โรคหัวใจ: โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease)
- โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
- 6 กุมภาพันธ์ 2562
- Tweet
- บทนำ
- โรคหลอดเลือดหัวใจเกิดได้อย่างไร?
- โรคหลอดเลือดหัวใจมีปัจจัยเสี่ยงไหม?
- โรคหลอดเลือดหัวใจมีอาการอย่างไร?
- แพทย์วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร?
- รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร?
- โรคหลอดเลือดหัวใจรุนแรงไหม? รักษาหายไหม?
- ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเป็นโรคหัวใจ?เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด? เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ฉุกเฉิน?
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ไหม?
- ควรพบแพทย์ตรวจโรคหัวใจเมื่อไร?
- บรรณานุกรม
- โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis)
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction)
- โรคหัวใจ: หัวใจวายจากโรคหลอดเลือดหัวใจ (Heart disease: Heart failure from coronary artery disease)
- ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหัวใจวาย (Heart failure)
- โรคไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
- เจ็บหน้าอกจากหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาการปวดเค้นหัวใจ (Angina Pectoris)
- อาหารป้องกันโรคหัวใจ (Healthy heart diet)
- ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
บทนำ
โรคหัวใจ (Heart disease) หรือโรคที่เกิดกับหัวใจ ซึ่งมีได้หลายโรค แต่ที่พบบ่อยที่สุดเป็นปัญหาทางสาธารณสุขและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้สูงติด 1 ใน 4 ของสาเหตุการเสียชีวิตของประชาชนเกือบทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทยคือ โรคหัวใจที่เกิดจากโรคของหลอดเลือดหัวใจหรือ ที่เรียกว่า ‘โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease ย่อว่า CAD หรือ Coronary heart disease ย่อว่า CHD)’ ซึ่งโดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึง ‘โรคหัวใจ’ มักหมายถึงโรคนี้ ดังนั้นบทความนี้จึงกล่าวถึง โรคหัวใจเฉพาะเกิดจากสาเหตุนี้เท่านั้น ซึ่งคือ ‘โรคหลอดเลือดหัวใจ’
โรคหลอดเลือดหัวใจ คือ โรคเกิดจากหลอดเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจซึ่งมีชื่อเรียกว่า ‘Coronary artery’ ตีบแคบเล็กลงหรือตีบตัน จึงส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจจึงทำงานผิดปกติส่งผลถึงอวัยวะต่างๆขาดเลือดไปด้วย จึงเกิดมีอาการต่างๆได้มากมาย
โรคหลอดเลือดหัวใจเป็นโรคของผู้ใหญ่ตั้งแต่วัยหนุ่มสาวไปจนถึงในผู้สูงอายุ โดยพบได้สูงตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไป ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ พบโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ชายได้สูงกว่าในผู้หญิง แต่หลังจากวัยหมดประจำเดือนถาวรแล้ว ทั้งผู้หญิงมีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้เช่นเดียวกับผู้ชาย
โรคหลอดเลือดหัวใจเกิดได้อย่างไร?
สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจคือ การมีไขมันจับที่ผนังของหลอดเลือดหัวใจที่เรียกว่า ‘พลาค (Plaque)’ จึงส่งผลให้ผนังหลอดเลือดแข็งหนา (หลอดเลือดแดงแข็ง) ช่องในหลอดเลือดจึงตีบแคบลง
และเมื่อพลาคนี้ก่อให้เกิดการอักเสบของผนังหลอดเลือด หรือผนังหลอดเลือดบาดเจ็บเสียหาย ร่างกายจะซ่อมแซมผนังฯส่วนเสียหายโดยการจับตัวเป็นก้อนของเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาว จึงยิ่งส่งผลให้ช่องในหลอดเลือดตีบแคบลงอีก เลือดจึงหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจลดลงอีก จนเกิดเป็น ‘โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด’
และบ่อยครั้งการซ่อมแซมจากร่างกายนี้ ก่อให้หลอดเลือดหัวใจถึงอุดตัน จึงส่งผลให้เกิด ’โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย’ ซึ่งอาจเกิดได้อย่างเฉียบพลัน และเมื่อรุนแรงจะเป็นสาเหตุให้หัวใจหยุดทำงานทันที จึงเสียชีวิตได้ทันทีกะทันหัน
นอกจากนั้น หลอดเลือดหัวใจ ยังสามารถบีบหดตัวได้ ดังนั้นเมื่อมีการหดตัวของหลอดเลือดฯ จึงส่งผลให้รูท่อหลอดเลือดฯตีบแคบลง จึงเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดได้ เช่น จากภาวะมีความเครียดสูง เป็นต้น
โรคหลอดเลือดหัวใจมีปัจจัยเสี่ยงไหม?
