โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ (Proteasome inhibitor)
- โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร
- 13 กุมภาพันธ์ 2561
- Tweet
- บทนำ
- โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
- โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
- โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
- โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
- เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
- หากลืมมารับการให้ยาควรทำอย่างไร?
- โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
- มีข้อควรระวังการใช้โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
- โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
- ควรเก็บรักษาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
- โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีชื่ออื่นอีกไหม?ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
- บรรณานุกรม
- ยารักษาโรค (Pharmaceutical drug)
- ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด
- มะเร็ง (Cancer)
- มะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma)
- โรคมะเร็งผิวหนังเมลาโนมา มะเร็งไฝ
- มัลติเพิลมัยอีโลมา มะเร็งเอ็มเอ็ม (MM: Multiple myeloma)
- Carfilzomib
บทนำ
โพรทีเอโซม(Proteasome) เป็นสารประกอบที่มีความซับซ้อนและเกือบจะเรียกว่าเป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งก็ได้ ในร่างกายของมนุษย์จะพบโพรทีเอโซมอยู่ภายในเซลล์ตามเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆในร่างกาย โครงสร้างของโพรทีเอโซมประกอบไปด้วย
- สายโพลีเปปไทด์/สายโปรตีน 12 เส้น/สาย (Dozen of polypeptide, Polypeptide chain)
- หน่วยควบคุมการทำงาน 2 หน่วย (Two regulatory units)
ทั้งนี้ หน้าที่สำคัญของโพรทีเอโซม คือ การตัดย่อยสารโปรตีน /โปรตีนที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาแต่โปรตีนนั้นไม่ได้คุณภาพ เซลล์จึงไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ การจะทำลายกลุ่มโปรตีนดังกล่าวจะก่อให้เกิดของเสียและต้องใช้พลังงาน(ATP, Adenosine triphosphate) ในการกำจัดโปรตีนเกินความจำเป็นเหล่านั้น ธรรมชาติจึงได้ออกแบบให้โพรทีเอโซมเป็นผู้ตัดทำลายโปรตีนดังกล่าว แล้วนำกลับมาใช้ใหม่(Recycling) เซลล์มะเร็งก็ใช้ประโยชน์จากการตัดทำลายโปรตีนของโพรทีเอโซม เช่นกัน การปิดกั้นการทำงานของโพรทีเอโซมในเซลล์มะเร็งจะทำให้เกิดขยะของสายโปรตีนที่ไม่สามารถนำไปใช้มากขึ้นเรื่อยๆ การสะสมสายโปรตีนที่ไม่มีประโยชน์ดังกล่าวนั้นก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้มีการสลายตัว/การตายของ เซลล์มะเร็ง
ปัจจุบันมียาประเภท “โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์(Proteasome inhibitor)” เข้ามามีบทบาทใช้รักษาโรคมะเร็งชนิด Melanoma และชนิด Multiple myeloma ในโรคระยะแพร่กระจาย ตัวอย่างของยาในกลุ่มนี้ที่อยู่ระหว่างการนำเสนอและมีการศึกษาทดลองใช้ทางคลินิก ได้แก่ Disulfiram, Epigallocatechin-3-gallate, Marizomib, Oprozomib, Delanzomib, Epoxomicin และ Beta-hydroxy beta-methylbutyrate
อย่างไรก็ตามมียาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์อยู่ 3 รายการที่ปัจจุบันได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียนยาแผนปัจจุบัน ดังนี้
- Bortezomib ใช้รักษามะเร็งชนิด Lymphoma, Multiple myeloma โดยเป็นยาชนิดฉีดและมีราคาสูงมาก มีบันทึกสถิติทางคลินิกพบว่ายานี้สามารถยืด ระยะเวลาการมีชีวิตได้นานเฉลี่ย 6 เดือน ยาBortezomib มีจัดจำหน่ายภายใต้ ชื่อการค้าว่า Velcade, Neomib และ Bortecad
- Carfilzomib ใช้รักษามะเร็ง Multiple myeloma เป็นยาฉีดและจัดจำหน่าย ภายใต้ชื่อการค้าว่า Kyprolis
- Ixazomib ใช้รักษามะเร็ง Multiple myeloma มีรูปแบบเภสัชภัณฑ์เป็นยาชนิดรับประทาน จัดจำหน่ายภายใต้ชื่อการค้าว่า Ninlaro
ในประเทศไทยสามารถพบเห็นการใช้ยา Bortezomib และ Carfilzomib ยาทั้ง 2 รายการ เป็นยาควบคุมพิเศษ และมีใช้ในสถานพยาบาลเท่านั้น ส่วน Ixazomib ยังไม่พบเห็นการขึ้นทะเบียนหรือจัดจำหน่ายในไทย การใช้โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์เพื่อรักษามะเร็งต้องอาศัยความต่อเนื่อง การคำนวณขนาดและระยะเวลาการใช้ยาต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์ผู้ที่ทำการรักษาเท่านั้น
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีสรรพคุณ(คุณสมบัติ)อย่างไร?
ยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีสรรพคุณ/ข้อบ่งใช้ เช่น
- รักษามะเร็ง Lymphoma และ Multiple myeloma
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ มีกลไกการออกฤทธิ์โดยตัวยาจะปิดกั้นการทำงานของสาร Proteasome ในเซลล์มะเร็ง ทำให้มีปริมาณสายโปรตีนที่ไม่มีประโยชน์มีมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง ด้วยกลไกนี้ทำให้เซลล์มะเร็งฝ่อตัว สลายตัว/ตายไป จึงหยุดการลุกลามแพร่กระจายในที่สุด
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาโพรทีเอโซมอินฮิบิเตอร์ มีรูปแบบการจัดจำหน่าย เช่น
- ยาฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ เช่นยา Bortezomib และ Carfilzomib
- ยาชนิดรับประทาน เช่นยา Ixazomib
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีขนาดการบริหารยาอย่างไร?
การใช้ยาโพรทีเอโซมอินฮิบิเตอร์กับผู้ป่วยจะต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของแพทย์เท่านั้น
- กรณีเป็นยาประเภทฉีด แพทย์จะต้องใช้คำนวณขนาดการใช้ยาโดยใช้พื้นที่ผิว ของร่างกายผู้ป่วยมาเป็นเกณฑ์ประกอบการคำนวณ ขนาดยาจึงต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย
- กรณีเป็นยาแบบรับประทาน ผู้ป่วยต้องรับประทานยาตามขนาดและตามรอบเวลาตามที่แพทย์กำหนด ซึ่งจะต่างกันในผู้ป่วยแต่ละรายด้วยการประเมินของแพทย์จากผื้นที่ผิวของร่างกายเช่นกัน
การปรับเปลี่ยนขนาดรับประทานหรือไม่มารับการฉีดยานี้ ตามที่แพทย์นัดหมายจะทำให้ประสิทธิผลของการรักษาด้วยโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ด้อยลงไป และทำให้อาการของมะเร็งลุกลาม
เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดรวมยาโพรทีเอโซมอินฮิบิเตอร์ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยา/ใช้ยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆ รวมทั้งกำลังกินยา/ใช้ยาอะไรอยู่ เพราะยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรืออาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กิน/ที่ใช้อยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารกจนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมมารับการให้ยาควรทำอย่างไร?
