่างไร?
- ยาไพโรซิแคมมีชื่ออื่นๆไหม? ผลิตโดยบริษัทอะไรบ้าง?
- ยา (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- ยาแก้ปวด (Analgesics and Paracetamol)
- โรคเกาต์ (Gout)
- โรคข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
- โรคข้อ (Joint disease)
- ยาฆ่าเชื้อ (Antimicrobial drug) ยาแก้อักเสบ (Anti inflammatory drug)
บทนำ : คือยาอะไร?
ยาไพโรซิแคม (Piroxicam) คือ ยาแก้ปวดในกลุ่มจำพวกยาเอ็นเสด (NSAIDs, Non- steroidal anti inflammatory drug) ซึ่งเป็นยาต้านการอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์
ยาไพโรซิแคมมีสรรพคุณรักษาโรคอะไร?
ยาไพโรซิแคมมีสรรพคุณรักษาโรค/ข้อบ่งใช้:
- ใช้บรรเทาอาการปวดจาก
- โรคเกาต์ (Gout)
- โรคข้อรูมาตอยด์ (Rheumatoid arthritis)
- อาการปวดแผลหลังผ่าตัด
- ช่วยลดการปวดข้อซึ่งไม่ทราบสาเหตุในเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก)
ยาไพโรซิแคมออกฤทธิ์อย่างไร?
กลไกการออกฤทธิ์ของยาไพโรซิแคม คือ ยับยั้งการสร้างสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ในร่างกายซึ่งเป็นตัวชักนำให้เกิดการอักเสบและการเจ็บปวดตามมา
ยาไพโรซิแคมมีรูปแบบจัดจำหน่ายอย่างไร?
รูปแบบการจัดจำหน่ายของยาไพโรซิแคม: เช่น
- ยาแคปซูล ขนาด 10 และ 20 มิลลิกรัม
- ยาเจล 0.5% ขนาด 10 และ 25 กรัม
ยาไพโรซิแคมมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาไพโรซิแคมมีขนาดรับประทาน: เช่น
ยาไพโรซิแคมสำหรับผู้ใหญ่ : เช่น ขนาดสูงสุดที่รับประทานไม่ควรเกิน 40 มิลลิกรัม/วัน ควรรับประทานพร้อมหรือหลังอาหารทันทีเพื่อลดการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร
ยาไพโรซิแคมจัดเป็นยาอันตรายและมีผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา(ผลข้างเคียง/ อาการข้างเคียง)สูง จึงไม่ควรซื้อยากินเอง ขนาดของยาที่รับประทานควรได้รับคำแนะนำการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ
อนึ่ง:
- ขนาดยานี้ในเด็ก(นิยามคำว่าเด็ก) จะขึ้นกับอายุและน้ำหนักตัวของเด็ก ดังนั้นการใช้ยานี้ในเด็กจึงต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์เท่านั้น
*****หมายเหตุ: ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมทั้งยาไพโรซิแคม ผู้ป่วยควรแจ้ง แพทย์ พยาบาล เภสัชกร เช่น
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด และอาการจากการแพ้ยา เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือ แน่น/หายใจติดขัด/หายใจลำบาก/ หอบเหนื่อย
- โรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้ง กำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ฯลฯ เพราะยาไพโรซิแคม อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อนแล้ว
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์/มีครรภ์หรือไม่ หรือกำลังให้นมบุตรหรือไม่ เพราะยาต่างๆมักผ่านรก หรือผ่านเข้าสู่น้ำนมและเข้าสู่ทารกก่อผลข้างเคียงต่อทารกได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาไพโรซิแคม สามารถรับประทานยาเมื่อนึกขึ้นได้ หากการลืมทานยา ใกล้กับมื้อถัดไปให้รับประทานขนาดปกติโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
ยาไพโรซิแคมมีผลไม่พึงประสงค์ไหม?
ผล/อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ของยาไพโรซิแคม เช่น
- ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้
- อาจเกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร(เลือดออกในทางเดินอาหาร)
- อาจทำให้เกล็ดเลือดต่ำ จึงทำให้เลือดออกง่ายและหยุดยาก
- อาจปวดหัว
- ง่วงนอน
- เห็นภาพไม่ชัด
- หูอื้อ
- ผื่นคัน
- ผื่นแพ้แสง/ ผื่นแพ้แสงแดดง่าย
ยาไพโรซิแคมมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นไหม?
ปฏิกิริยาระหว่างยา ไพโรซิแคมกับยาตัวอื่น เช่น
- การกินยาไพโรซิแคม ร่วมกับ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ จะเพิ่มความเสี่ยงมีเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้ (เลือดออกในทางเดินอาหาร)
- การกินยาไพโรซิแคม ร่วมกับ ยาลดความดัน จะทำให้ประสิทธิภาพการลดความดันโลหิตลดลง และอาจก่อให้เกิดภาวะไตวาย กลุ่มยาลดความดันฯ เช่นยา อะลาซีพริล (Alacepril), อัลพรีโนลอล (Alprenolol), อะทีโนลอล (Atenolol), โปรปาโนลอล (Propanolol), เมโทรโปลอล (Metropolol), แคนดีซาร์แทน (Candesartan), โลซาร์แทน (Losartan), โอลมีซาร์แทน (Olmesartan)
- การกินยาไพโรซิแคม ร่วมกับ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดจะเสริมฤทธิ์กัน และก่อให้เกิดภาวะเลือดออกในกระเพาะอาหารได้ง่าย กลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่นยา อะซีโนคูมารอล (Acenocoumarol) และ วอร์ฟาริน (Warfarin sodium)
- การกินยาไพโรซิแคม ร่วมกับ ยาจิตเวช อาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา ทางจิตเวชเพิ่มขึ้น เช่น ยาลิเทียม (Lithium Sulphate) เป็นต้น
มีข้อควรระวังในการใช้ยาไพโรซิแคมไหม?
ข้อควรระวังการใช้ยาไพโรซิแคม เช่น
- ห้ามใช้ในผู้แพ้ยานี้
- ควรระวังการใช้ยานี้ใน ผู้สูงอายุ และในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในสภาวะติดเชื้อ หอบหืด ภูมิแพ้ โรคเลือด โรคไต โรคตับ เพราะอาจเพิ่มอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยานี้ให้สูงขึ้น
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมถึงยาไพโรซิแคม) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ควรเก็บรักษายาไพโรซิแคมอย่างไร?
ยาไพโรซิแคมควรเก็บรักษา เช่น
- เก็บยาในที่มิดชิด พ้นแสง/แสงแดดและความชื้น
- ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น
- ไม่เก็บยาในห้องน้ำ หรือในรถยนต์
- ควรต้องเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ยาไพโรซิแคมมีชื่ออื่นๆไหม? ผลิตโดยบริษัทอะไรบ้าง?
ชื่อทางการค้า และบริษัทผู้ผลิตยาไพโรซิแคม เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Butacinon Fort (บิวตาซินอน) | TP Drug |
Dexalin (เดซาลิน) | General Drug House |
Flamic (ฟลามิค) | Siam Bheasach |
Roxycan (โรซีแคน) | T Man Pharma |