ปัจจัยเสี่ยงหรือกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้แก่
ก.ปัจจัยที่สามารถป้องกัน/ควบคุมได้: ที่สำคัญ คือ
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคเบาหวาน เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงให้หลอดเลือดอักเสบ
- โรคความดันโลหิตสูงจากผนังหลอดเลือดแข็งตัว (หลอดเลือดแดงแข็ง) และมักเกิดร่วมกับโรคเรื้อรังอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน และโรคไขมันในเลือดสูง
- สูบบุหรี่ เพราะสารพิษในควันบุหรี่ทำลายเซลล์ของหลอดเลือดโดยตรง ก่อให้หลอดเลือดแข็งและยังทำลายเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจโดยตรงด้วย
- อ้วน เพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคไขมันในเลือดสูง
- ขาดการออกกำลังกาย เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคอ้วน
- กินอาหารไม่มีประโยชน์และกินอาหารไขมันสูง จึงมีผลต่อสุขภาพของเซลล์ต่างๆทั่วร่างกายรวมทั้งของหลอดเลือดหัวใจ
- ความเครียด เพราะส่งผลให้หลอดเลือดต่างๆโดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองบีบหดตัว ช่องในหลอดเลือดจึงตีบแคบ กล้ามเนื้อหัวใจและเซลล์สมองจึงขาดเลือดได้
- โรคอ้วนในเด็ก(แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘เด็กอ้วน เด็กน้ำหนักตัวเกิน’)
ข. ปัจจัยที่ไม่สามารถป้องกัน/ควบคุมได้: เช่น
- พันธุกรรม: เพราะพบโรคได้สูงกว่าในคนมีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้
- อายุ: ยิ่งอายุมากขึ้น เซลล์ในร่างกายที่รวมถึงเซลล์หลอดเลือดจะเสื่อมตามไปด้วย
- เพศ: ผู้ชายพบเกิดได้สูงกว่าผู้หญิง
โรคหลอดเลือดหัวใจมีอาการอย่างไร?
อาการพบบ่อยของโรคหลอดเลือดหัวใจ เช่น
- ไม่มีอาการเมื่อเริ่มเป็นโรคหรือเมื่อหลอดเลือดยังตีบไม่มาก
- เหนื่อยง่ายเมื่อออกแรงหรือออกกำลัง
- เจ็บแน่นหน้าอกเมื่อใช้กำลังเพิ่มขึ้นหรือเมื่อมีความเครียด (ผู้หญิงมักไม่ค่อยพบมีอาการนี้) อาการอาจร้าวไปที่ขากรรไกร ไหล่ และ/หรือ แขนด้านใดก็ได้ แต่มักเป็นด้านซ้าย
- อาการของโรคหัวใจล้มเหลว (หัวใจวาย) เช่น เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว บวมหน้าแขน/ขา
- ความดันโลหิตสูง
- ตรวจเลือดพบไขมันในเลือดสูง
แพทย์วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร?
แพทย์วินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจได้จาก
- การซักถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ที่สำคัญ เช่น ประวัติอาการ ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว โรคประจำตัว อายุ อาชีพ/การงาน
- การตรวจร่างกาย ตรวจวัดความดันโลหิต การตรวจสัญญาณชีพ
- การตรวจเลือดดู ระดับไขมันในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด(โรคเบาหวาน)
- ตรวจภาพหัวใจและปอดด้วยเอกซเรย์
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ อาจทั้งในภาวะปกติและในภาวะออกกำลังกาย
- การตรวจสืบค้นอื่นๆเพิ่มเติม ขึ้นกับ อาการผู้ป่วย ความรุนแรงของอาการ และดุลพินิจของแพทย์ เช่น
- ตรวจภาพหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง (เอคโคหัวใจ) และ/หรือด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และ/หรือเอมอาร์ไอ
- ตรวจภาพหลอดเลือดหัวใจด้วยการใส่สายสวน(Cardiac catheterization)
รักษาโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร?
แนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ ขึ้นกับความรุนแรงของโรค และดุลพินิจของแพทย์ เช่น
ก.ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต: ที่สำคัญ เช่น
- กินอาหารที่ช่วยให้ความแข็งแรงกับหลอดเลือดและหัวใจ ซึ่งคือ
- อาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมที่ไม่ทำให้เกิดโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
- จำกัดอาหารไขมัน
- จำกัดอาหารแป้งและน้ำตาล
- จำกัดอาหารเค็ม/เกลือโซเดียม
- แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘อาหารป้องกันโรคหัวใจ’
- การออกกำลังกายทุกวัน ที่เหมาะสมกับสุขภาพ และ/หรือตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ดังกล่าวใน’หัวข้อปัจจัยเสี่ยงฯ’โดยเฉพาะการสูบบุหรี่
ข.ดูแลรักษาควบคุมโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง: เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง
ค.การใช้ยาต่างๆ: ตามอาการผู้ป่วยและดุลพินิจของแพทย์ เช่น
- กินยาขยายหลอดเลือดหัวใจ
- กินยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่นยา Aspirin
- กินยาลดไขมันในเลือด
ง. การขยายหลอดเลือดด้วยเทคนิคต่างๆ และอาจเป็นการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจ แนะนำอ่านเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง โรคหัวใจ:การซ่อมรักษาหลอดเลือดหัวใจตีบ
จ.การนวดกระตุ้นการทำงานของหัวใจ(Enhanced external counter pulsation ย่อว่า EECP): คือเทคนิคการนวดเฉพาะที่ใช้เครื่องมือนวดเฉพาะ โดยนวดบริเวณ ขา น่อง และสะโพกทั้งสองข้าง เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจขึ้นใหม่ทดแทนหลอดเลือดฯที่อุดตัน
โรคหลอดเลือดหัวใจรุนแรงไหม? รักษาหายไหม?