หากลืมมารับการให้ยานี้/ลืมรับประทานยานี้ ผู้ป่วยต้องรีบติดต่อ แพทย์ พยาบาล หรือบุคคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการนัดหมายการให้ยาครั้งใหม่โดยเร็ว ไม่ควรหยุดการรักษาโดยมิได้ขอคำปรึกษาจากแพทย์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการลุกลามของเซลล์มะเร็งที่ตนเองเป็นอยู่
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์จากยา (ผลข้างเคียง/อาการข้างเคียง)ต่อระบบอวัยวะต่างๆของร่างกายดังนี้ เช่น
- ผลต่อระบบทางเดินอาหาร: เช่น คลื่นไส้ ท้องเสียหรือท้องผูก อาเจียน
- ผลต่อระบบประสาท: เช่น วิงเวียน มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะ
- ผลต่อระบบทางเดินหายใจ: เช่น เกิดโรคติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนบนได้ง่าย หายใจขัด ไอ ปอดบวม
- ผลต่อระบบเลือด: เช่น เกิดโลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ
- ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด: เช่น บวมปลายมือปลายเท้า ความดันโลหิตสูง
- ผลต่อสภาพจิตใจ: เช่น นอนไม่หลับ
- ผลต่อตับ: เช่น เอนไซม์การทำงานของตับในเลือดสูงขึ้น
- ผลต่อกล้ามเนื้อ: เช่น ปวดหลัง ปวดข้อ กล้ามเนื้อหดเกร็งตัว/เป็นตะคริกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ผลต่อการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย: เช่น ระดับโปแตสเซียมในเลือดต่ำ และระดับแมกนีเซียมในเลือดต่ำ
มีข้อควรระวังการใช้โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
มีข้อควรระวังการใช้ยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ เช่น
- ห้ามใช้กับผู้ที่แพ้ยากลุ่มนี้
- กรณีเป็นยารับประทาน ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง
- ห้ามใช้ยาอื่นใดร่วมกับยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์โดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันภาวะยาตีกัน/ปฏิกิริยาระหว่างยา
- การใช้ยานี้กับสตรีมีครรภ์/ตั้งครรภ์ สตรีในช่วงให้นมบุตร และเด็ก ต้องเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น
- ผู้ป่วยต้องรับยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ อย่างต่อเนื่องตามคำสั่งแพทย์ ห้ามหยุดการใช้ยานี้ด้วยตนเอง
- กรณีพบอาการแพ้ยา เช่น มีผื่นคัน ผิวหนังบวมแดง ผิวหนังลอก แน่นหน้าอก หายใจขัด ใบหน้า-ปาก-คอมีอาการบวม ซึ่งเป็นอาการแพ้ยานี้ ต้องหยุดใช้ยานี้ทันที และต้องรีบมาโรงพยาบาลทันที/ฉุกเฉิน เพื่อแพทย์ได้ดำเนินการรักษาโดยเร็ว
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
***** อนึ่ง ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา”ที่รวมถึง ยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ด้วย) ยาแผนโบราณ อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกครั้ง ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด(อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอ
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่น เช่น
- ห้ามใช้ยาCarfilzomib ร่วมกับยาZafirlukast เพราะจะทำให้เส้นประสาทของผู้ป่วย เกิดความเสียหายได้
- ห้ามใช้ยาBortezomib ร่วมกับวัคซีนไข้ทรพิษ ด้วยจะทำให้เกิดความเสี่ยงของการติดเชื้อจากวัคซีนดังกล่าว และยังทำให้การกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีนไม่ประสบความสำเร็จอีกด้วย
- ห้ามใช้ยาIxazomib ร่วมกับยาPhenobarbital เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพ การรักษาของยา Ixazomib ด้อยลง
ควรเก็บรักษาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์อย่างไร?
ควรเก็บรักษายาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ ดังนี้ เช่น
- เก็บยาCarfilzomib ในช่วงอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส(Celsius)
- เก็บยาBortezomib ในช่วงณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส
- เก็บยาIxazomib ภายใต้อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส
ยาทุกชนิด ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งตู้เย็น เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสง/แสงแดด ความร้อนและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ที่สำคัญเก็บยาตามระบุในเอกสารกำกับยา
โพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไรบ้าง?
ยาโพรทีเอโซม อินฮิบิเตอร์ มียาชื่อการค้า และบริษัทผู้ผลิต/ผู้จำหน่าย เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
KYPROLIS (ไคโพรลิส) | Onyx Pharmaceuticals, Inc. |
Ninlaro (นินลาโร) | Takeda Pharmaceuticals North America, Inc. |
Velcade (เวลเคด) | Janssen-Cilag |
บรรณานุกรม
- https://en.wikipedia.org/wiki/Proteasome_inhibitor [2018, Jan27]
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3524306/ [2018, Jan27]
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4508135/ [2018, Jan27]
- https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/16024630/ [2018, Jan27]
- https://www.drugs.com/monograph/bortezomib.html [2018, Jan27]
- https://en.wikipedia.org/wiki/Ixazomib [2018, Jan27]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/bortezomib-with-smallpox-vaccine-402-0-2072-0.html [2018, Jan27]
- https://www.drugs.com/drug-interactions/ixazomib-with-zafirlukast-3711-0-2317-0.html [2018, Jan27]
- https://www.accessdata.fda.gov/drugsatfda_docs/label/2015/208462lbl.pdf [2018, Jan27]