โรคหลอดเลือดหัวใจ จัดเป็นโรคเรื้อรังและรุนแรง เป็นสาเหตุให้เกิดทั้งความพิการและเสียชีวิตได้
- ความพิการ เช่น
- เป็นสาเหตุให้สมองขาดเลือด จากหัวใจทำงานลดลง จึงเกิดภาวะ อัมพฤกษ์ อัมพาต/ โรคหลอดเลือดสมองได้ง่าย และ
- คุณภาพชีวิตลดลงเช่น ต้องจำกัดการออกแรงจาก
- ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และ/หรือ
- กล้ามเนื้อหัวใจตาย และ/หรือ
- โรคหัวใจวาย /โรคหัวใจล้มเหลว(โรคหัวใจ: หัวใจวายจากโรคหลอดเลือดหัวใจ)
ดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเป็นโรคหัวใจ?เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ก่อนนัด? เมื่อไหร่ควรพบแพทย์ฉุกเฉิน?
การดูแลตนเองเมื่อเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจที่สำคัญ เช่น
- ปฏิบัติตาม แพทย์/พยาบาล แนะนำ
- กินยาต่างๆตามแพทย์แนะนำให้ครบถ้วน ถูกต้อง ไม่ขาดยา
- จำกัดอาหารไขมันทุกชนิดโดยเฉพาะไขมันจากสัตว์
- ออกกำลังกายตามควรกับสุขภาพสม่ำเสมอ หรือตามคำแนะนำของ แพทย์ พยาบาล
- ควบคุมอาหารและออกกำลังกายไม่ให้เกิดโรคอ้วน
- ดูแลรักษาควบคุมโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะ โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง
- รักษาสุขภาพกายสุขภาพจิตด้วยการรักษา สุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติแห่งชาติ) เพื่อร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพจิตที่ดี ลดความเครียด
- พบแพทย์/มาโรงพยาบาลตรงตามนัดเสมอ
- รีบพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนนัด เมื่อ
- มีอาการผิดปกติไปจากเดิม
- อาการต่างๆเลวลง
- มีผลข้างเคียงจากยาที่แพทย์สั่งจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ปวดท้องมาก/ปวดท้องต่อเนื่อง มีจุดห้อเลือดตามร่างกายมาก
- พบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเป็นการฉุกเฉินเมื่อ
- เจ็บแน่นหน้าอกมาก อาจเจ็บร้าวขึ้นขากรรไกรไปยังหัวไหล่หรือแขน
- เหนื่อยมาก หายใจขัด/หายใจลำบาก
- ชีพจรเต้นอ่อน ชีพจร/หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก วิงเวียน จะเป็นลม หรือเป็นลม
- หยุดหายใจและ/หรือ
- โคม่า
ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจได้ไหม?
วิธีป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ที่สำคัญ เช่น
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต โดย
- การออกกำลังกายตามควรกับสุขภาพ
- จำกัดอาหารไขมัน แป้ง น้ำตาล เค็ม
- กินอาหารมีประโยชน์ห้าหมู่ โดยจำกัดปริมาณอาหารไม่ให้เกิดโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
- ควบคุมน้ำหนักตัว (แนะนำอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ‘โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน’)
- ควบคุมโรคต่างๆที่เป็นสาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง และ
- รักษา สุขอนามัยพื้นฐาน(สุชบัญญัติแห่งชาติ)
- ไม่สูบบุหรี่ เลิกบุหรี่ ที่รวมถึงสูบบุหรี่มือสอง
- ตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอเริ่มตั้งแต่อายุ 18 - 20 ปี
- ปรึกษาแพทย์เสมอเมื่อมีความกังวลในอาการหรือสงสัยในสุขภาพของตนเอง
ควรพบแพทย์ตรวจโรคหัวใจเมื่อไร?
ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลตรวจโรคหัวใจเมื่อ
- เมื่อยังไม่มีอาการผิดปกติ:
- ควรพบแพทย์ทั่วไปในการตรวจสุขภาพประจำปี
- แต่เมื่ออยู่ในกลุ่มเสี่ยง/มีปัจจัยเสี่ยง:
- อาจปรึกษาแพทย์โรคหัวใจได้เลย ไม่ว่าจะอายุเท่าไร รวมทั้งในเด็กอ้วน
บรรณานุกรม
- Braunwald, E., Fauci, A., Kasper, L., Hauser, S., Longo, D., and Jameson, J. (2001). Harrison’s principles of internal medicine (15th ed.). New York: McGraw-Hill.
- http://en.wikipedia.org/wiki/Coronary_disease [2019,Jan19]
- https://emedicine.medscape.com/article/153647-overview#showall [2019,Jan19]
- https://www.nhlbi.nih.gov/health-topics/coronary-heart-disease-risk-factors [2019,Jan19]